เมื่อวานเจองานแต่งงานน้อง(ชาย)เมีย กับ งานเผาศพเพื่อนชนกัน เลยต้องใช้วิธีเช้าเข้างานยกน้ำชา เที่ยงเปลี่ยนแต่เสื้อไปงานเผาเพื่อน แล้วเย็นค่อยอาบน้ำเข้างานแต่งช่วงค่ำ
ช่วงเช้าเข้าพิธียกน้ำชา เสร็จพิธีตอนเกือบๆเที่ยง พอเค้าเดินลงไปเลี้ยงมื้อเที่ยงที่ห้องอาหาร ก็ไปบอกแม่ยายว่าขอไปงานเผาศพเพื่อน สนิทกันมาก
พี่วรรณเคยบอกว่าคนจีนเค้าถือมาก พอบอกไปแม่ยายก็หน้าเสียจริงๆด้วย ผมเลยรีบพูดต่อ ว่าเสร็จจากทางนั้นแล้วจะแวะรดน้ำมนต์มาให้เรียบร้อย ... ในใจคิดว่า ถ้าไม่ได้จริงๆก็จะยอมไม่เข้างานแต่งช่วงค่ำละวะ แต่แม่ยายตกลง
วัดกับโรงแรมอยู่ห่างกันแค่ครึ่งก.ม.ผมเผื่อว่าอาจต้องใช้รถกัน ก็เลยทิ้งรถไว้ที่โรงแรม เปลี่ยนเสื้อแล้วก็ขึ้นตุ๊กๆไปวัด
เสร็จเรื่องที่วัดบ่าย3เศษ เพื่อนที่นัดไว้ดันไม่มาไม่มีรถไปหาน้ำมนต์ วัดที่ทำพิธีก็ไม่คุ้น แล้วตูจะไปหาน้ำมนต์จากไหนละหว่า ? ? ?
พอดีมีเจ้าอาวาสที่มาจากไชยายังไม่กลับ หันรีหันขวางนิดนึง หาแก้วน้ำไม่ได้เลย ก็เดินไปเปิดแท็งค์น้ำแข็งกะจะเอาน้ำแบบเป็นแก้วพลาสติคที่ใช้หลอดเจาะ ก็ดันหมด เหลือแต่นมเปรี้ยว
เลยคว้าแก้วที่แขกกินเหลือมาเทน้ำทิ้ง แล้วก็ไปจ้วงน้ำจากแข็งละลายในแท็งค์เดินไปหาเจ้าอาวาส บอกหลวงพ่อครับ รบกวนช่วยทำน้ำมนต์ให้ผมหน่อย....
เจ้าอาวาส...งงไปนิดนึง แล้วบอก จะทำยังไงละโยม อะไรก็ไม่มี
ผม.............ไม่ต้องใช้อะไรหรอกครับ หลวงพ่อบอกว่ามันคือน้ำมนต์ ผมเชื่อว่ามันคือน้ำมนต์ มันก็เป็นน้ำมนต์แล้วแหละ พอดีต้องเข้างานแต่งต่อ รับปากแม่ยายไว้ ผมไม่อยากโกหก
เจ้าอาวาส... เอาง่ายๆยังงี้เลยเหรอโยม?
ผม.............ครับ รบกวนหน่อยครับ
เจ้าอาวาส...บ๊ะ เอาก็เอา วันนี้วันอะไรล่ะ เดี๋ยวหลวงพ่อหาทิศซะหน่อย
แล้วผมก็ได้น้ำมนต์มาแปะๆหัวสมใจ ไม่ต้องโกหกแม่ยาย แต่ก็ไม่กล้าเล่าที่มาของน้ำมนต์ ดีที่ไม่มีใครถามว่าไปรดน้ำมนต์ที่วัดไหน
