+++ กรมอุตุฯ ชี้ "แกมี" ขึ้นฝั่งเวียดนามวันนี้ +++
จากนั้น 6-8 ตค.ทำฝนตกถล่มไทย เริ่มจากอีสาน
วันที่ 6 ต.ค. เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศพายุ แกมี (GAEMI)" ฉบับที่ 20 (293/2555) ลงวันที่ 06 ตุลาคม 2555 ระบุว่า เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ พายุโซนร้อน แกมี บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 450 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 14.0 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 113.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กม./ชม.
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะจะมีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนามในวันที่ 6 ตุลาคม 2555 จากนั้นจะอ่อนกำลังลงและเคลื่อนผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง ของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 6-8 ตุลาคม 2555 บริเวณพื้นที่ตามเส้นทางเดินพายุและพื้นที่ใกล้เคียง มีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึง หนักมากในหลายพื้นที่กับมีลมแรง โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัด สระแก้ว และปราจีนบุรีก่อน ส่วนภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรงในช่วงระยะนี้
สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบน และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 7-9 ตุลาคม 2555 โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังปานกลางยังคงพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเข้าสู่พายุ แกมี
เช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ในพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ที่มีปริมาณน้ำสูงเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ หลังจากในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน แกมี ทำให้ตั้งแต่ช่วงเช้าในหลายพื้นที่มีปริมาณฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในบางพื้นที่เล็กน้อย ล่าสุดหม่อมหลวงอนุมาศ ทองแถม ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 101.110 ล้าน ลบ.ม. เทียบเท่าเป็น 92 เปอร์เซ็นต์จากความจุทั้งหมด 110 ล้าน ลบ.ม. โดยมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยอยู่ที่ 2.2 ล้าน ลบ.ม.ขณะที่อ่างเก็บน้ำฯก็ได้มีการเร่งระบายน้ำออกจากอ่างเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำ อีกทั้งอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงยังสามารถรับน้ำได้อีก 9 ล้าน ลบ.ม.
หม่อมหลวงอนุมาศ กล่าวว่า ส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆของจังหวัดนครราชสีมา ล่าสุดพบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว อยู่ที่ 138.285 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 43.97 % ของความจุปกติที่ 314.49 ล้าน ลบ.ม. , อ่างเก็บน้ำลำแชะ ที่อำเภอครบุรี ปริมาณน้ำอยู่ที่ 162.980 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมด 275.00 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 59.27 % และอ่างเก็บน้ำลำมูลบน อ.ครบุรี ปริมาณน้ำอยู่ที่ 60.910 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมด 141 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 43.20% ทั้งนี้ทางชลประทานที่8 นครราชสีมา มั่นใจว่าพายุโซนร้อนแกมี จะส่งผลให้ปริมาณน้ำในแต่ละอ่างเพิ่มขึ้นแต่ไม่ถึงวิกฤติ เนื่องจากอ่างเก็บน้ำได้แต่ละแห่งได้มีการระบายน้ำเพิ่มรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาเพื่อกักเก็บไว้ใช่ในฤดูแล้ง
ที่มา ข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME9UUTVORFkyTUE9PQ==&subcatid=