มาต่อเรื่องปืนที่สารวัตรป้อมทองถามครับ
ผมขอดึงที่พี่อ๋องเขียนมาเพื่อท่านสามารถตามลิงค์ไปดูชนิดปืนที่แข่งได้เลยนะครับ(เพื่อความสะดวก)
เบเรตต้า PX4 และ สมิธ 990L สามารถแข่งขันในรุ่นโปรดักชั่นได้
ซึ่งก็แข่งขันกับปืนอื่นชั้นเดียวกัน เช่น กล็อก HK ซีแซด
หรือจะไปแข่งสแตนดาร์ด และโอเพ่นก็สามารถทำได้ (แต่เสียเปรียบมาก)
สำหรับผู้สนใจ ดูรายการปืนที่อนุญาตใช้แข่งขันในชั้นของโปรดักชั่นได้ที่นี่ครับ รายการปืนโปรดักชั่น IPSC มีให้แข่งใน 5 Division (5 แบบ) ครับ ผมจะช่วยเขียน(แปล)จากความจำแต่รายละเอียดก็ตามลิงค์ไปดูกันครับ เพราะมากเหลือเกิน แต่จะแนะนำปืนยอดนิยมให้ครับ
แต่ก่อนที่จะไปเรื่องปืนขออธิบายไว้ก่อนนะครับว่า IPSC มีข้อกำหนดขนาดกระสุนของแต่ละ Division(แบบ) ไว้ด้วยครับ แล้วยังมีกำหนดค่า Power Factor (PF=เพาว์เวอร์แฟคเตอร์) ไว้ด้วย
ค่า PF มีไว้เพื่อป้องกันการได้เปรียบเสียเปรียบของนักกีฬานะครับ
ค่า PF ได้มาจากการคำนวนตามนี้ครับ น้ำหนักหัวกระสุน x ความเร็ว แล้วหารด้วย 1000 ครับ ในแต่ละ Division มีค่า PF ต่างกัน(เดี๋ยวไปว่ากันในแต่ละ Division)ครับ ซึ่งแยกเป้น Major และ Minor แต่ต่ำสุดนั้นจะเหมือนกัน คือ ต้องไม่ต่ำกว่า 125 ซึ่งถ้าต่ำกว่านั้นจะไม่มีการคิดคะแนนให้ครับ
เอาละครับมาว่าเรื่องปืนเลยครับ
1. Open Division ปืนโอเพ่น คือไม่จำกัดการตกแต่ง อยากแต่งยังไงแต่งเข้าไปครับ ติดกล้อง ติดคอมพ์ เจาะพอร์ทและอื่นๆ สำหรับพวกบ้าสุดๆเพราะพกใช้งานก็ไม่ได้ครับ มันมโหฬารเหลือเกิน ในปืนโอเพ่น กฎบังคับให้ใช้ขนาดกระสุนไม่ต่ำกว่า 9 มมครับ และเป็นขนาดที่นิยมสูงสุดครับ เพราะบรรจุกระสุนในแม็กกาซีนได้มากครับ(กฎบังคับว่าแม็กกาซีนยาวสุดต้องไม่เกิน 170 มม) แม็กยาว 140 มม จุได้ไม่ต่ำกว่า 17 นัดส่วนแม็กยาว 170 มม จุได้ไม่ต่ำกว่า 25 นัดครับ ค่า PF ของ Division นี้ Major ต้องไม่ต่ำกว่า PF160 Minorก็อย่างที่บอกไว้แต่ต้น แต่ไม่มีใครใช้ต่ำกว่า 160 ครับ
ปืนที่นักกีฬานิยมนำมาใช้ก็จะเป็นของ STI เช่น Competitor, Grand Master เป็นต้น ยี่ห้ออื่นก็มีแต่ไม่นิยมกันเท่าไหร่นักเช่น SV (ดีแต่แพงเกินไป) Bul M5(ถูกกว่าแต่ไม่สามารถมีลูกเล่นได้มาก)
แบบที่นิยมที่สุดคือ ชอร์ตบล็อกครับ เพราะสามารถใส่อุปกรณ์ที่ต้องการได้ครับ ส่วนอุปกรณ์อะไรบ้างมันยาวมาก แต่ถ้าต้องการรู้จริงๆค่อยถามก็แล้วกันครับ
พูดถึงราคานะครับ STI Competitor เท่าที่ทราบประมาณ 170,000-180,000 บาท
Grand Master 200,000 ขึ้นครับ
ทั้งสองรายการไม่น่าจะมีของอยู่ในร้าน มักจะต้องสั่งจองเอาครับ ร้านที่รับน่าจะมี ร้านปืนประโยชน์ ร้านปืนวิชาและร้านปืนมิตรภาพ ครับ
แบบชอร์ตบล็อก เริ่มต้นที่ประมาณ 110,000-120,000 ครับทำจนเสร็จน่าจะอยู่ที่ 150,000-160,000 บาทครับ ข้อดีอย่างที่บอกครับเลือกใส่สิ่งที่ต้องการได้เองครับ สามารถถามได้ที่ร้านปืนวิชาและร้านปืนมิตรภาพ ครับ
อ้อ....ซองปืนและซองแม็กกาซีนจะไว้ตำแหน่งไหนก็ได้ครับไม่บังคับ
2. Standard Division เป็นปืนศูนย์เปิดครับขนาดกระสุนต่ำสุดต้องไม่ต่ำกว่า 10 มมหรือ .40 ครับ
ค่า PF Major ไม่ต่ำกว่า 170 Minor ไม่ต่ำกว่า 125 ครับ
ข้อกำหนดคือห้ามเจาะพอร์ทห้ามติดกล้อง แถมยังบังคับว่าต้องสามารถบรรจุปืนและแม็กกาซีนลงในกล่องที่มีมิติขนาด 225มม x 150มม x 45มม +1มม -0 ครับ
ทำไมต้องบังคับ ก็เพื่อไม่ให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบครับ
การคาดปืนและแม็กกาซีน จะต้องไม่คาดในตำแหน่งที่ล้ำหน้าเกินกระดูกเชิงกราน (Hip Bone)
ปืนที่นิยมมากก็มี STI ส่วน Tranfoglio ก็เริ่มมีคนนำมาแข่งครับ ขนาดที่นิยมคือ .40 ครับเพราะจะจุกระสุนได้มากครับ ส่วน .45 เช่น STI รุ่น The Edge ก็มีคนนำมาแข่งเหมือนกันครับ ผมก็เคยเอาลงแข่งมาเหมือนกัน
ร้านปืนที่จำหน่ายก็ต้องจองเอาครับ ร้านปืนประโยชน์ ปืนวิชชา ปืนมิตรภาพ ปืนไพศิษฐ์ ขนาด .45 ลองหาดูครับแต่ .40 คงต้องจองครับ ราคาก็น่าจะประมาณ 150,000 บาทไม่แน่ใจเท่าไหร่ครับ ใครทราบช่วยอัพเดทให้ด้วยครับ
ผมขอหยุดที่ Division นี้ก่อนครับ เดี๋ยวมีเวลาค่อยมาต่ออีกในส่วนที่เหลือครับ