ลักษณะทั่วไปทางวิทยาศาสตร์ ของแลนเนท(Lantane)จะเป็นผลึกของแข็งสีขาว มีกลิ่นกำมะถันเจือจาง สลายตัวได้ดีในสภาพที่มีอุณหภูมิสูงหรือในสภาพที่เป็นด่าง แต่เพราะแลนเนท(Lantane)มีสีขาวคล้ายน้ำตาล ในปัจจุบันผู้ผลิตจึงต้องผสมสีเข้าไปเพื่อให้ดูแตกต่างจากน้ำตาล และป้องกันการเข้าใจผิดในการนำไปใช้งาน ดังนั้นลักษณะที่พบเห็นได้ทั่วไปจึงเป็นผงสีฟ้าหรือขาว (
http://www.chemtrack.org/News-Detail.asp?TID=7&ID=103)
คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของแลนเนท(Lantane)คือ มีกลิ่นน้อยมากและละลายน้ำได้ดี จุดนี้ถือว่าต้องระวัง เนื่องจากยังมีการนำแลนเนท(Lantane)ไปใช้ในทางที่ผิดดังที่เป็นข่าวการวางยาพิษหวังทำร้ายหรือฆ่าผู้อื่น และบางกรณีใช้เป็นยาเบื่อสุนัขเพื่อลักทรัพย์
อาการเป็นพิษ แลนเนท(Lantane)เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเกิดกระบวนการเมตาบอริซึม บางส่วนจะถูกขับออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว แต่บางส่วนจะตกค้างอยู่ในร่างกาย และตามเนื้อเยื่อส่วนต่างๆจะก่อให้เกิดพิษ โดยจะไปขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Cholinesterase และส่งผลกระทบต่อส่วนต่างๆของร่างกาย อาการพิษที่เกิดขึ้นจะมีอาการอ่อนเพลีย เหงื่อออกมาก ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว แน่นหน้าอก ม่านตาหรี่ กล้ามเนื้อกระตุก ชีพจรเต้นเร็ว ชัก หมดสติ และอาจถึงแก่ความตายได้
การแก้พิษเบื้องต้น
- ถ้าสัมผัสถูกผิวหนัง ให้รีบล้างด้วยน้ำสบู่มาก ๆ
- ถ้าเข้าตาให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดนาน ๆ อย่างน้อย 15 นาที
- เมื่อกลืนกินแลนเนท(Lantane)เข้าปาก ต้องทำให้ผู้ป่วยอาเจียนด้วยการล้วงคอ หรือให้ดื่มน้ำเกลืออุ่น (เกลือ 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่น 1 แก้ว) แล้วให้ผู้ป่วยกินยาอะโทรปินซัลเฟต 1/100 เกรน 2 เม็ด แล้วรีบนำส่งแพทย์ทันที