เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 20, 2025, 08:16:09 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 7 8 9 [10] 11 12
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กลุ้มใจ ++แฟนอยากซื้อปืนมากแต่ ........  (อ่าน 25352 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #135 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2004, 01:19:50 PM »


ผมต้องไปทำประกันชีวิตก่อนคับ....
พี่บุญ
 Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

ภูกามยาว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 128
ออฟไลน์

กระทู้: 6657



« ตอบ #136 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2004, 08:27:14 PM »

ผมว่าเราน่าจะให้เกียรติซึ่งกันและกันมากกว่า  ยอมรับในเหตุและปัจจัยที่จะเข้าในชีวิตคู่ Wink Wink Wink Wink Wink Wink Wink Wink
 แต่ยังงัยแฟนผมก็ หนับหนุนให้ซื้อปืนอีกครับ (กระบอกสุดท้ายแล้วน่ะ..........นายเอ๋ Lips Sealed Lips Sealed Lips Sealed)
บันทึกการเข้า
visith
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 474
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9438



« ตอบ #137 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2004, 10:07:29 PM »

...ไม่เคยคิดว่าเรื่องซื้อปืนจะเป็นประเด็นชี้ขาดความรัก Embarrassed Cry Cool Wink

....เดาว่า "ปืน" เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆข้ออ้างในการ "บอกเลิก" หากไม่สามารถยอมรับตัวตนซึ่งกันและกันได้ ก็ลดความสัมพันธ์เหลือเพียง เพื่อน หรือ คนรู้จัก แล้วต่างไปแสวงหา อนาคต ที่แต่ละคนวาดหวังไว้...ดีกว่า จะมาทนอยู่ด้วยกันแบบไม่มีความสุข... Wink...
บันทึกการเข้า



"ร่วมส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิการใช้อาวุธปืนของประชาชน"
SA-KE
เมื่อเดินผิด ย่อมมิใช่มนุษย์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 702
ออฟไลน์

กระทู้: 3612


เรารักในหลวง


« ตอบ #138 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2004, 10:36:56 PM »

อุตสาห์ ทำใจเปิดผ่านกระทู้นี้ได้หลายวัน พอวันนี้ ( สงสัย..ทำไม มันยาวเหลือเกิน?? ) เปิดเข้ามา   เอ..วัง  เสียแล้ว  แต่ก็ได้เห็นความคิดเห็นของหลายๆท่าน อ่านแล้วดีเหมือนกันครับ  ...นานาจิตตัง  สุดท้ายอยู่ที่ตัวเราครับ
บันทึกการเข้า

คนต่างกับสัตว์ที่ "ความคิด"  ,  คนต่างกับมนุษย์ที่ "ศีลธรรม"
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #139 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2004, 01:28:40 PM »

ผมว่าจะไม่ออกความเห็นกระทู้นี้ แต่ก็อดไม่ได้

เรื่องชายและหญิง มุมมอง วิธีคิด ปัญหาโลกแตก

ปัญหานี้เกิดเกือบทุกที่ โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายชายมีรายได้ต่ำกว่าฝ่ายหญิง
รายได้ 3 หมื่นกว่าต่อเดือน รับผิดชอบตัวเองและครอบครัวได้ แต่คงไม่พอจะรับผิดชอบคุณ
การที่เค้ารับผิดชอบครอบครัว คงไม่ใช่ความผิดกระมัง น่าจะเป็นความน่าสรรเสริญที่เค้าดูแลครอบครัวด้วยซ้ำ

คุณมีรายได้ 5 หมื่นบาท แต่มันเป็นเงินของคุณ ไม่ใช่เงินส่วนรวม
ถ้าเป็นผม ผมจะไม่คิดแบบนั้น เรามีเงินรวมกันตั้ง 8 หมื่น ทำอะไรได้มากกว่าเยอะเลย

ความอยากมีอยากเป็นอยากได้ เกิดกับทุกคน เพียงแต่ใครจะจัดการได้ดีกว่ากัน
แบบไหน และ อย่างไร จะลดความอยาก หรือสร้างกำลังซื้อเพิ่มก็แล้วแต่

ผู้ชาย   อาจมีความเป็นเด็กสูง ชอบและทำในสิ่งที่อยากทำ
ผู้หญิง  ต้องการความมั่นคงและหลักประกันในชีวิต

ถ้าผมจะพูดว่า คุณมองตัวเองหรือครอบครัวของคุณในอนาคตเป็นหลัก จะแรงไปไหม
ถ้าผมพูดว่า ระหว่างคุณสองคน ความเชื่อถือ ความเคารพนับถือซึ่งกันและกันหายไปแล้ว จะผิดไหม

ข้อความของคุณบอกเนื้อความมาหมดแล้ว ในเมื่อไม่มีความพอใจในสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
หมดแล้วซึ่งความมั่นใจ เชื่อใจ และนับถือซึ่งกันและกันแล้ว  เลิกเถอะครับ
เพราะถ้าไม่เลิกมันก็จะวนเวียน เป็นจุดด่าง กัดกินความรู้สึกของคุณอยู่ตลอดไป
 
คงไม่มีใครถูกหรือผิด ต่างคนต่างมีมุมมองและความต้องการของชีวิตแตกต่างกัน
คุณสองคนต้องตัดสินใจเองว่าจะเลือกอะไร เดินในทางที่ตนอยากเดิน
เดินในทางของคู่ชีวิต  หรือคู่ชีวิตขีดเขียนเส้นทางใหม่ที่เดินร่วมกัน

เขียนมาอาจไม่ตรงใจใคร อาจยึดติดกับอุดมคติ ที่คนสองคนเดินไปด้วยกัน สุขทุกข์คู่กัน
ถ้อยทีถ้อยอาศัย แบ่งปัน หยิบยื่น และเสียสละให้กัน ร้องไห้ หัวเราะไปพร้อมๆกัน ไม่คาดหวังอะไรจากใคร

อย่าให้วัตถุอยู่เหนือจิตใจ จิตใจที่อบอุ่นและเข้าใจกัน นำพาฝ่าฟันปัญหาทุกอย่าง

ณ วันนี้ ถ้าความเข้าใจและผูกพันมันช่วยไม่ได้ คุณก็คงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว

คำที่ว่า ผู้ชายแต่งงานเพราะรัก แต่ผู้หญิงแต่งงานเพราะความมั่นคง คงเป็นความจริง

อย่าหาว่าเข้าข้างผู้ชาย แต่ผมก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง และพยายามจะเป็นบะหมี่สำเร็จรูป
จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน หมดปัญหานี้ไปเรื่องนึงชีวิตคู่คงอยู่ร่วมกันได้ง่ายขึ้นอีกเยอะ

-----------ถ้าวันนี้คุณสองคนอายุ 20 ต้นๆ คงไม่เกิดปัญหาแบบนี้-----------



แต่ละท่านเขียนได้ดีจริงๆ เดี๋ยวจะขอกอปเอาไว้ส่งให้เพื่อนๆ อ่าน ขอบคึณล่วงหน้าครับ

ชอบประโยคนี้ "ถ้าอายุ 20  ต้นๆ คงไม่มีปัญหา"  จริงด้วยครับ เพราะวัยนั้นความรักแฟนจะมากกว่าความรักวิถีชีวิตของตัว

บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
RUGER
ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี ตรองดูซีทุกคนก็มีหัวใจ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1262
ออฟไลน์

กระทู้: 23344


ฟ้าลิขิตชีวิตข้า ให้ค้าขาย


« ตอบ #140 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2004, 03:20:28 PM »

Wink อ่านแล้วอยากรู้จักแฟนพี่สมชายคับ...

ถ้าได้เจอหน้าจะได้แสดงความยินดีที่เลือกคนดีเป็นคู่ครอง และแสดงความนับถือที่แฟนพี่สมชายเป็นคนดีที่ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างดีเยี่ยมคับ...

กรณีอย่างแฟนพี่สมชายนี่ต้องถือว่ามี อีคิวสูงมากๆคับ...

ส่วนในกรณีของคุณ bubble นั้น เท่าที่อ่านๆดูแล้ว ผมอยากวิเคราะห์ว่าเป็นบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบ เพอร์เฟ็คชั่นนิสท์ คับ...

ทางจิตวิทยาจัดเป็นกลุ่มของ personality type A คับ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายชัดเจนในชีวิต และ ต้องการที่จะทำให้ๆได้อย่างจุดมุ่งหมาย ไม่ยอมหยุดจนกว่าจะประสบความสำเร็จ...

แต่มีข้อเสียที่จะหักโหมและจริงจังกับทุกๆเรื่องคับ ทำให้เกิดโรคตามมาได้หลายอย่าง เช่น โรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยง และ ความดันโลหิตสูง คับ อย่างไรหมั่นเช็คสุขภาพบ้างนะคับ...

การหางานอดิเรก หรือ สันทนาการ ทำก็จะช่วยลดความเครียดของคุณได้คับ...

ปล.ผมเองก็มีบุคลิกภาพแบบ type A เหมือนกัน ตอนนี้เลยหันมายิงปืนเพื่อเป็นงานอดิเรกคับ ดีนะคับไม่ลองหัดยิงปืนดูบ้างหรือคับ...  Grin
       พี่ หมอ  ตอบอย่างกะรายการปัญหา ชีวิต และสุขภาพ  แหนะ Grin
บันทึกการเข้า

http://www.youtube.com/watch?v=Ci3YXN93QEs
เนื้อร้าย  ต้องตัดทิ้ง  ... 555
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #141 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2004, 02:57:18 AM »

  โดยส่วนตัวผมเข้าใจผู้หญิงนะคับว่าต้องการความมั่นคง มีพิธีกรดังเคยให้สัมภาทว่า ที่เค้าแต่งกะสามีเพราะมองที่ความมั่นคงเนื่องจากผู้หญิงเมื่อแต่งไปแล้วย่อมลำบากกว่าผู้ชายในการตั้งต้นชีวิตใหม่และในสังคมไทยค่อนข้างให้โอกาศผู้หญิงน้อยกว่าผู้ชาย          หากมีอะไรเกิดขึ้นหย่ากะสามีก้ยังได้สินสมรสติดตัวไปผมค่อนข้างชื่นชมนะคับที่เค้ากล้าพูด  ดีกว่าบางคนที่แต่งกะคนรวยแล้วบอกว่าพี่เค้าเข้าใจเป้นคนดีอบอุ่น  ขอถามหน่อยเหอะคับแล้วคนจนนี้มันเลวไม่มีดีเลยหรือไงคับ
  ในกรณีคุณน้าสมชายเนี้ยหายยากมากๆๆคับในสังคมวัตถุนิยมเช่นสมัยนี้   ผมกับแฟนเรายังไม่ได้แต่งงานกันแต่เราใช้กระเป๋าเดียวกัน หาทุกอย่างเพื่ออนาคตด้วยกัน  ผมได้เงินเดือนน้อยกว่าแฟนผมแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราอยู่ด้วยกันได้คือเราแชร์ความคิดและเหตุผลซึ้งกันและกันคับ ที่สำคัญปรับนิสัยเข้าหากัน  จริงอยู่ความมั่นคงสำคัญกะชีวิตแต่ผมอยากบอกว่าความมั่นคงไม่ได้แปลว่าเงินอย่างเดียวนะคับมันหมายความได้หลายอย่างมาก
มันอาจจะหมายถึงคนคนนั้นเค้าพยายามไหมเค้าทำตัวเช่นไรขวนขวายหาอนาคตความมั่นคงใส่ตัวไหมมุมานะหรือเปล่า    หากรวยล้นฟ้าแต่เล่นการพนันเที่ยวทุกคืนไม่ทำมาหากินเจ้าชู้ประตูดินมีเมียไปทั่วคุณคิดว่าเค้ามั่นคงไหมคับ   พ่อแม่ผมก็สร้างเนื้อสร้างตัวกันมาจากเงิน500บาท ผมถามแม่ว่าทำไมถึงแต่งกับพ่อผมทั้งๆๆที่แม่ฐานะดีกว่าพ่อผมมากและตอนแต่งแม่ไม่ได้เอาอะไรมาจากทางบ้านเลยมากันแต่ตัว   แม่ตอบว่าเพราะพ่อเป้นคนดีไม่เที่ยวไม่กินไม่เล่นไม่เจ้าชู้วันๆเอาแต่ทำมาหากิน  จนครอบครัวผมมีทุกวันนี้ได้อย่างน้อยก็เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าใคร  ผมตั้งกะคบกับแฟนมาไม่เคยมีอะไรที่อยากได้แล้วไม่ได้คับต่อให้ราคาเท่าไหร่ก็เหอะเพราะเราช่วยกันสร้างโดยเราจะคุยกัน   เค้าจะถามคำแรกเลยว่าจำเป้นไหม  อยากได้มากไหม รอได้ไหม  ซื้อมาแล้วเดือนร้อนเรื่องเงินไหม  ทำไมต้องซื้อแพงๆๆ  ถ้าตอบเค้าให้เค้ายอมรับในเหตุผลเราได้   เค้าก็โอเคอนุมัติ Cheesy พอถึงคราวเค้าอยากได้อะไร    เค้าก้จะถามผมซื้อได้ไหมซื้อดีหรือปล่า    ผมก้จะบอกเค้าว่าอยากได้ก็ซื้อคิดซะว่าให้รางวัลตัวเองละกันที่ทำงานมาเหนื่อยๆๆจะได้มีกำลังใจทำงานถ้าซื้อก็ซื้อดีๆๆไปเลยราคาไม่สำคัญเพราะถ้าซื้อมาแล้วใช้มันคุ้มก้น่าซื้อ                       
   คือเราต้องรุ้จักที่จะรับและรู้จักที่จะให้ซึ่งกันและกันนะต้องไม่มีอะไรที่มากไปหรือน้อยไป
อยู่ด้วยกันควรใจเย็นๆๆคุยกันด้วยเหตุผลนะโตๆๆกันแล้วน่าจะมีเหตุผลกันผมว่า  ถ้าถามผม ผมว่าน่าจะหันหน้ามาคุยกันปรับเข้าหากันจะดีกว่านะคับผมไม่ได้ว่าผู้หญิงนะผมหมายถึงทั้ง2ฝ่ายเลยคับ  แม่ผมสอนเสมออยู่ด้วยกันคนหนึ่งร้อนมาเราต้องเย้นไปอะไรที่ยอมไม่ได้บางทีก้ต้องยอมกันบ้าง  อย่าโกรธกันข้ามวันมีอะไรคุยกันดีๆๆและเคลียกันให้จบซะอย่าเก้บไว้ในใจถ้ายังอยากจะอยู่ด้วยกัน และที่สำคัญเอาใจเค้ามาใส่ใจเราให้มากๆๆ  คิดว่าถ้าเราเป้นเค้าเราจะอยู่สึกอย่างไร   
ที่สำคัญนอกบ้านผู้หญิงต้องให้เกียรติผู้ชายเสมอ   แต่กลับถึงบ้านมะไหร่เหอะๆๆๆ Grinเปล่าจ้ากลัวแล้วจ้า........อย่าทำหนูเลย Cryตายแน่ๆๆตู Cry
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #142 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2004, 11:02:01 AM »

พึ่งจะกลับมาอ่านแบบละเอียด ๆ ครับ  Grin

ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นนะคะ แฟนไม่ค่อยพอใจที่เอาเรื่องเขามาประจาน (ดิฉันกะว่าจะพิมพ์ความเห็นในนี้ไปให้เขาดู เลยเล่าให้เขาฟังว่ามาโพสท์ไว้)
ไม่ได้เป็นการประจาน เป็นการเม้าท์  Cheesy Cheesy

สำหรับความคืบหน้าและรายละเอียดในเรื่องนี้ ตอนนี้แฟนก็ยังไม่ได้ซื้อปืนหรอกค่ะ แต่ก็เกรงว่าเขาจะซื้อแน่นอน แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ไปฝึกยิงเลยก็ตาม เขาไม่ซื้อมือสองด้วย เพราะนิสัยเขาชอบของดีๆเอี่ยมๆ ที่เขาไม่ซื้อตู้เสื้อผ้า เตียงก็เพราะแบบราคาไม่กี่พันเขาก็ไม่เอา ถ้าซื้อ เขาก็จะซื้อระดับหลายหมื่นเลย เรียกได้ว่ารสนิยมสูง แต่รายได้ไม่เท่ารสนิยม
เหมือนผมเลย ตอนแต่งน้องสาวของผมจะรวมเงินกับแฟนเขา ซื้อตู้เสื้อผ้าให้ งบหมื่น ... ผมเดิน ๆ หา ไปเจอแบบที่ถูกใจ ต้องสั่งต่อ (เพราะยังกองเป็นชิ้นอยู่) ราคา ๒ หมื่นเอ๊ง (อย่างที่เคยบอก ก๊อกสอง)

บอกให้หางานใหม่หรือหารายได้เสริมเพื่อเพิ่มรายได้ก็ไม่สนใจ ทำงานโปรแกรมเมอร์ เงินเดือน 3 หมื่นกว่า ผ่อนคอนโด+จ่ายส่วนกลางหมื่นกว่า บ้านเก่าของแม่อีก 5 พัน เหลือกินใช้+เติมน้ำมันเดือนละไม่ถึงหมื่น แถมต้องใช้หนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลด้วย เงินเก็บไม่มีเลย ติดลบด้วยซ้ำ สำหรับดิฉันเงินเดือน 5 หมื่น อยู่บ้านพ่อ ไม่มีภาระใดนอกจากผ่อนที่ดินเปล่าที่ซื้อไว้ ถ้าไม่คิดอะไรบ้าง ดิฉันคงใช้เงินเก็บที่มีหลักแสนไปซื้อเพชร ซื้อแบรนด์เนมให้สำราญ แต่ดิฉันมีเป้าหมาย คือจะเก็บเงินไว้ปลูกบ้านของตัวเอง หรือเปลี่ยนรถใหม่
คล้ายกันอีกแล้วครับ ... แต่เงินเดือนผมยังเป็นแค่ ๒ หมื่นหน่อย ๆ แต่ไม่ต้องผ่อนคอนโด (จ่ายแต่ค่าน้ำค่าไฟ) ให้พ่อให้แม่อีกเล็กน้อย เหลือใช้แบบกระเบียดกระเสียนเดือนละไม่ถึง ๕ พัน (ผมยังขึ้นรถเมล์อยู่ครับ ตั้งเป้าไว้ว่า ถ้าไม่ใช่ 220 CDI จะไม่ขับมาทำงาน) ใช้ชีวิตแบบนี้มาหลายปี ซื้อ HK-USPC ได้สบาย ๆ ... ส่วนภรรยาไม่มีเงินเดือน รายได้เท่าไรผมไม่สน แต่เธอก็มีเป้าหมายซื้อรถใหม่เหมือนกัน ทุกวันนี้ผมเป่าหูอยู่ ๒ รุ่น (แบบสุดขั้ว) คือ Honda Jazz (ทางเลือกของคนฉลาดเลือก) และ Benz 220CDI (พี่ชอบน่ะน้อง) .... ส่วนเพชรเธอได้ไปแล้ว คลื่นลมคงสงบไปอีกนาน Wink

ดิฉันคิดว่าคงตัดใจเลิก หากว่าเขาซื้อปืนมาในตอนนี้ เพราะเขาลำดับความสำคัญในชีวิตเขาเช่นนั้น ด้วยการทำตามใจตนเองมากกว่าทำสิ่งที่ควรทำ ขอโสดเป็นสุข สนุกบนคานคงจะดีกว่า ดิฉันไม่คิดขัดขวางหากเขาจะซื้อหาปืน ถ้าเขามีเงินเก็บหลักแสนหรือมีปัจจัยสี่พร้อมแล้ว แต่นี่ภาระหนี้ท่วม รถก็เก่าเกือบสิบปี จะใช้ต่อได้อีกแค่ไหน หากไม่คิดเตรียมเงินไว้ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ เงินเก็บสำหรับแต่งงานก็ไม่มี (เขาบอกว่าเขาอยากจะแต่งงานด้วย แต่คงไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก ด้วยความที่ไม่พร้อมการเงิน) ผู้ใหญ่ที่จะช่วยด้านการเงินก็ไม่มี
ความรักคือความเข้าใจ และให้อภัยครับ กะอีแค่เด็กเลือกของเล่น ผมสนับสนุนให้หนักแน่นเข้าไว้ครับ (ไม่ได้บอกให้หนักไปทางไหนนะ) ...
รถเก่าเหมือนกันอีกล่ะ  Grin (มีอะไรเหมือนกันหลายอย่างดีนะ) ผมเอารถพ่อมาใช้ คันนี้อยู่กับบ้านผมมาสักสิบปีได้ ล่าสุดซ่อมซีลน้ำมันเครื่องไป ๓ พัน ทำเอากองทุนเกษียณของผมสะเทือน ... ผมรอแฟนซื้อรถครับ จะได้ให้พ่อขายไป หรือไม่ก็ให้แฟนผมเอาไปใช้ (รถเกียร์ธรรมดา แฟนขับไม่ได้ครับ)

ตอนแต่งงาน ไม่มีผู้ใหญ่ช่วยเรื่องการเงินครับ ท่านถือว่าโตแล้วรับผิดชอบเอง แฟนผมชอบหรู ชอบมาก ชอบใหญ่ ผมชบเล็ก ชอบตัด ชอบประหยัด สองคนรวมกันบาล๊านซ์พอดี หลังแต่งแฟนยังบ่น ๆ ว่าใช้เงินมากไปหน่อย  Grin Grin

ดิฉันไม่คิดว่าเรื่องปืนจะถือเป็นสาเหตุที่เราเลิก แต่มองว่าเรื่องปืนเป็นจุดแตกหักมากกว่า เป็นจุดสิ้นสุดของความอดทนของดิฉันในเมื่อชีวิตมันคงไม่ดีกว่านี้ ก็คงเป็นสภาพนี้ต่อไป ไร้อนาคตร่วมกัน ก็ควรยุติความสัมพันธ์ดีกว่า ดิฉันมองว่าการซื้อปืนเป็นตัวแทนแสดงออกถึงการใช้อารมณ์(อยากมี อยากได้) ในการกระทำมากกว่าจะใช้สมองไตร่ตรองถึงความจำเป็น ความสมควร  ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาคงไม่เหมาะที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัว 

ยินดีรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมค่ะ
เด็กชอบของเล่นครับ ผมยืนยัน .... การปรับเข้าหากันเป็นเรื่องสำคัญครับ ผมเปิดอกคุยกับภรรยาเสมอ ไม่ชอบเก็บไว้ครับ ... เมื่อคืนดูละคร ผมหันไปถามภรรยาว่า "น้องมีความสุขไหมจ๊ะ" เธอตอบว่า "มีค่ะ แล้วพี่ล่ะค๊ะ" ผมตอบกลับอย่างทันทีว่า "ไม่มี!!" เธอตีหน้าเศร้า "ทำไมล่ะคะ" ผมก็เฉลยว่า "น้องต้องเกาหัวให้พี่ก่อน  Grin" เธอหัวร่อร่าเลย ก่อนจะบอกว่า "นึกว่าจะขอปืนอีกกระบอก กับคอมพิวเตอร์อีก ๑ เครื่อง ..." ..... โอย!!! เสียดายโอกาส   Cheesy Cheesy

ดูรูปครับ แล้วอย่าคิดมาก .... ปล่อยเด็กให้วิ่งเล่นไป เดี๋ยวหิวแล้วก็กลับมากินข้าวเอง  Wink
รูป Studio
http://www.weddingsquare.com/gallery/view_album.asp?Album_ID=137&CatLevel=2&Cat1_ID=1&Cat2_ID=&Cat3_ID=&Cat4_ID=&FromSearch=True&SearchPage=%2Fgallery%2Fdefault%2Easp%3FCatLevel%3D2%26Cat1%5FID%3D1

รูปอื่น ๆ
http://www.weddingsquare.com/gallery/view_album.asp?Album_ID=138&CatLevel=2&Cat1_ID=4&Cat2_ID=&Cat3_ID=&Cat4_ID=&FromSearch=True&SearchPage=%2Fgallery%2Fdefault%2Easp%3FCatLevel%3D2%26Cat1%5FID%3D4
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 29, 2004, 11:16:45 AM โดย jakrit » บันทึกการเข้า

visith
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 474
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9438



« ตอบ #143 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2004, 11:31:34 AM »


อ้างถึง
เด็กชอบของเล่นครับ ผมยืนยัน .... การปรับเข้าหากันเป็นเรื่องสำคัญครับ ผมเปิดอกคุยกับภรรยาเสมอ ไม่ชอบเก็บไว้ครับ ... เมื่อคืนดูละคร ผมหันไปถามภรรยาว่า "น้องมีความสุขไหมจ๊ะ" เธอตอบว่า "มีค่ะ แล้วพี่ล่ะค๊ะ" ผมตอบกลับอย่างทันทีว่า "ไม่มี!!" เธอตีหน้าเศร้า "ทำไมล่ะคะ" ผมก็เฉลยว่า "น้องต้องเกาหัวให้พี่ก่อน  Grin" เธอหัวร่อร่าเลย ก่อนจะบอกว่า "นึกว่าจะขอปืนอีกกระบอก กับคอมพิวเตอร์อีก ๑ เครื่อง ..." ..... โอย!!! เสียดายโอกาส   Cheesy Cheesy

ดูรูปครับ แล้วอย่าคิดมาก .... ปล่อยเด็กให้วิ่งเล่นไป เดี๋ยวหิวแล้วก็กลับมากินข้าวเอง  Wink
รูป Studio

อ้างถึง

....ดูรูปแล้ว...คิดมากครับ.. Sad.....สมัยผมแต่ง ยังไม่มี studio สวยๆแพร่หลายเหมือนปัจจุบัน...ดูแล้ว อยากแต่งใหม่ กับคนใหม่ (หาเรื่อง...ตายทั้งเป็น)....เผื่อจะได้คนช่วย "เกาหัว" เวลาเหงา...ไม่ใช่คนคอย "จิกหัว" .....เหมือนใครบางคน.... Cry  Cry  Grin  Grin
บันทึกการเข้า



"ร่วมส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิการใช้อาวุธปืนของประชาชน"
Nattapol
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #144 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2004, 12:26:16 PM »

           เรื่องของโต๊ะ

ผมคือโต๊ะอาหารในฟู๊ดเซ็นเตอร์
ทุกๆวันระหว่างจันทร์ถึงศุกร์สถานที่แห่งนี้
จะมีคนทำงานออฟฟิศมากมายมาทานอาหารเที่ยงกัน
ผมได้ยินเรื่องราวมากมายจากคนเหล่านี้ไม่ซ้ำหน้า
ไม่ซ้ำเรื่องหลากหลายรสชาด
วันนี้ลองดูซิครับว่ามีเรื่องอะไรที่โต๊ะของผม






ผมได้ยินเสียงแว่วๆของสุภาพสตรีสองคนด้านหลังทางซ้ายมือ
ผมเห็นสุภาพสตรีอายุราวๆ 25 ปี สองคนแต่งตัวในชุดทำงาน
คนหนึ่งผมสั้นอีกคนผมยาว คนผมยาวนั่งลงก่อนแล้วเอ่ยปากขึ้นว่า
“ใจเย็นๆน่าเล็กทานไปคุยไปก็ละกันนะ”

น้ำเสียงอ่อนโยนที่แสดงให้เห็นว่าเธอเอาใจใส่เพื่อนของเธอคนนี้มาก
คนผมสั้นเอ่ยตอบว่า “โอเค โอเค ฉันเชื่อเธอกบ
เพราะมีแต่เธอแหละที่ฉันกล้าคุยเรื่องในครอบครัวให้ฟัง”
สาวผมสั้นค่อยๆบรรจงวางถาดอาหารลง เธอเริ่มต้นทานอาหารไปอย่างช้าๆ
พร้อมๆกับเอ่ยปากเล่าเรื่องของเธอต่อไปว่า
“ฉันละเซ็งคุณแดงสามีของฉันเหลือเกิน หากฉันจะลิสท์(list)
คุณสมบัติยอดห่วยของสามีฉันละก้อเธอเอ๋ย หน้ากระดาษหนึ่งก็คงไม่พอ
กลับบ้านค่ำ แถมเอางานกลับมาอีก ไม่ชอบดูละครดูแต่เคเบิ้ลทีวี
เวลาดูก็หมุนเปลี่ยนทุกช่อง ชอบเก็บกวาดบ้านด้วยตนเอง
ไม่เคยให้ความสนใจดูแลฉันเลย โอ๊ยฉันละเบื่อ
ทีกับลูกน้องตัวเองละก็ประคบประหงมยิ่งกว่าลูกอีก เฮ้อ”
เธอถอนหายใจเสียงดังหลังจากเล่าจบ
เธอเอ่ยถามคู่หูคนสนิทต่อ
“กบเธอแต่งงานมาตั้งห้าปีแล้วมากกว่าฉันตั้งสามปี
ทำไมไม่เห็นบ่นเรื่องสามีของเธอเลย
เธอคงมองโลกในแง่ดีมากเลยนะฉันอิจฉาเธอจังเลย”
กบเอ่ยตอบ “เล็กฉันก็เคยเป็นอย่างเธอเหมือนกันเมื่อสองสามปีที่แล้ว
วันหนึ่งฉันอัดอั้นมากจนทนไม่ไหว ด้วยสายเลือดเลขามืออาชีพของฉัน
ซึ่งเหมือนๆกับเธอนี่แหละ ฉันหยิบกระดาษออกมาแล้วระบายลงไปเลยว่า
รายการความห่วยของสามีฉันเป็นอย่างไร เธอรู้ไหมว่าฉันได้กี่ข้อ”
เล็กรีบถามด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น “กี่ข้อละ”
กบตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “สามสิบสองข้อ"
กบเล่าต่อ “เย็นวันนั้นฉันตั้งใจว่ากลับบ้านแล้ว
ฉันจะส่งรายงานชิ้นเอกให้สามีของฉันดู
เพียงแต่ว่าฉันต้องไปงานศพลุงของฉันก่อน
ลุงฉันเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์คว่ำ
ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่ได้คาดคิด
ป้าฉันตกใจมากเธอไม่เคยเตรียมใจสำหรับเรื่องนี้มาก่อน
ฉันสนิทกับป้าฉันคนนี้มาก เมื่อฉันไปถึงงานศพฉันก็ไปนั่งคุยกับคุณป้า

เราสองคนนั่งคุยกันสักพักคุณป้าก็หยิบกระดาษโน๊ตสองสามแผ่นออกมา
แล้วก็ส่งให้ฉันดูฉันรับมาดูแล้วก็นั่งอ่านในกระดาษนั้น

มีข้อความดังต่อไปนี้.......ถึงสามีที่รักวันนี้ทั้งวันฉันนึกถึงเธอตลอดเวลา
สามสิบห้าปีที่เราอยู่ด้วยกัน ฉันมักจะบ่นต่อว่าในข้อเสียของเธอมาตลอด
จนกระทั่งถึงวันที่เธอจากไป เมื่อฉันมีโอกาสทบทวนดูชีวิตคู่ของเรา
ฉันพบว่าฉันได้มองข้ามสิ่งดีๆของเธอไปมากมาย”
กบเล่าด้วยเสียงสั่นเครือ เธอเอ่ยต่อว่า
“ในกระดาษโน๊ตนั้นคุณป้าของฉันบรรยายคุณความดีของลุง
ไว้นับร้อยข้อพอฉันอ่านจบน้ำตาของฉันก็นองหน้า”
ป้าฉันเอ่ยกับฉันว่า “ป้ารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เป็นผู้บอกสิ่งดีๆ
เหล่านี้ในระหว่างที่คุณลุงของหนูยังมีชีวิตอยู่ หลานอย่าทำพลาดแบบป้าอีกคนละ”
ฉันนั่งฟังอยู่แล้วคิดตามไปว่า มีคนจำนวนมากที่เมื่อคนรักของตนจากไปแล้ว
ค่อยบันทึกคุณความดีของผู้จากไปลงที่หลุมฝังศพ
หรือจัดพิมพ์เป็นเอกสารอย่างดีแต่ว่าผู้จากไปกลับไม่มีโอกาสอ่าน
ซึ่งขณะที่เขามีชีวิตอยู่กับได้ยินแต่สิ่งที่เป็นข้อบกพร่องของเขา
คิดได้อย่างนั้นฉันรีบดึงเอาลิสต์รายการของสามีฉันออกมา
แล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย กระดาษปลิวว่อนไปตามสายลม

เลิกงานศพแล้วฉันรีบกลับบ้านทันทีพอเจอหน้าสามีฉันก็กระโดดกอดเขาเลย
เสร็จแล้วฉันก็ถือโอกาสสาธยายคุณความดีทั้งหลายของเขาว่ามีอะไรบ้าง
สามีฉันมีสีหน้าแปลกใจเล็กๆแต่ว่าท่าทีเขาดูอ่อนโยนมากขึ้น
และเอื้ออาทรกับฉันขึ้นมาทันทีฉันเองก็เริ่มมีความรู้สึกที่ดีต่อเขามาก
หากเรารักใครแล้วเราบอกสิ่งที่ดีของเขาให้เขาได้ยิน
เขาก็จะรักเราตอบและบอกสิ่งที่ดีตอบกลับมา
สามีฉันก็เผยความในใจถึงข้อดีของฉันอีกมากมายที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อน
ตั้งแต่นั้นมาฉันก็เลิกคิดถึงรายการจุดอ่อนของคนที่เรารัก
ฉันคิดว่าเราควรจะรักเขา อย่างที่เขาเป็นแหละ
อย่าไปหวังให้เขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ที่แตกต่างกับเราเลยความรักที่แท้จริงก็คือ
UnconditioningLove คือ การที่เรารักเขาแล้วไม่ได้ตั้งเงื่อนไขให้เขาเปลี่ยนแปลงอะไร จงรักเขาอย่างที่เขาเป็น แล้วโฟกัสในสิ่งที่ดีของเขาซะเราก็จะมีความสุข
เขาก็จะมีความสุข”กบเล่าจบด้วยสีหน้าอิ่มเอิบ

เล็กซึ่งนั่งฟังอยู่อย่างเงียบๆนัยน์ตาเธอมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่
ในมือเธอกำแน่นด้วยเศษกระดาษลิสต์รายการ
ที่บัดนี้ถูกเธอฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

อยู่ๆเล็กเอ่ยขึ้นว่า”ขอบใจมากจ๊ะกบฉันว่าเรารีบกลับออฟฟิศเถอะ"

"ฉันอยากโทรหาสามีของฉันหน่อย"


บันทึกการเข้า
...GlockGlack™...
โพสท์ถึง 999 ก็พอ
Sr. Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 991


สติหมา ปัญญาหมี


« ตอบ #145 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2004, 11:35:41 AM »

ขออนุญาตดึงกระทู้นี้ขึ้นมาอีกครั้งเถอะครับ  Sad  ผมคิดถึงประเด็นนี้มา 3-4 วัน  เคยนึกเรียบเรียงความเห็น แต่ยังไม่ถูกใจ

งานนี้ผมขอเข้าข้างเจ้าของกระทู้ครับ  และคิดว่าหากเห็นว่าไปด้วยกันไม่ได้จริงๆแล้ว  ก็ควรจะยุติความสัมพันธ์กัน  จริงอยู่  อายุของทั้ง 2 ฝ่ายก็พอสมควรแล้ว  แต่หากเจ้าของกระทู้ไม่รีบยุติ ด้วยเห็นว่าเสียดายวันเวลาที่ผ่านมา  ผมว่าคุณจะยิ่งเสียโอกาสในการที่จะได้พบและคบหากับคนใหม่  ในขณะที่ฝ่ายชายก็อาจจะเสียโอกาส แต่น้อยกว่าคุณ

ตอนนี้คุณสองคนยังไม่แต่งงานกัน  โอกาสเริ่มต้นใหม่ยังมีมากกว่าหลังจากที่แต่งงานกันไปแล้ว ซึ่งหากปล่อยให้ถึงขั้นนั้น  คุณเองจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบมาก

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หากคิดว่าเป็นระยะเวลาที่คุณทั้งสองให้โอกาสเรียนรู้ ปรับตัว และยอมรับในทัศนคติ  อุปนิสัยใจคอ และความประพฤติของทั้งสองฝ่าย  มาถึงวันนี้ คุณพบว่าต่างก็ไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ  ก็คงต้องยอมรับและเริ่มต้นใหม่ดีกว่าครับ  ทั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ว่าใครมีฐานะดีกว่าใคร  ใครเรียนมาสูงกว่า  ทำงานในตำแหน่งหน้าที่การงานดีกว่านะครับ

ลองคิดง่ายๆว่า คุณต้องการให้เขามาเป็นสามีของคุณ  เป็นพ่อของลูกคุณหรือไม่?  การดำเนินชีวิตไปในแต่ละวันกับเขา  การเห็นเขาเป็นตัวอย่างแบบนั้นแก่ลูก จนคุณและเขาแก่เฒ่า จนลูกของคุณเติบใหญ่  คุณทนรับกับสภาพที่คุณเองก็คิดและมองเห็นอยู่แล้วนั้นได้หรือไม่? อันนี้คุณคงตอบกับตัวเองได้ดีที่สุด

ผมก็ไม่ได้มองว่าปืนเป็นจุดแตกหัก  แต่เป็นเงื่อนไขที่ทำให้ความอดทนที่คุณมีต่อเขาสิ้นสุดลง  จริงๆแล้วผมอยากจะแนะให้คุณเป็นฝ่ายขอและซื้อปืนเองด้วยซ้ำไป  แต่ก็คิดว่าไม่ควรเอาสิ่งนี้ไปผูกใจเขาไว้ให้อยู่กับคุณ  เพราะหมดจากเรื่องนี้ เขาก็คงไปที่เรื่องอื่นต่อไปไม่สิ้นสุด

เอาเป็นว่าผมเข้าใจในความรู้สึกนึกคิดของคุณ  และหากใครก็ตามยืนอยู่ ณ ตำแหน่งที่คุณยืนอยู่  คงตัดสินใจได้ลำบาก  ขอให้คุณนึกถึงตัวของคุณเองในอนาคตข้างหน้า  หากคุณไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะรับสภาพของเขาอย่างที่เป็นอยู่นี้ได้  ถอยเถอะครับ เพื่อคุณจะได้มีโอกาสพบกับผู้อื่นที่คุณยอมรับได้  และเขาเองก็จะได้มีโอกาสพบกับผู้อื่นที่พร้อมยอมรับเขาได้
บันทึกการเข้า

วันใดที่อาวุธปืนมีทะเบียนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย สุจริตชนจะพ่าย แต่โจรผู้ร้ายกลับชนะ

Success Begins With A Fellow's Will,  It's All In The State Of Mind  Smiley
Nattapol
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #146 เมื่อ: กันยายน 03, 2005, 12:53:28 PM »

  ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ ดึงกระทู้ครับ  เพราะผมคุ้ยกระทู้เก่าๆอ่านเล่นพอมาเจอกระทู้นี้ โอ้โห.....แต่ละท่านแสดงความคิดเห็นได้เยี่ยมๆทั้งนั้นเลยครับ  เลยขออนุญาตดึงขึ้นมาเผื่อว่าท่านใดจะสนใจอ่านกันอีก  Cheesy
บันทึกการเข้า
boon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #147 เมื่อ: กันยายน 03, 2005, 01:19:04 PM »

ผมลืมไปแล้วนะกระทู้นี้ เห้นหัวข้อถึงนึกได้ ยังนึก...อยู่ในใจว่าใครนะขุดขึ้นมา หลงรัก หลงรัก
แต่เนื้อหาและมุมมองในกระทู้นี้ดีจริงๆครับ
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #148 เมื่อ: กันยายน 03, 2005, 01:52:06 PM »

ขออนุญาตดึงกระทู้นี้ขึ้นมาอีกครั้งเถอะครับ Sad ผมคิดถึงประเด็นนี้มา 3-4 วัน เคยนึกเรียบเรียงความเห็น แต่ยังไม่ถูกใจ

งานนี้ผมขอเข้าข้างเจ้าของกระทู้ครับ และคิดว่าหากเห็นว่าไปด้วยกันไม่ได้จริงๆแล้ว ก็ควรจะยุติความสัมพันธ์กัน จริงอยู่ อายุของทั้ง 2 ฝ่ายก็พอสมควรแล้ว แต่หากเจ้าของกระทู้ไม่รีบยุติ ด้วยเห็นว่าเสียดายวันเวลาที่ผ่านมา ผมว่าคุณจะยิ่งเสียโอกาสในการที่จะได้พบและคบหากับคนใหม่ ในขณะที่ฝ่ายชายก็อาจจะเสียโอกาส แต่น้อยกว่าคุณ

ตอนนี้คุณสองคนยังไม่แต่งงานกัน โอกาสเริ่มต้นใหม่ยังมีมากกว่าหลังจากที่แต่งงานกันไปแล้ว ซึ่งหากปล่อยให้ถึงขั้นนั้น คุณเองจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบมาก

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หากคิดว่าเป็นระยะเวลาที่คุณทั้งสองให้โอกาสเรียนรู้ ปรับตัว และยอมรับในทัศนคติ อุปนิสัยใจคอ และความประพฤติของทั้งสองฝ่าย มาถึงวันนี้ คุณพบว่าต่างก็ไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องยอมรับและเริ่มต้นใหม่ดีกว่าครับ ทั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ว่าใครมีฐานะดีกว่าใคร ใครเรียนมาสูงกว่า ทำงานในตำแหน่งหน้าที่การงานดีกว่านะครับ

ลองคิดง่ายๆว่า คุณต้องการให้เขามาเป็นสามีของคุณ เป็นพ่อของลูกคุณหรือไม่? การดำเนินชีวิตไปในแต่ละวันกับเขา การเห็นเขาเป็นตัวอย่างแบบนั้นแก่ลูก จนคุณและเขาแก่เฒ่า จนลูกของคุณเติบใหญ่ คุณทนรับกับสภาพที่คุณเองก็คิดและมองเห็นอยู่แล้วนั้นได้หรือไม่? อันนี้คุณคงตอบกับตัวเองได้ดีที่สุด

ผมก็ไม่ได้มองว่าปืนเป็นจุดแตกหัก แต่เป็นเงื่อนไขที่ทำให้ความอดทนที่คุณมีต่อเขาสิ้นสุดลง จริงๆแล้วผมอยากจะแนะให้คุณเป็นฝ่ายขอและซื้อปืนเองด้วยซ้ำไป แต่ก็คิดว่าไม่ควรเอาสิ่งนี้ไปผูกใจเขาไว้ให้อยู่กับคุณ เพราะหมดจากเรื่องนี้ เขาก็คงไปที่เรื่องอื่นต่อไปไม่สิ้นสุด

เอาเป็นว่าผมเข้าใจในความรู้สึกนึกคิดของคุณ และหากใครก็ตามยืนอยู่ ณ ตำแหน่งที่คุณยืนอยู่ คงตัดสินใจได้ลำบาก ขอให้คุณนึกถึงตัวของคุณเองในอนาคตข้างหน้า หากคุณไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะรับสภาพของเขาอย่างที่เป็นอยู่นี้ได้ ถอยเถอะครับ เพื่อคุณจะได้มีโอกาสพบกับผู้อื่นที่คุณยอมรับได้ และเขาเองก็จะได้มีโอกาสพบกับผู้อื่นที่พร้อมยอมรับเขาได้
.

..ผมก็เพิ่งเห็นกระทู้นี้ครับ.อ่านไม่ทัน ไม่หมด.. แต่แค่เห็นของ คุณกล็อคแกล็ค ..แล้ว ผมเห็นด้วยอย่างแรง ครับ.. Smiley.  ความเข้าใจ พื้นฐานทางความคิดของคน เป็นเรื่องสำคัญ.. แนวความคิด ติดยึดความต้องการของตน.. มันเป็นอุปสรรค  เป็นจระเข้ นอนขวาง.. เป็นคู่ทุกข์ กึ่งถาวร..  ไม่ใช่ว่าเป็นคนดี หรือ ไม่ดี..  ถึงจะเป็นคนดี ทั้งคู่ แต่อาจไม่เหมาะสมกัน. ก็อยู่ด้วยกันลำบาก.. ชีวิตคู่อาจจะคิดเริ่มต้น. แต่ยังไม่มีความผูกพันธ์ นอกจากจิตใจที่อาจหวั่นไหว.. ถ้าไปด้วยกันไม่ได้ จริง จริง..   ยุติความสัมพันธ์ เริ่มต้นใหม่ อายุยังน้อย อย่าไปเสียดายเวลา.ครับ..   Smiley.

    (จขกท. มาเพื่อโพสต์ และขาดการติดต่อไปแล้ว เมื่อปลายปี ๒๕๔๗)
   
บันทึกการเข้า

jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #149 เมื่อ: กันยายน 03, 2005, 02:06:03 PM »

ป่านฉะนี้ คงมีแฟนใหม่ไปแล้วมังครับ ... อ่านดูแล้วยังงงว่าตัวเองตอบอะไรไป Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 7 8 9 [10] 11 12
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.187 วินาที กับ 21 คำสั่ง