ราชบัณฑิต ไม่เห็นด้วยเปลี่ยนสุภาษิตเป็น "รักวัวให้ผูก รักลูกให้กอด"
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ราชบัณฑิต ไม่เห็นด้วยมติ คกก.ปฐมวัย เปลี่ยนสุภาษิต "รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี" เป็น "รักวัวให้ผูก รักลูกให้กอด"
ชี้เป็นสุภาษิตคำพังเพยที่มีแต่โบราณ ควรเพิ่มได้แต่ไม่ควรเปลี่ยน ขณะที่ สมพงษ์ ชี้ควรไม่ควรเปลี่ยนสุภาษิต
แต่เปลี่ยนที่ค่านิยม ระบุเด็กยุคใหมาตีได้แต่ต้องมีเหตุผลทำไมถึงต้องตี
สืบเนื่องจากวานนี้ (27 ส.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาปฐมวัยแห่งชาติ มีมติเห็นชอบเปลี่ยนสุภาษิตที่ว่า
"รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี" เป็น" รักวัวให้ผูกรักลูกให้กอด" เพื่อหวังเปลี่ยนค่านิยมสร้างความอบอุ่น และเพื่อใช้เป็นนโยบาย
ยุทธศาสตร์การศึกษาปฐมวัยและดำเนินการตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 โดยจะมีการเสนอขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็ว ๆ นี้
ศ.ดร.กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต สำนักศิลปกรรม ราชบัณฑิตยสถาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า
มองว่าเป็นเรื่องประหลาด สุภาษิตคำพังเพยเป็นคำโบราณที่มีมานานแล้ว ไม่ควรเปลี่ยนแต่ควรสร้างคำใหม่
ซึ่งเห็นว่าของเก่าดีอยู่แล้ว และที่เด็กไทยปัจจุบันเสีย ส่วนตัวเห็นว่าเพราะผู้ใหญ่ไม่ตีเด็ก ส่วนการกอดก็สามารถทำได้แต่ไม่ใช่ทุกกรณี ด้าน รศ.ดร.สมพงษ์ จิตรระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสุภาษิตคงทำได้ยาก
เพราะเป็นวิถีชีวิตคงคนดั้งเดิมจนมาถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรเปลี่ยนสุภาษิตแต่ควรเปลี่ยนค่านิยมมากกว่า
สำหรับการเลี้ยงลูกในยุคสมัยใหม่การตีก็ยังใช้ได้ผลดีอยู่แต่ต้องมีเหตุผลว่าทำไมถึงตีลูก
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000105877