ใช้หลักนิยมล้วนๆครับ ....................
กล่าวคือ การกำหนดขนาดคาลิเบอร์กระสุนของปืนกลมือ ................หลักนิยมดั้งเดิมคือ ต้องใช้กระสุนคาลิเบอร์เดียวกันกับปืนพก ดังนั้น .................. หากมีการกำหนดหรือรับปืนกลมือ หรือปืนพกเข้าประจำการในกองทัพ ต้องดูเรื่องกระสุนที่ใช้งานร่วมกันเป็นหลัก
อันนี้คือหลักการและข้อกำหนดหลักๆ .....................แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ในสถานการณ์หรือ ข้อจำกัดในการผลิต ณ เวลานั้นๆ
ในอดีต ..................ในช่วง WW II กองทัพของประเทศคู่สงครามจะใช้หลักการนี้ เช่น อเมริกากำหนดคาลิเบอร์ปืนกลมือในขนาด .45 ขนาดเดียวกับ M1911 ซึ่ง กระสุน .45 ACP กำเนิดขึ้นก่อนและใช้ในปืนพกประจำการ ....................... อังกฤษใช้ปืนกลมือสเตนขนาด 9 พาราฯ ซึ่งไม่ใช่คาลิเบอร์ของปืนพกดั้งเดิม ซึ่งก็คือ .455 เวปเล่ แต่เป็นขนาดเดียวกับปืนพก Browning HP ที่วิศวกรเบลเยี่ยม เอาพิมพ์เขียว หนีเยอรมันเข้ามาผลิตในอังกฤษ จำนวนหลายหมื่นกระบอก(อาจจะถึงหลักแสน ผมจำจำนวนไม่ได้)....................... เยอรมัน ปรับกระสุนทั้งปืนกลและปืนพก(P08) เป็นกระสุน 9 พาราฯทั้งหมด แทบจะพร้อมๆกัน เมื่อจอร์จ ลูเกอร์ออกแบบกระสุน 9 พาราฯขึ้นมา.............รัสเซียก็ใช้กระสุน 7.62x25 ในปืนกลมือ PPSH ขนาดเดียวกับปืนพกโตการเรฟ TT33 ................
หลักการนี้ ในปัจจุบัน .................ยังใช้อยู่ และยังอ่อนตัวได้เหมือนในอดีต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ นโยบายด้านอาวุธและการส่งกำลังบำรุงของกองทัพชาตินั้นๆ
เรื่องอานุภาพ ผมว่าทั้ง 9 และ .45 สามารถสังหารสัตว์หนังบางที่ไม่ทรหดอดทนเช่นมนุษย์ได้สบายๆ .................ยิ่งยิงจากปืนกลมือที่ลำกล้องยาวกว่าปืนพกและอำนาจการยิงสูงแล้ว
ไม่น่าสงสัยในเรื่องอานุภาพการสังหาร..............ไม่ว่าจะ 9 หรือ .45 โดนรัวเข้าหน้าอกสัก5-6นัด รับรองแหงแก๋
