วันนี้อ่าน พาดหัวข่าว นสพ. หลายฉบับครับ และฟังคุณสรยุทธวิจารณ์ข่าวด้วย
รู้สึกหดหู่กับสันดานสื่อมวลชน สว. นักการเมือง และนักกิจกรรมบางกลุ่มจริงๆครับ

ทาง จนท. ได้พยายามระงับเหตุจนถึงที่สุดแล้ว ยังมาพาลหาเรื่องตำหนิ พูดเข้าทาง พวกก่อการร้ายเสียอีก แค่หวังผลทางการเมืองส่วนตัว ถึงกับต้องพาลทำให้ความมั่นคงของชาติสั่นคลอน
แม้พรรคประชาธิปัตย์ เองพูดจาไม่รู้กาละเทศะ ผีเจาะปากมาแท้ๆ

ดูอเมริกาเป็นตัวอย่างสิครับ ตอนเริ่มสงครามอิรัก แม้พรรคฝ่ายค้านจะไม่เห็นด้วย แต่เมื่อเข้าสู่สงครามแล้วต้องแสดงความสามัคคีออกมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรื่องกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านก็ยุติไปก่อน เข้าเห็นความสำคัญของภาพรวมมากกว่าจะมาเหยียบหัวกันเองครับ
เรื่องไฟใต้คุโชนระลอกหลังนี้ จุดเริ่มไม่ใช่ประเด็น ยุบ ศอบต. อย่างเดี่ยวหรอกครับ มันเริ่มตั้งแต่ ยุติบทบาทของกองทัพภาค 4 เมื่อสิบกว่าปีก่อน เพราะกระเทยบางคนมีอักคติกับทหารเกินเหตุ หลังจากนั้นเกิดการลองของเผา รร. 38 แห่งพร้อมกัน ก็เลยแก้ขัดด้วยการจัดตั้ง ศอบต. การทำงานของ ศอบต. เป็นต้นเหตุให้เชื้อร้ายลามระยะยาว มีสายอยู่ทุกตำบล แต่ตัวสายเองมีพฤติกรรมไม่ดี ใช้วิธีโจรปราบโจร กลับเป็นตัวกระตุ้นให้พวกก่อการร้าย เจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ พอรัฐบาลชุดหลังยุบ ศอบต. ก็ยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่ ระยะเวลาที่ผ่านมามันนานพอที่จะล้างสมองเยาวชน จนเติบโตเป็นกำลังสำคัญของพวกมันได้
ส่วนตัวแล้วผมมองว่า เหตุวุ่นวายขณะนี้ เป็นโชคดีของฝ่ายเราครับ โชคดีที่พวกมันประเมินสถานะการณ์ผิด โชคดีที่พวกเรารู้ตัวก่อน ถ้าไอ้พวกเวรห้าร้อยนั้น ซ่องสุมกำลังเงียบๆ อดทนอีกซัก 5 ปี แล้วค่อยก่อการใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้นเราจะรับมือมันได้ยากครับ
สถานะการณ์ที่เป็นอยู่นี้ เราคงต้องใช้เวลาจัดการอีกหลายปีครับ พวกเราต้องสู้ต้องอดทนครับ