รวมพลคนภาคเหนือ

[sasinun รักในหลวง]

ขออนุญาตแก้ข่าวครับ ลุงมะป้าวว่าไปเล่ย

ขอท้าวความก่อนช่วง 5 6 7 เมียผมหนีไปแอ่วเมืองนอก ละผมไว้อยู่บ้านผมก่อเลยวางแผน หนีไปแอ่วกับละอ่อนหมู่ตี่ทำงาน ไปแอ่วอัมพวา ไปแอ่วชะอำ ช่วงนั้นเมียบ่ออยู่บ่อมีไผตวยหา บ่อได้ขับรถ เลยกิ๋นเมาเต็มตี้ บ่อได้เมาจะอี้มาเมินละครับ Unlimit สงสัยโดนยุงขบผ่องก่อบ่อฮู้ครับ

พอวันที่ 10 วันหยุด ได้ขยายพื่นที่ เทโฮงรถเพิ่ม เอาทรายมาลง 5 คิว เนื่องจากเป็นลูกจายตี่ดีครับ ทำตั้งแต่เจ้าถึงแลง โชคดีวันนั้นเปิ่นเอารถมิกซ์มา เลยรอดตั๋วไปถ้าได้ผสมปูนแฮมต๋ายแน่ คืนวันนั้น อาบน้ำอาบท่า กิ๋นเข้าเสร็จ หลับเป็ด

วันที่ 11 เริ่มปวดหัวตัวฮ้อนเจ็บต้องเหมือนกระเพาะต๋อนขวาย ไข้เริ่มสูง กิ๋นพาราไปแล้วก่อบ่อลง นึกในใจวันพูกวันเสาร์จะใดก็ได้พักตึงหาย

วันเสาร์ที่ 12 วันนี้เริ่มบ่อไหวแล้วไข้บ่อยอมลด กิ๋นยา 8 โมง  เที่ยง 4 โมง ไข้บ่อลดเลย ในใจคิดว่า ไข้หวัด2009 แน่นอน ไปโฮงยาดีกว่า

จนถึงวันนี้ไข้ยังบ่อลงครับ เปิ่นเอาเลือดผมไปตรวจเป็นลิตรละก่า เดียวตรวจ 2009 เดียวตรวจไข้เลือดออก เดียวตรวจ โรคฉิ่หนู

ขอให้หายไวไวครับ

[ต.แม่สาย]

ขอบคุณครับ

[2..U]

นึกว่าโดนเพี้ยดำกิน...

[หน่อไม้ส้ม-รักในหลวง]

หายเร็วๆเน้ออ้ายต๋อ

[ต.แม่สาย]

ลูก พ.อ. ตื้บนักศึกษาสาวปางตาย คาสี่แยก (คมชัดลึก)

          เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2552 ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุหญิงถูกทำร้ายร่างกายกลางสี่แยกวงแหวนรอบนอก (แยกลิขิตชีวัน) ถนนเชียงใหม่-พร้าว ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงแจ้งไปยังสายตรวจ สภ.สันทราย เข้าตรวจสอบและระงับเหตุ ในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 คน หน่วยกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลเทพปัญญา อ.เมืองเชียงใหม่

          โดยพบว่ามีอาการสาหัส ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำและสมองบวม เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แพทย์นำเข้ารักษาและดูอาการอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วราภรณ์ บรรจงเสนอ อายุ 30 ปี นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน กทม. ขณะเดียวกัน ยังพบผู้ก่อเหตุอยู่ในที่เกิดเหตุ คือ นายธนาพล เสาธง นักศึกษาปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่

          จึงเชิญตัวไปที่ สภ.สันทราย น.ส.บุญทิวา ฟูน่าน อายุ 30 ปี เพื่อนผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุออกมาจากงานเลี้ยงในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดย น.ส.วราภรณ์ ขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาวป้ายแดง โดยตนนั่งมาด้วย เมื่อขับรถออกมา ได้ขับแซงรถคันด้านหน้าแต่ไม่ทัน จึงทำให้ขับปาดหน้ารถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สี บรอนซ์ ทะเบียน กข 8820 ลำพูน โดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อแซงพ้นก็ขับเข้าเลนซ้ายตามปกติ จากนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวขับปาดหน้าซ้ายขวา เมื่อขับมาถึงสี่แยกจุดเกิดเหตุ รถเก๋งคันดังกล่าวขับปาดหน้าอีกครั้ง ทำให้ น.ส.วราภรณ์ต้องจอดรถ จากนั้นนายธนาพลลงมาเปิดประตูแล้วลากตัว น.ส.วราภรณ์ ออกไปกระทืบกลางถนนอย่างบ้าคลั่ง

          ตนนั่งมาด้วยพยายามห้ามปรามแต่ไม่เป็นผล ขณะทำร้ายนายธนาพลยังตะโกนบอกหลายครั้งว่า "รู้มั้ยพ่อ...เป็นใคร" และอีกหลายประโยคที่แสดงความกร่าง เมื่อห้ามไม่อยู่จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจเข้าระงับเหตุ หลังจาก น.ส.วราภรณ์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ตนพร้อมกับ นายธนาพล จึงเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมพร ตาลพล พนักงานสอบสวน สภ.สันทราย โดยยืนยันจะให้ตำรวจจับกุมและดำเนินคดีต่อนายธนาพล ในข้อหาทำร้ายร่างกาย

          แต่พนักงานสอบสวนกลับให้ลงเพียงบันทึกประจำวัน ก่อนปล่อยตัวนายธนาพลโดยไม่มีเงื่อนไข ทั้งยังไม่มีการตรวจสอบอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล และไม่มีการนัดหมายตนเข้าให้ปากคำ หรือสอบสวนใดๆ กับผู้ต้องหา น.ส.บุญทิวา กล่าวว่า ขณะที่อยู่ในโรงพัก พบว่า บิดาของนายธนาพล ซึ่งอ้างว่าเป็นนายทหารบก ยศพันเอก เดินทางมารับนายธนาพลกลับออกไปอย่างง่ายดาย ทั้งที่เพิ่งก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้หญิงกลางถนน เมื่อเห็นว่าพนักงานสอบสวนไม่ให้ความสนใจ และไม่รับแจ้งความในการดำเนินคดี เกรงว่าอาจถูกทำร้ายฟรี

          ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ไปยัง พ.ต.อ.วิสุทธิ์ พุ่มจันทร์ ผกก.สภ.สันทราย เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ พ.ต.ท.สมพร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ขณะที่สายตรวจที่ไประงับเหตุก็ไม่เห็นเหตุการณ์ช่วงมีการทำร้ายร่างกายกัน จึงไม่สามารถจับกุมได้ ที่สำคัญยังไม่สามารถสอบถามรายละเอียดจาก น.ส.วราภรณ์ซึ่งบาดเจ็บอยู่ได้ จึงลงบันทึกประจำวันไว้เพียงคร่าวๆ

          ส่วนที่มีการปล่อยตัวนายธนาพลกลับไป เนื่องจากมีเพื่อนของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายหลายคนมาที่โรงพัก เกรงว่าจะมีปัญหากันอีก จึงต้องให้แยกทั้งสองฝ่ายไม่ให้เผชิญหน้ากัน พ.ต.ท.สมพร ชี้แจงด้วยว่า หลังเกิดเหตุเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลเทพปัญญาแล้ว หากผู้เสียหายยืนยันจะดำเนินคดีก็ให้โทรศัพท์มานัดหมายเพื่อให้ปากคำได้ ส่วนจะดำเนินคดีกับใครในข้อหาอะไร ก็ต้องดูคำให้การ รวมถึงบาดแผลของผู้เสียหายอีกครั้ง




เมื่อค่ำเมื่อคืนบ่อดีออกบ้านเน่อครับ อันตราย คนเจ็บผมก็ฮูจัก เอกจ๋า ก็น่าจะเกยฮู้จัก เกยหันหน้า

[เอก@ดอยฯ]

แยกกาดรวมโจคก๋า อืมมมม น่าตืบแต้ๆ ป้อจายบ่ดาย ยะหื้อแม่ยิง 

[ต.แม่สาย]

ขนาดน้องคนข้าง ไปยกมือไหว้ขอมันยังยอก ปากปอแตก

[B.O.W.]

สวัสดีตอนบ่าย ๆ ทุกท่าน ครับ

[Eakja]

ตกลงอ้าย ต๋อ บะสบายเป็นหยั๋งกันแน่

น้องคนเจ็บไผ๋ ก๋าครับอ้าย

[prasit homecar a1]

สวัสดีต๋อนบ่ายครับ  เข้ามาผ่อข่าวคนมะเดี่ยวจิตใจ๋มันต่ำบะมีระเบียบกฎเกณฑ์ สังคมเสื่อม ....   

[sasinun รักในหลวง]

แยกกาดรวมโจคก๋า อืมมมม น่าตืบแต้ๆ ป้อจายบ่ดาย ยะหื้อแม่ยิง 

ฝากน้องเอกไปให้มันสัก4-5ทีบอกลูกผู้ชายฝากมา

[Eakja]

โทรหาอ้าย ต ละ
อ้าย ต มีโฮงยา อาจจะเป็น ไข้เลือดออก
ส่วนน้องคนนั้น ผมก่อหู้จัก เห้อ

[บะป้าว เลิงปอย]

  อ้ายต๋อ  เป๋นโรค  ฉี่อีหนู   

[tawee_1971]

  อ้ายต๋อ  เป๋นโรค  ฉี่อีหนู   

กำ

[2..U]

ลูก พ.อ. ตื้บนักศึกษาสาวปางตาย คาสี่แยก (คมชัดลึก)

          เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2552 ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุหญิงถูกทำร้ายร่างกายกลางสี่แยกวงแหวนรอบนอก (แยกลิขิตชีวัน) ถนนเชียงใหม่-พร้าว ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงแจ้งไปยังสายตรวจ สภ.สันทราย เข้าตรวจสอบและระงับเหตุ ในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 คน หน่วยกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลเทพปัญญา อ.เมืองเชียงใหม่

          โดยพบว่ามีอาการสาหัส ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำและสมองบวม เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แพทย์นำเข้ารักษาและดูอาการอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วราภรณ์ บรรจงเสนอ อายุ 30 ปี นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน กทม. ขณะเดียวกัน ยังพบผู้ก่อเหตุอยู่ในที่เกิดเหตุ คือ นายธนาพล เสาธง นักศึกษาปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่

          จึงเชิญตัวไปที่ สภ.สันทราย น.ส.บุญทิวา ฟูน่าน อายุ 30 ปี เพื่อนผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุออกมาจากงานเลี้ยงในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดย น.ส.วราภรณ์ ขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาวป้ายแดง โดยตนนั่งมาด้วย เมื่อขับรถออกมา ได้ขับแซงรถคันด้านหน้าแต่ไม่ทัน จึงทำให้ขับปาดหน้ารถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สี บรอนซ์ ทะเบียน กข 8820 ลำพูน โดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อแซงพ้นก็ขับเข้าเลนซ้ายตามปกติ จากนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวขับปาดหน้าซ้ายขวา เมื่อขับมาถึงสี่แยกจุดเกิดเหตุ รถเก๋งคันดังกล่าวขับปาดหน้าอีกครั้ง ทำให้ น.ส.วราภรณ์ต้องจอดรถ จากนั้นนายธนาพลลงมาเปิดประตูแล้วลากตัว น.ส.วราภรณ์ ออกไปกระทืบกลางถนนอย่างบ้าคลั่ง

          ตนนั่งมาด้วยพยายามห้ามปรามแต่ไม่เป็นผล ขณะทำร้ายนายธนาพลยังตะโกนบอกหลายครั้งว่า "รู้มั้ยพ่อ...เป็นใคร" และอีกหลายประโยคที่แสดงความกร่าง เมื่อห้ามไม่อยู่จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจเข้าระงับเหตุ หลังจาก น.ส.วราภรณ์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ตนพร้อมกับ นายธนาพล จึงเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมพร ตาลพล พนักงานสอบสวน สภ.สันทราย โดยยืนยันจะให้ตำรวจจับกุมและดำเนินคดีต่อนายธนาพล ในข้อหาทำร้ายร่างกาย

          แต่พนักงานสอบสวนกลับให้ลงเพียงบันทึกประจำวัน ก่อนปล่อยตัวนายธนาพลโดยไม่มีเงื่อนไข ทั้งยังไม่มีการตรวจสอบอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล และไม่มีการนัดหมายตนเข้าให้ปากคำ หรือสอบสวนใดๆ กับผู้ต้องหา น.ส.บุญทิวา กล่าวว่า ขณะที่อยู่ในโรงพัก พบว่า บิดาของนายธนาพล ซึ่งอ้างว่าเป็นนายทหารบก ยศพันเอก เดินทางมารับนายธนาพลกลับออกไปอย่างง่ายดาย ทั้งที่เพิ่งก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้หญิงกลางถนน เมื่อเห็นว่าพนักงานสอบสวนไม่ให้ความสนใจ และไม่รับแจ้งความในการดำเนินคดี เกรงว่าอาจถูกทำร้ายฟรี

          ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ไปยัง พ.ต.อ.วิสุทธิ์ พุ่มจันทร์ ผกก.สภ.สันทราย เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ พ.ต.ท.สมพร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ขณะที่สายตรวจที่ไประงับเหตุก็ไม่เห็นเหตุการณ์ช่วงมีการทำร้ายร่างกายกัน จึงไม่สามารถจับกุมได้ ที่สำคัญยังไม่สามารถสอบถามรายละเอียดจาก น.ส.วราภรณ์ซึ่งบาดเจ็บอยู่ได้ จึงลงบันทึกประจำวันไว้เพียงคร่าวๆ

          ส่วนที่มีการปล่อยตัวนายธนาพลกลับไป เนื่องจากมีเพื่อนของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายหลายคนมาที่โรงพัก เกรงว่าจะมีปัญหากันอีก จึงต้องให้แยกทั้งสองฝ่ายไม่ให้เผชิญหน้ากัน พ.ต.ท.สมพร ชี้แจงด้วยว่า หลังเกิดเหตุเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลเทพปัญญาแล้ว หากผู้เสียหายยืนยันจะดำเนินคดีก็ให้โทรศัพท์มานัดหมายเพื่อให้ปากคำได้ ส่วนจะดำเนินคดีกับใครในข้อหาอะไร ก็ต้องดูคำให้การ รวมถึงบาดแผลของผู้เสียหายอีกครั้ง




เมื่อค่ำเมื่อคืนบ่อดีออกบ้านเน่อครับ อันตราย คนเจ็บผมก็ฮูจัก เอกจ๋า ก็น่าจะเกยฮู้จัก เกยหันหน้า

หน้าตั๋วเมีย....