
อาการแรก นกง้างแต่เหนี่ยวไกวืด เป็นธรรมดาครับสำหรับอาการสไลด์เดินหน้าไม่สุด เพราะปืนออโต้เกือบทั้งหมด (ยกเว้นกล๊อก ยอมให้สไลด์เดินหน้าไม่สุดได้นิดนึง) ถ้าสไลด์ยังเดินหน้าไม่สุด ดิสคอนเนคเตอร์จะยังตัดการทำงานของระบบไกอยู่ครับ ทำให้เหนี่ยวไกไม่ได้หรือเหนี่ยวแล้วไกไม่ทำงาน เพราะเมื่อสไลด์เดินหน้าไม่สุด การขัดกลอนของสไลด์กับลำกล้องมักไม่สมบูรณ์เต็มที่ หากเหนี่ยวไกไปแล้วกระสุนลั่นอาจทำให้เกิดอันตรายได้ครับ จึงมีการบอกว่า หากโดนปืนออโต้จี้พุง ให้กดปืนเข้าพุงอีกเยอะ ๆ เพราะสไลด์จะถอยหลังดิสคอนเนคเตอร์ไกจะตัดการทำงานของไกทำให้เหนี่ยวไกไม่ได้ (แต่ใครจะกล้าลองล่ะ เสียวใช่เล่น

)

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ปืนขัดลำ อาจเป็นที่กระสุนครับ เพราะจากรูปรู้สึกว่าหัวกระสุนจะมีลักษณะอ้วนป้าน ไม่แหลมเรียวเหมือนกระสุน 9 มม. ปกติทั่วไป ซึ่งทำให้บางส่วนของหัวกระสุนถูกปากรังเพลิงปาดออกเป็นเส้นตามรูปตัวอย่าง แล้วเส้นดังกล่าวก็มาขวางหน้าลำเลื่อนทำให้ลำเลื่อนเดินหน้าไม่สนิทประการหนึ่ง ประการสองด้วยลักษณะ
หัวกระสุนที่อ้วนกว่าปกติเมื่อกระสุนเข้ารังเพลิง ส่วนที่ผิดลักษณะไปทำให้หัวกระสุนไปฟิตแน่นกับท้ายเกลียวหน้ารังเพลิง ทำให้กระสุนเข้ารังเพลิงไม่สนิท สไลด์จึงปิดไม่สนิทไปด้วย ก็เหนี่ยวไกไม่ได้เช่นกัน

นายสมชายว่าตามเถ้าแก่ใหม่ แห่งตาคลี ครับ... ตามรูปนายสมชายสงสัยว่าไม่ใช่ลูก 9 มม. พาราฯ... คงเป็น 9 มม.อะไรซักอย่างนึง...
นอกจากหัวอวบอ้วนแล้ว การเม้มปลอกจับหัวกระสุนยังไปเหมือนกับพวกกระสุนลูกโม่ครับ... คือเม้มปลอก"กัด"หัวกระสุน ซึ่งไม่เหมือนพวกลูกออโต้อย่าง .45 หรือ 9 พาราฯ ทั่วไปที่เม้มปลอก"บีบข้าง"หัวกระสุนให้เหลือ"สันขอบปลอก"เอาไว้ชนกับหยักข้างในรังเพลิงครับ... เป็นการกำหนดตำแหน่งกระสุนในรังเพลิง...
ทีนี้กระสุนที่ว่ามันสัดส่วนผิด... เลยเพี้ยนไปหมดครับ...
ม้ากรำศึกของนายสมชายก็เลือกลูกครับ... ปืนใครปืนมัน หากไม่อยากให้เลือกลูก ต้องใช้หัวบอลมาตรฐานครับ... น้ำหนักหัวแยะ หัวก็อ้วนยาว น้ำหนักหัวน้อยก็สั้นๆ... 115 เกรน หรือ 124 เกรนครับ ดีที่สุด...หากเป็น .45 ก็ 230 อย่างต่ำที่นายสมชายยอมรับคือ 200 เกรนครับ... ทั้งๆ ที่ 185 เกรนสถิติมาแชลว่าดีๆ แต่ยิงแล้วกลุ่มมันย้ายที่จากที่ตั้งศูนย์เอาไว้ครับ...
ส่วนลูกซ้อมของ 9 มม. เขาใส่ดินน้อย แล้วกลัวโมเม็นตั้มไม่พอเตะลำเลื่อนให้ถอยสุด เลยใส่หัวหนักเข้าว่า... เราเอาไว้ซ้อมในสนามก็พอแล้วครับ... ฮา