มีพระเครื่องดี ห้อยคอ ผมเจอ กับคนรู้จักมา ๒ คดี มีตายไปแล้ว ๓ คน อีก ๓ คน ไม่แน่ใจ
คดีที่ ๑ หลอกซื้อแล้วฆ่า ชิงหลวงพ่อเงิน หมกร่างไว้ ริมบึงสีไฟ พิจิตร จับคนร้ายไม่ได้ แต่จับนกต่อ ได้ ติดคุกอยู่ ๒ ปี หลุดคุก
แสดงความกร่าง.. มาถูกแทงหัวใจ ในงานวัด ที่เมืองเก่า
คดีที่ ๒ น้องชาย คนรู้จักกัน เป็นเจ้าของปั้มน้ำมันที่ บึงสามพัน มีพระดีหลายองค์ รวมถึงสมเด็จพระระฆัง เช้าวันหนึง พบตัวแข็งใบหน้ายับ เพราะถูกตี
น่าเวทนามาก ศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์ ประหารชีวิตจำเลย ทั้ง ๓ คน ศาลฎีกา ไม่ทราบ ครับ
สำหรับผมพระเครื่อง ดัง ๆ ถูกอีลัก ไปหมด ตั้งแต่ พระรอดลำพูน กรุวัดมเหวัน หลวงพ่อเงินบางคลานองค์ลอย
ปรกโพธิ์เพชรบูรณ์อายุ เกิน ๕๐๐ ปี.. ๓ องค์นี้ ..ราคารวมกัน น่าจะเกิน ๕ ล้าน เพราะครั้งนั้น ยึดถือแต่ Sig 226 เป็นที่พึ่ง.

ถ้าสามารถ เข้าใจในข้อเท็จจริง แล้วจัดสรร ความสำคัญอย่างเหมาะสม อย่าไปสลับตำแหน่งกัน ท่านย่อมได้รับสิ่งที่ดี ๆ เสมอ ครับ.

ตอนมีความทุกข์ เราจะหาที่พึ่งทางใจเพื่อไม่ให้แกว่งน่ะครับพี่ฐา ผมเลยเริ่มพึ่งความศรัทธา..

ส่วนความจริงมันก็มีองค์ประกอบหลายอย่าง แต่สำคัญที่สุดคือการทำดี...
แต่มีเหตุการณ์นึงที่ผมหลับในแล้วรอดมาได้ คนรู้จักทุกคนถามอย่างเดียวว่าห้อยพระอะไร ไม่ถามว่าทำยังไงถึงรอดมาได้...

ทุกวันนี้ผมมีพระที่ราคาแพงยังไง ก็ยังไม่กล้าเปลี่ยนขึ้นคอเหมือนกันครับ กลัวว่าดวงจะเปลี่ยน ซึ่งความเป็นจริงก็คือเพราะเราเป็นของเราอย่างนี้อยู่แล้ว คนเห็นก็เลยให้งานเรา แต่ผมก็ยังคิดกังวลวนเวียนอยู่ในหัว ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงอะไรที่อยู่ในตัว...
แต่ถ้าใครมีศรัทธาเชิงดูหมิ่นมากๆ เฉพาะคนที่เล่นปืน คุยมาคุยไปผมก็จะบอกว่าผมยังมีตะกรุดพระกล็อคอีกหนึ่งหน่วย ที่ทำให้อุ่นใจที่สุด...
แต่ตกใจจริงๆครับ พอเข้าวงการพระเครื่อง พระหนึ่งองค์มีค่าเท่ากับบ้านหนึ่งหลัง และจะมีราคายิ่งๆขึ้นไปตามกาลเวลา...
เรื่องที่มองไม่เห็น ผมไม่กล้าพูดอะไร... แต่เรื่องที่จับได้ต้องได้ ผมก็เชื่อว่า "ปืน" คือเพื่อนคนสุดท้ายของเราครับ...
