ตอนบวชปฏิบัติให้ดี อยู่ในธรรมวินัยก็ใช้ได้แล้วครับ จะธรรมยุต์ หรือมหานิกาย มันก็ศาสนาเดียวกัน พระพุทธเจ้าคงไม่ได้กำหนดเอาไว้ พวกอุตริอยากเด่นอยากดังอยากสร้่างอะไรที่เป็นของตัวเอง เอามาทำกันทีหลัง กำหนดกฎเกณฑ์ กันไป หาหัวใจหลักของศาสนาพุทธให้พบ ว่าจริงจริงแล้วต้องการอะไร อีกหน่อยพอสึกออกมาแล้วใครถามว่าบวชแล้วได้อะไร จะได้ตอบเขาถูกว่า ได้รู้จัก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่มันไม่ติดกับปัจจัย เดินสายกลางไว้ พวกสุดโต่ง พวกอุตริ ทำเป็นเคร่งไม่จับเงิน ผมเห็นมาเยอะแล้ว เงินไม่จับแต่มันดูบัญชีไม่เว้นวัน ได้วัดสงบสงบแล้ว ผมจะขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ
ถ้าเป็นเพราะที่ผมดันระบุว่าให้เป็นวัดป่า-เจาะจงสายนิกาย ก็ต้องขออภัยครับ
ขออธิบายว่าที่ระบุเพราะเป็นรูปแบบเดียวที่ผมพอจะคุ้นเคยอยู่บ้าง และน่าจะตรงความต้องการของจขกท.ที่เจาะจงว่า"อยากอยู่วัดที่เน้นพอเพียง ศาสนสถานแบบพอเพียง ไม่ต้องตกแต่งวิจิตรอะไร มีเพียงไว้ใช้ประกอบพิธีเท่านั้น , อยากบวชแบบไม่ต้องมีงาน โกนหัว สวมจีวร เข้าพิธีตามศาสนา จบ"
เพิ่งขึ้นไปรับเหมาล้างบาตรมาเมื่อวาน+เมื่อเช้า สภาพศาลาของท่านเป็นแบบนี้ครับ

ยากมากเรื่องท่องคำขอบวช ซึ่งต้องเป๊ะ ไม่งั้นไม่ให้บวชแต่บวชไปแล้วง่ายเลย เพราะท่านไม่จ้ำจี้ให้ท่องบทสวดอะไรอีก ทำวัตรก็ไปอ่านๆท่องๆเอาเองจะลงศาลาหรือทำที่กุฏิก็ได้ กิจนิมนต์ก็ไม่มี , และค่าใช้จ่ายต่ำมาก บริขารอะไรที่เป็นราคาไม่ต้องไปซื้อท่านจัดให้หมด , อะไรๆก็ไม่รับ , พิธีบวชก็ง่าย ถึงเวลาโกนก็เรียกมาโกนเอาดื้อๆไม่มีพิธี ไม่ต้องสนใจเรื่องแห่นาค
บวชแล้วยิ่งอยู่ง่าย นอนง่าย กินมื้อเดียว รสชาติก็ไม่ต้องสน , ใช้ชีวิตง่ายๆไม่ต้องไปสนใจโทรทัศน์ ไม่ต้องสนสัญญาณมือถือ/ความเร็วอินเตอร์เน็ต , หนังสือก็ไม่เคี่ยวเข็ญให้อ่าน แค่ใช้ชีวิตประจำวันไปเรื่อยๆ....... แผล็บเดียวหมดเวลาซะแล่ว
เห็นไหม ง่ายไปหมด อย่างที่จขกท.เค้าอยากได้เลย

อ้อ ... ขออธิบายเรื่องไม่จับเงินเสียหน่อย ว่าท่านไม่ได้ทำเป็นเคร่งครับ ไม่ให้จับก็ไม่จับ ท่านเลยไม่สนใจจะจับ คนไม่ได้อยากไม่ได้สนใจอะไร จะอยากได้เงินไปทำไร? แค่ใช้ชีวิตประจำวันไปแต่ละวัน เวลาก็พอดีกันเปรี๊ยะๆแล้ว
