http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU56TXhNakkzTVE9PQ==&subcatid= จากเหตุการณ์ที่นายสตีเฟ่น แอชตัน อายุ 22 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตในคืนเคานต์ดาวน์ของวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา บริเวณอ่าวบ้านหาดริ้น อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ม.ค. นายธัญญะ พูลสวัสดิ์ สมาคมโรงแรมเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ได้ส่งหนังสือแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายสตีเฟ่น ผ่านเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อแสดงความเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ทำให้ไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว มีเนื้อหาระบุว่า
ในนามสมาคมโรงแรมเกาะพะงัน ขอเป็นตัวแทนแสดงความเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันนำไปสู่ความสูญเสีย เศร้าสลดให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เกาะพะงันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สงบสวยงาม ธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีประวัติศาสตร์ที่สำคัญมายาวนาน ประชาชนมีน้ำใจและอัธยาศัยไมตรีต่อผู้มาเยือน เหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนที่สำคัญเพื่อหามาตรการปกป้องดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เหตุการณ์ครั้งนี้ชาวเกาะพะงัน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และยินดีให้ความช่วยเหลือร่วมมือกับสถานทูตและครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพของนายสตีเฟ่นขณะนี้นำออกจากพื้นที่ อ.เกาะพะงัน มาชันสูตรเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีแล้ว นอกจากนี้ เวลา 09.00 น. วันที่ 5 ม.ค. ทูตอังกฤษประจำประเทศไทยจะเดินทางมายังเกาะพะงัน เพื่อสอบถามและติดตามความคืบหน้าของคดี พร้อมทั้งจะเดินทางไปดูจุดที่เกิดเหตุด้วย
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หนังสือพิมพ์เดลี่เมล์ สื่อชื่อดังในอังกฤษ รายงานว่า สำหรับเมืองไทยน่าจะถือเป็นประเทศที่มีประชาชนพลเรือนใช้อาวุธปืนมากที่สุดกลุ่มหนึ่งในประเทศอาเซียน โดยนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะพะงัน และการทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากได้เช่าเจ็ตสกีจากผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.เกาะสมุย ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเป็นอย่างมาก เพราะทั้ง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกสื่อต่างประเทศตีข่าวไปทั่วโลก
นายฉัตรป้องระบุว่า สำหรับกรณีของ อ.เกาะพะงัน ได้มีมาตรการขั้นเด็ดขาดในการตรวจตราอาวุธทุกชนิด และห้ามพกพาอาวุธปืนบนเกาะอีกต่อไป โดยจะเริ่มทยอยงดต่อใบอนุญาตพกปืน, ครอบครองอาวุธปืน รวมถึงไม่ออกใบอนุญาตให้มีอาวุธ จะประกาศให้เป็นเขตปลอดอาวุธปืนภายใน 1 ปี และจะเข้าไปจัดระเบียบผู้ประกอบการให้เช่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเจ็ตสกี ใหม่ทั้งหมด พร้อมกับการกำหนดหลักเกณฑ์เป็นข้อบังคับ การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ การควบคุมราคา โดยเฉพาะการประกันภัยในทรัพย์สินของผู้ประกอบการที่ผู้ประกอบการจะไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้เช่าโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนหรือถูกร้องเรียนจะดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหากรรโชกทรัพย์ทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น