555 กลับมากันแล้วยับทั้งคู่ ............ อิอิอิ
งานนี้ คนกันเองขายกันเอง โดนหรอกเอาไปให้เขาเตะ
สงสัย งบศูนย์กีฬา กทม. ปีนี้คงได้อีกหลายตังค์ที่มินบุรี

มันแฝงธุรกิจด้วยแหละน้องวรรณ สอบเลื่อนขั้นก็เงิน แข่งแต่ละแมทก็เงิน
ลูกเฮียแข่งครั้งแรกก็แบบนี้ เรียนที่สยามยามาฮา เรียนอาทิตย์ละครั้ง แต่คนอื่นเขาซ้อมทุกวัน ซ้อมต่อสู้กันจริง ๆ ลูกเราซ้อมแต่ท่ารำ นึกเจ็บใจทำไมครูถึงปล่อยให้ลูกเราลงไปโดนเตะ ส่งลงไปได้ยังไง ให้เขายำ ให้เขาเอาส้นตีนตบหน้าลูกเรา ( ท่าชอป ) ดีนะที่ไม่โดน ดูเหมือนพ่อแม่ฝ่ายตรงข้ามเขาสะใจมากเลย ที่ลูกเขายำลูกเรา

คราวหลัง....ก็ให้เรียนไว้เพื่อป้องกันตัวเฉย ๆ ก็ได้จ๊ะ น้องรูฯ
ได้ทั้งสุขภาพ ได้ทั้งศิลปะวิชาไงจ๊ะ
บางครั้งก็อยากรู้ว่าเด็กมันก้าวหน้าแค่ไหน ก็ต้องลองส่งแข่งดู ถ้าเขาโกงสาย โกงอายุอย่างที่น้องวรรณบอก ก็เซ้งแหละ
ครับ .... อย่างที่เฮียบอก ....... ถ้านักกีฬาเขาจะจับ สแปริ่งกัน
แล้วฝึกหนักพอสมควร ..... ครั้งแรกที่ยอมให้ไปแข่ง เพราะผมคิดอะไรตื้นไปหน่อย
คิดว่า เขาจัดมาเท่า ๆกัน ..... เรารุ้อยู่แล้วว่า ลูกเราไม่ได้ซ้อมยังไงก็แพ้
แต่อยากให้เขาเรียนรู้จากการแพ้ เจ้ากีต้าร์ ( ผู้หญิง ) เป็นเด็กเอาแต่ใจขี้โมโห
ถ้าเขารู้ว่า การแพ้เป็นอย่างไร และ ในสนามถ้าเขาขวบคุมสมาธิไม่ได้ ผลจะเป็นอย่างไร
นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้ลูกเรียนรุ้ ส่วนเจ้าคนโตผู้ชาย ออกจะเป็นเด็ก ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง
ไม่มีความมั่นใจ ไม่กล้าตัดสินใจ ที่ให้ลงแข่ง เพราะอยากให้เขาคิดด้วยตัวเอง
ทำด้วยตัวเอง เพราะในสนาม มีแต่คู่แข่งเท่านั้น พอ่แม่อย่างเก่งก็ยืนเชียร์ข้างสนาม
ที่ผมคิดคือแค่นี้ ไม่คิดไปถึงว่า จะเอา เด็กโตกว่า มาลง เอานักกีฬาสายอื่นมาลง
( ผู้ปกครองที่ไปด้วย เขาแข่งมาหลายครั้ง เขาสงสัย เลยสอบถาม ) ปรากฎเป็น
นักบอลของที่ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ทางเขาไม่มีใครลง เลยเอามาลง
พวกเตะก้านคอ แบบมวยไทยเลย ................ 555555