เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 26, 2025, 11:56:25 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนสอบถามเรื่องปืนบ้านหม้อ  (อ่าน 1772 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yw
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 3


« เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2006, 06:08:23 PM »

เรื่องปืนโครงการครับ อยากทราบว่าได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ครับ เห็นบอกว่าจ่ายเงินทำสัญญาที่ร้านเลย ปกติต้องสั่งกับทางราชการครับ
บันทึกการเข้า
powerboy
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 52
ออฟไลน์

กระทู้: 412


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2006, 06:53:49 PM »

ต้องดูสัญญาดี ๆ น่ะครับว่าทำกับราชการหรือเอกชน
บันทึกการเข้า
yw
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 3


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2006, 11:25:33 AM »

ผมดูสัญญาแล้ว เป็นสัญญาที่ทำกับร้านครับ อยากทราบว่าการที่ทำสัญญากับร้านเลยจะถูกต้องหรือไม่ครับ
บันทึกการเข้า
SAVOK CZ
Hero Member
*****

คะแนน 31
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1620


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2006, 11:35:45 AM »

ขออนุญาตยกข้อความ คุณ APC โพสต์ไว้เมื่อ 9 มีค.2548 เรื่องการจัดสวัสดิการอาวุธปืนของ กรมสวัสดิการกองทัพบก เพื่อเป็นแนวทางพิจารณาความเป็นไปได้ของโครงการ นะครับ
การจัดทำโครงการปืนสวัสดิการของทางราชการ

ขั้นตอน

ขั้นตอนที่1 หน่วยงานของรัฐตั้งแต่ระดับกรมขึ้นไปเป็นผู้ริเริ่ม โดยการติดต่อประสานงานกับร้านค้าหรือเอกชนที่มีขีดความสามรถในการสั่งอาวุธปืนจากผู้ผลิต นำเข้ามาในราชอาณาจักร ในรายละเอียดการตกลง จะต้องระบุ รุ่นปืนและราคาที่เป็นธรรม รวมทั้งการชำระเงินทั้งสดและผ่อน ที่ข้าราชการในสังกัดกรมนั้นๆ มีขีดความสามารถที่จะชำระได้ รวมทั้งจะต้องตกลงกันในเรื่องความรับผิดชอบ การจัดเก็บเงินในกรณีเงินผ่อน
ต้องตกลงกันก่อน เรื่องรุ่นปืน ราคายอมรับได้ไหม ร้านค้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการสั่งของ หน่วยงานจะเป็นคนทำบัญชีรายชื่อและเก็บเงินให้

ขั้นตอนที่ 2 เมื่อหน่วยงานของรัฐกับร้านค้าทำข้อตกลงได้แล้ว หน่วยงานต้องทำหนังสือขออนุมัติต่อเจ้ากระทรวงก็คือ รมว.กระทรวง เมื่อเจ้ากระทรวงอนุมัติแล้ว กระทรวงนั้นๆจะทำหนังสือขออนุมัติต่อกระทรวงมหาดไทย เพื่อขออนุมัติจัดโครงการปืนสวัสดิการ

ขั้นตอนที่3 เมื่อมหาดไทยอนุมัติให้จัดโครงการแล้ว หน่วยงานจะเป็นผู้ออกหนังสือเวียนไปยังหน่วยงานระดับรองลงไปที่อยู่ในสังกัด ว่า ขณะนี้ กรมนี้ได้จัดโครงการปืนสวัสดิการแล้ว มีรุ่นปืนดังนี้ ราคาเท่านี้ สั่งได้กี่กระบอก  ข้าราชการผู้ใดที่ประสงค์จะซื้อ ให้ ลงชื่อ ระบุรุ่นปืน ราคา การชำระเงินว่า สดหรือผ่อน แล้วการชำระจะชำระอย่างไร เช่น เงินสด ให้ชำระเมื่อรับปืนงวดเดียว เงินผ่อน ให้ฝ่ายการเงินของหน่วยงานนั้นๆหักเป็นงวดๆแล้วนำส่งร้านค้าเมื่อเจ้าตัวไปรับปืนฯลฯ  โดยมีกำหนดวัน เวลาปิดรับการจอง

ขั้นตอนที่4 เมื่อปิดรับการจองแล้ว หน่วยต่างๆก็จะรวบรวมยอด รายชื่อคนจอง จำนวนปืน(รุ่นไหนกี่กระบอก) ส่งมายังหน่วยงานเจ้าของโครงการๆก็จะส่งยอดนี้ให้แก่ร้านค้า แล้วตั้งเรื่อง ขออนุมัติ รมว.มหาดไทย ให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงงการ นำปืนเข้ามาในราชอาณาจักร ตาม บัญชีรายชื่อคนจอง และตามจำนวน ขนาดปืน
เป็นการขอออก ป.2 นำเข้าปืนมาในราชอาณาจักร ตามที่มหาดไทยได้อนุมัติให้จัดโครงการ โดยมียอดจำนวนปืน และรายชื่อผู้มีสิทธ์ ขั้นตอนนี้ ถ้า รมว.มหาดไทยอนุมัติ ก็จะออกป.2ในลักษณะรวม และระบุด้วยว่า นำเข้ามาเพื่อขายให้แก่ข้าราชการที่มีรายชื่อ ดังนั้นร้านค้าจะขายให้ประชาชนทั่วไปไม่ได้

ขั้นตอนที่5 เมื่อมหาดไทยอนุมัติให้โดยออกใบป.2 ให้ร้านค้าที่ร่วมโครงการแล้ว ร้านค้าก็สั่งปืนจากผู้ผลิต โดยต้องสั่งตามรุ่นที่มีผู้จองเท่านั้น(ระบุในใบป.2) ระหว่างนี้หน่วยงานเจ้าของโครงการจะมีการเรียกเก็บเงินผ่อนจากข้าราชการในสังกัดที่ระบุชำระเป็นเงินผ่อน โดยหน่วยงานฯจะเป็นผู้ถือเงินก้อนนี้ไว้เอง ส่วนคนที่ระบุว่าจะจ่ายเงิยสด หน่วยงานฯจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
ระยะเวลาการนำเข้าปืนมาในราชอาณาจักร อาจใช้เวลานานหลายเดือน ทั้งนี้อยู่ที่ผู้ผลิตปืนว่า สามารถส่งปืนตามorderได้เร็วหรือช้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร้านค้าที่ร่วมโครงการ

ขั้นตอนที่6 เมื่อปืนเข้ามาในราชอาณาจักรแล้ว ผ่านขั้นตอนทางศุลกากรและของมหาดไทยแล้ว จะถูกนำไปเก็บไว้ที่ร้านค้าร่วมโครงการ หรือคลังของหน่วยงานเจ้าของโครงการ ก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างกัน แต่ต้องแจ้งให้มหาดไทยทราบว่า ปืนถูกเก็บอยู่ที่ไหน จำนวนเท่าไหร่ มีรุ่น ขนาดอะไรบ้าง หมายเลขอะไร จากนั้นหน่วยงานเจ้าของโครงการ ก็จะมีหนังสือเวียนแจ้งให้หน่วยระดับล่างในสังกัดทราบ ว่าปืนได้เข้ามาแล้ว ทางมหาดไทยได้รับทราบแล้ว ให้หน่วยระดับล่างแจ้งข้าราชการที่ลงชื่อจอง ไปดำเนินการขอใบป.3 ที่ภูมิลำเนาของตนเอง รวมทั้งหน่วยเจ้าของโครงการจะเป็นผู้ส่งรายชื่อคนจองไปที่มหาดไทย ข้าราชการที่จองปืน ก็ไปขอ ป.3 ต่อนายทะเบียนภูมิลำเนาตนเอง เมื่อได้มาแล้ว ก็ต้องดำเนิการดังนี้.-
-ผู้ที่ระบุว่าชำระเงินสด นำใบป.3 ไปขอรับปืน ณ ที่เก็บ ชำระเงินกับเจ้าหน้าที่(ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานหรือพนักงานร้านค้า ก็แล้วแต่ข้อตกลง) รับปืน แล้วนำปืนไปให้นายทะเบียนทำเครื่องหมายและออกใบอนุญาต ป.4
-ผู้ที่ระบุว่าชำระเงินผ่อน ต้องตรวจสอบว่าผ่อนหมดหรือยัง(ผ่อนโดยฝ่ายการเงินหักเงินเดือนไว้) ถ้ายังไม่หมดต้องผ่อนให้หมด ถ้าผ่อนหมดแล้ว ก็จะได้ใบรับรองการชำระเงินจากฝ่ายการเงินของหน่วย สำหรับไปยื่นแสดงหลักฐานเพื่อรับปืน ณ ที่เก็บ และนำปืนไปทำเครื่องหมายและออกใบป.4
ข้าราชการที่จอง นายทะเบียนต้องออกใบป.3ให้โดยไม่มีข้อแม้ เนื่องจากเป็นผู้ที่มหาดไทยอนุมัติตาม ป.2 ที่อนุมัติในครั้งนำปืนเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่แรกแล้ว
หน่วยงานเจ้าของโครงการจะทำการตกลงกับมหาดไทย ให้นายทะเบียนระบุลงไปในใบอนุญาตป.4ว่า ห้ามโอนเป็นเวลา กี่ปี หรือ ห้ามโอนยกเว้นทางมรดก ฯลฯ ซึ่งนายทะเบียนจะได้รับหนังสือเวียนจากมหาดไทยให้ปฏิบัติ เช่น สวัสดิการของกองบัญชาการทหารสูงสุด ระบุห้ามโอนภายใน 5 ปี ของกองทัพบก ห้ามโอนภายใน 5 ปี ของกองทัพเรือ ห้ามโอนยกเว้นทางมรดก ของกองทัพอากาศ ห้ามโอนยกเว้นทางมรดกและเจ้าของต้องเสียชีวิตแล้ว ของตำรวจ ห้ามโอนภายใน 5 ปี เป็นต้น

ข้อมูลจาก กรมสวัสดิการทหารบก
บันทึกการเข้า


ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2006, 01:22:14 PM »

การจำหน่ายอาวุธปืนให้กลุ่มเป้าหมาย...(เจ้าหน้าที่รัฐ)  ในปัจจุบัน...
เป็นการจำหน่าย...อาวุธปืน...ที่มีราคาต่ำกว่าท้องตลาด...เล็กน้อย
ซึ่งสำหรับผม...การจำหน่ายในลักษณะนี้  ไม่ถือว่าเป็น "สวัสดิการ" ครับ

ประการแรก...ที่เห็นได้ชัด...ก็คือ
การจ่ายเงินไม่ว่า...จะเป็น 10% หรือ 90% ที่เหลือ....ซึ่งก็คือ ทั้งหมด...แหละ
ก่อนที่จะได้รับอาวุธปืน...

ประการนี้...แตกต่างไปจากสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ซึ่งสามารถทำใบส่งตัวได้...
หรือจ่ายก่อนแล้วไปเบิกคืนได้...

ดังนั้น...ผมถือว่า...การจำหน่ายในลักษณะนี้ มิใช่ สวัสดิการ...ครับ
เป็นการจำหน่ายอาวุธปืนในราคาต่ำกว่าท้องตลาดเท่านั้น


ประการที่สอง...สัญญาซื้อ-ขาย
เป็นการกระทำทางธุรกรรม นิติกรรม...ระหว่าง ผู้ซื้อ ( จนท.รัฐ) และผู้ขาย (ร้านค้า) เท่านั้น
หน่วยงาน...ของราชการ (ซึ่งถือเป็นนิติบุคคล) ไม่รับทราบอะไรทั้งนั้น


กำหนดการรับมอบอาวุธปืน สั่ง นำเข้า...อาวุธปืน...
ก็ล้วนแต่คาดคะเน...ทั้งนั้น...

แต่กลับไประบุเวลาที่แน่นอนให้ผู้ซื้อ...ต้องส่งเงินส่วนที่เหลือ...อีก
ทั้ง ๆ ที่...นิติกรรม ธุรกรรม ในระยะนี้...
อยู่ในการดำเนินการของร้านค้า...และนักการเมือง...เท่านั้น
ไม่เกี่ยวกับผู้ซื้อเลย...

การคืนเงิน ในสัญญาก็ระบุว่า..จะคืนแค่เงินที่ผู้ซื้อจ่ายไปเท่านั้น
ไม่ระบุ ดอกเบี้ย และไม่กำหนดระยะเวลาที่แน่นอน...


สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้หรือครับ  สวัสดิการ...

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...
บันทึกการเข้า
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2006, 01:30:23 PM »

แค่สองประการ....แบบชุ่ย ๆ อย่างผม...คิด
ถามว่า..นี่หรือครับ สวัสดิการ....
ผมว่า เพียงแค่....เอาปืนมาขายในสถานที่ราชการ เท่านั้น...
เพราะกลุ่มเป้าหมายคือ จนท. รัฐ

เอามาขาย..ก็ดี ครับ..
แต่อยากจะให้...ไม่มีการเอาเปรียบ..ข้าราชการจน ๆ  เท่านั้แหละครับ
   
จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.039 วินาที กับ 21 คำสั่ง