เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 17, 2025, 11:22:31 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เดือดร้อนกันอีก ครับ เพ่งเล็งการพกพาเพิ่มขึ้น  (อ่าน 3800 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Congto-รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

กระทู้: 672


« เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 08:13:47 AM »


เครดิต http://www.komchadluek.net/detail/20130127/150344/เพิ่มโทษกวาดล้างกำราบคนใช้อาวุธปืน.html

เพิ่มโทษกวาดล้าง'กำราบ'คนใช้อาวุธปืน
เพิ่มโทษ...กวาดล้าง 'กำราบ'คนใช้อาวุธปืน : สัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) โดยพัฐอร พิจารณ์โสภณ

              สถิติการจับกุมปืนไม่มีทะเบียนในปัจจุบัน นับวันยิ่งมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น การครอบครองและเป็นเจ้าของอาวุธปืนในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากนัก จนกลายเป็นเหตุให้คนร้ายสามารถนำอาวุธปืนดังกล่าวมาใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะคดีประทุษร้ายและผู้ค้ายาเสพติด พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) ซึ่งรับมอบหมายให้ร่วมดูแลงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมนั้น มีแนวทางแก้ไขปัญหาอาวุธปืนเกลื่อนเมืองอย่างไร?

-เหตุใดอาวุธปืนจึงมีเกลื่อนเมืองและกวาดล้างควบคุมไม่ได้

              ปัญหาอาวุธปืนในปัจจุบันกลายเป็นค่านิยมที่ต้องมีการพกปืนไว้เพื่อความเท่ อาจจะเริ่มแค่พกไว้เฉยๆ ไม่ได้ไปก่อเหตุ แต่เมื่อเข้าไปสู่สถานการณ์ที่จวนตัวหรือมีเหตุทะเลาะวิวาทจึงเกิดความโมโห ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวไว้เฉยๆ นั้น ออกมาก่อเหตุ ส่วนใหญ่คนนิยมมีอาวุธเพื่อ 1.ป้องกันตัว ป้องกันทรัพย์สิน 2.ใช้เป็นอาวุธเวลามีปัญหาการทะเลาะวิวาท ทำให้การกวาดล้างแต่ละครั้งมีการจับได้เยอะมาก โดยอาวุธปืนที่กวาดล้างและตรวจค้นได้ในปัจจุบันนั้น จะมีทั้ง ปืนมีทะเบียน และ ปืนไม่มีทะเบียน การก่อเหตุในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นปืนไม่มีทะเบียน หรือปืนเถื่อนเป็นจำนวนมาก เมื่อมีความต้องการมากขึ้น การลักลอบนำมาขายกันมากขึ้น ส่วนใหญ่กลุ่มเป้าหมายจะเป็นวัยรุ่น กลุ่มผู้มีอิทธิพล กลุ่มติดตามผู้ค้ายาเสพติด ผู้ติดตามนักการเมือง ก็จะมีทั้งปืนเถื่อนที่ไม่ได้จดทะเบียนและก็ปืนไทยประดิษฐ์

              ทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการดำเนินการกวางล้างจับกุมอาวุธปืนอยู่ตลอด แต่บทบาทเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตาม พ.ร.บอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธ พ.ศ.2490 ในปัจจุบันนี้ มีเพียงการบังคับใช้กฎหมายในการตรวจจับและดำเนินคดีในความผิดที่มีโทษทางอาญาในบางมาตรา ส่วนอำนาจในการควบคุมดูแลและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้มีและใช้ ผู้ทำ ผู้ประกอบ ซ่อมแซม หรือนำเข้าอาวุธปืนต่างๆ นั้น อยู่ในความรับผิดชอบของส่วนงานนิติการ สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ทำให้บทบาทของตำรวจจึงค่อนข้างจำกัด

-มาตรการในการป้องกันและปราบปรามเกี่ยวกับอาวุธปืน

              ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังมีการประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความร่วมมือในเรื่องการเก็บข้อมูล เนื่องจากเขาเป็นคนที่อนุญาตก็จะมีการเก็บข้อมูลไว้ ปัจจุบันเมื่อเกิดปัญหาขึ้นทางเราจะขอความร่วมมือเขาเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำปลอกกระสุนมาเปรียบเทียบ ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้มีโครงการจัดเก็บข้อมูล หัวกระสุนปืนเพื่อเป็นฐานข้อมูลประวัติอาวุธปืนที่นายทะเบียนได้ออกใบอนุญาตให้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 โดยนำอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตไปทำการยิงเก็บหัวกระสุน จากนั้นนำไปบันทึกข้อมูลด้วยเครื่องตรวจหัวกระสุนปืนและปลอกกระสุนปืนอัตโนมัติ ซึ่งเรียกว่า โครงการ IBIS (Intergrated Ballistic Identification System) สำหรับใช้ในการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดเพื่อเป็นการสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนและการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

              อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวดำเนินการเฉพาะผู้ขออนุญาตรายใหม่ ยังไม่ครอบคลุมอาวุธปืนที่มีใบอนุญาตอยู่ก่อนแล้ว การดำเนินการดังกล่าวต้องมีความร่วมมือระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทย ในการเรียกอาวุธปืนในพื้นที่มาตรวจสอบสถานภาพและเก็บประวัติให้เป็นสารบบ และควรใช้ข้อมูลร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการทำงานของทั้งสองหน่วย ซึ่งจะมีการประสานงานขอความร่วมมือกันเร็วๆ นี้

-กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนนั้น ล้าสมัยเกินไปหรือไม่

              สิ่งที่เป็นปัญหาอย่างมากของการปราบปรามคือ โทษในบ้านเราไม่หนัก ควรจะมีการทบทวนในเรื่องของการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับอาวุธปืนให้ทันสมัย รวมทั้งการแก้ไขเกี่ยวกับบทกำหนดโทษในข้อหาที่สำคัญ ขณะนี้ในหลายประเทศได้กำหนดโทษการมีและการใช้อาวุธปืนไว้อย่างหนัก เช่น ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ฯลฯ เพื่อไม่ให้มีช่องว่างที่คนร้ายจะนำอาวุธปืนมาใช้ในการกระทำความผิด รวมทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา มีการกำหนดมาตรการควบคุมการขออนุญาตและการใช้อาวุธเข้มข้นมาก โดยเฉพาะการตรวจประวัติผู้จะขออนุญาต จึงเห็นได้ว่า ทุกประเทศมีแนวโน้มที่จะจำกัดการมีและใช้อาวุธปืนของบุคคลเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีคดีอาญาที่เกิดจากการใช้อาวุธปืนมากขึ้นนั่นเอง

              ทั้งนี้ บทลงโทษของ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 นั้น มีบทลงโทษสำหรับผู้มีและใช้อาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน (ปืนเถื่อน) มีโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท ส่วนอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาต (ปืนผิดมือ) มีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี ปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท ส่วนโทษเกี่ยวกับความผิดพกพาอาวุธติดตัวในเมืองฯ มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท เมื่อมีการดำเนินคดีถึงชั้นศาล หากไม่มีข้อหาร้ายแรงอื่นๆ ผลคดีที่เกี่ยวกับอาวุธปืนเหล่านี้มักเป็นบทลงโทษปรับหรือรอลงอาญาเป็นส่วนใหญ่ มีผลให้ผู้กระทำความผิดไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย รวมทั้งการติดตามบังคับใช้กฎหมายในการถอนใบอนุญาตผู้มีและใช้อาวุธปืนก็ไม่มีการดำเนินเป็นรูปธรรม

-สถานการณ์เกี่ยวกับอาวุธปืนในปัจจุบัน

              ข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2555 พบว่าปัจจุบันมีร้านค้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ได้รับอนุญาตจำนวนทั้งสิ้น 502 ใบอนุญาต แยกเป็นในเขตกรุงเทพมหานคร 381 ใบอนุญาต ในจังหวัดอื่น 121 ใบอนุญาต ส่วนรายละเอียดอาวุธปืนทั่วประเทศทั้งหมดที่อนุญาตให้ครอบครองในปัจจุบัน มีดังนี้ อาวุธปืนที่อนุญาตให้บุคคลครอบครองทั่วประเทศมี 2 ประเภท คือ 1.อาวุธปืนสั้น 3,744,877 กระบอก 2.อาวุธปืนยาว 2,476,3030 กระบอก จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ทราบว่า มีปืนถูกกฎหมายในประเทศไทยถึง 6.2 ล้านกระบอก จากจำนวนประชากรไทยทั้งหมด 63 ล้านคน ซึ่งสามารถคำนวณง่ายๆ คือ ทุก 10 คน จะมีปืนถูกกฎหมาย 1 กระบอก โดยยังไม่รวมปืนเถื่อนและปืนไทยประดิษฐ์ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

              ส่วนข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า สถิติการจับกุมคดีที่เกี่ยวกับมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจำแนกเป็นปืนที่มีทะเบียนและไม่มีทะเบียน ตั้งแต่ปี 2552-2555 มีดังนี้ ปี 2552 ปืนมีทะเบียน 5,647 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 687 คดี ปี 2553 ปืนมีทะเบียน 3,182 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 3,177 คดี ปี 2554 ปืนมีทะเบียน 1,882 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 6,701 คดี ปี 2555 ปืนมีทะเบียน 2,354 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 7,873 คดี

-แนวทางปราบปรามกวาดล้างอาวุธปืน

              เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีข้อมูลท้องถิ่น เกี่ยวกับผู้ทำหรือผลิตอาวุธปืน(เถื่อน)ในพื้นที่ กลุ่มซุ้มมือปืนรับจ้าง เพื่อตรวจค้นจับกุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการนำอาวุธปืนไปใช้ในการกระทำความผิดต่างๆ และเจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจค้น ปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายและมีการตั้งด่านระดมกวาดล้างอาวุธอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถตรวจได้ทุกคันในการตั้งด่าน เพราะจะทำให้เสียเวลาแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกฝึกมาจะสุ่มตรวจและจับพิรุธรถต้องสงสัย ขณะที่แหล่งผลิตอาวุธปืนเถื่อนนั้น ก็มีการติดตาม สืบสวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระยะหลังลดน้อยลงไปเยอะมาก เมื่อมีการตรวจยึดอาวุธปืนแล้วต้องตรวจสอบว่าเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องหรือไม่ หากเป็นปืนไม่มีทะเบียนต้องมีการสืบสวนขยายผลถึงแหล่งที่มาของปืนดังกล่าว ให้ทราบถึงผู้ขายและผู้ผลิต และให้ทลายแหล่งขายแหล่งผลิต ซึ่งเป็นต้นตอของอาวุธเถื่อนที่จะออกมาสู่สาธารณะและให้ติดตามผลจนถึงกระบวนการจำหน่ายของกลางให้เป็นไปอย่างถูกต้อง

              ถ้าหากเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้อง ต้องมีการตรวจสอบว่า ผู้ครอบครองมีใบอนุญาตพกพาถูกต้องหรือไม่ มีการตรวจสอบว่า ผู้ครอบครองขาดคุณสมบัติในการมีใช้หรือพกพาอาวุธปืนหรือไม่ โดยให้ตรวจสอบประวัติผู้ครอบครองว่ามีประวัติการกระทำความผิดหรือมีหมายจับหรือไม่ แล้วให้รายงานเสนอขอเพิกถอนการขออนุญาตให้มี หรือใช้พกพาอาวุธปืนนั้น แล้วส่งอาวุธปืนที่ตรวจพบไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบการกระทำความผิดในคดีต่างๆ และยิงเก็บปลอกกระสุน หัวกระสุน ไว้เป็นฐานข้อมูลในสารบบของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ทั้งนี้ จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาตรการอย่างเคร่งครัดในการจับกุมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการจับอาวุธปืนได้มากขึ้น ผมเชื่อว่าอาวุธปืนในสังคมไทยนั้น ต้องลดลงให้ได้มากที่สุด

.................

(หมายเหตุ : เพิ่มโทษ...กวาดล้าง 'กำราบ'คนใช้อาวุธปืน : สัมภาษณ์พิเศษ  พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) โดยพัฐอร พิจารณ์โสภณ)
บันทึกการเข้า
Tanate(รักในหลวง)
Hero Member
*****

คะแนน 243
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2039



« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 08:23:05 AM »

ทำไมคอรัปชั่น ทำไมไม่เพิ่มโทษมั่ง เป็นผมสักคำว่า "โกง" ใส่หน้าผาก มันประจานเลย หุหุ
บันทึกการเข้า

โดนแล้วครับ นายอำเภอใจกับปลัดขิก เบื่อระบบข้าราชการไทย ของดเล่นปืนไปก่อนนะครับ
ห ม า ย จั น ท ร์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 563
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6222



« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 08:41:10 AM »

โดยอาวุธปืนที่กวาดล้างและตรวจค้นได้ในปัจจุบันนั้น จะมีทั้ง ปืนมีทะเบียน และ ปืนไม่มีทะเบียน

การก่อเหตุในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นปืนไม่มีทะเบียน หรือปืนเถื่อนเป็นจำนวนมาก



มีคำตอบอยู่ในข่าวแล้วนี่ ชัด ๆ ทำไมไม่จัดการล่ะ คุณ ม๋าต๋า
Grin
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 08:58:20 AM »

กฎหมายไม่ได้ล้าสมัยครับ โทษหนักโทษเบามีผลน้อยกว่าสัดส่วนระหว่างคนทำผิดกฎหมายกับคนที่โดนจับ(ทำผิด 100 คนจะมีโอกาสโดนจับไม่กี่คน เพราะเส้นโต), เวลาไอ้โจรมันเอาปืนเถื่อนมาก่อคดีนั่นน่ะ มันไม่ได้กลัวเรื่องข้อหาปืนเถื่อนหรือพกพาปืนหรอกครับ... แต่มันกลัวข้อหาปล้นฆ่า ข้อหาฆ่าคนตาย ฯลฯ มากกว่า(ซึ่งมันมีโอกาสโดนจับน้อย - มันเลยไม่กลัว)...

แล้วข้อหา ข้อหาปล้นฆ่า ข้อหาฆ่าคนตาย ฯลฯ นั่นโทษมันน้อยจนโจรมันไม่กลัวหรือครับท่านนายพลตำรวจเอก?... เป็นถึงนายพลตำรวจเอกมาได้ ทำไมไม่"ก้มหน้า"ดูในสำนวนที่ฟ้องศาลในคดีอุฉกรรจ์เสียบ้าง ว่าข้อหาตาม พรบ.อาวุธปืนทั้งหลายที่รวมกันอยู่ในคดีใหญ่คดีเดียวน่ะ เป็นแค่ความผิดประกอบในข้อหาใหญ่กว่า เช่นข้อหาปล้นฆ่า ข้อหาฆ่าคนตาย ฯลฯ เกือบทั้งนั้นแหละ, ส่วนข้อหาพกพาปืน ปืนผิดมือน่ะ จะอยู่ในคดีเล็กๆ ที่ตำรวจไม่มีปัญญายัดข้อหาใหญ่ได้ ก็เพราะส่วนใหญ่เป็นสุจริตชน ที่"ไม่รู้หลบเป็นปีก ไม่รู้หลีกเป็นหางเวลาเจอด่านฯ"(ไม่ใช่อาชีพโจร เลยไม่ชำนาญเรื่องโจรๆ)...

แล้วท่านนายพลไม่รู้เลยบ้างหรือ ว่าที่มีปัญหาน่ะ... เกิดจากตำรวจไม่จับนั่นแหละ, ว่ากันตรงๆเลยก็คือพวก"สายข่าว"ของตำรวจเองนั่นแหละ สร้างปัญหาให้พลเมืองดี แต่ตำรวจไม่ค่อยจับ เพราะต้องการเลี้ยงเอาไว้จับรายใหญ่(ซึ่งก็ไม่มีปัญญาจับอยู่ดี)... เฮ้อ...
บันทึกการเข้า
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:07:28 AM »

คำสัมภาษณ์ มันสะท้อนถึงตำรวจไทยยุคเดินตามก้นนักการเมืองหมดปัญญาสู้กับโจรแล้ว
น่าจะเอาเวลาและกำลังพลไปเดินบนท้องถนน ตรวจตราแหล่งอาญากรรม ป้องกันหรือปราบปรามจับคุม
ผู้กระทำเหตุได้ทันทีจะดีกว่า มาจ้องจับดูหรือเหวี่ยงแห่ ตัดสิทธิพลเมืองที่มีปืนถูกต้อง
ตามกฎหมายแม้แต่จะใช้ป้องกันตัวเอง
 
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:09:49 AM »

หากยึดปืนสุจริตชน สุจริตชนเดือดร้อนแน่...

ลองดูในหนังฝรั่งก็แล้วกัน เวลาเกิดเหตุปุ๊บ แค่เจ้าของบ้านขู่โจรว่า"ฉันจะโทรเรียกตำรวจ 911"ไอ้โจรในหนังมันกลัว, เพราะโทรเรียกแล้ว"ตำรวจมาจริง"... แต่ถ้าเป็นที่เมืองไทยหากจะโทร.เรียก 191 ต้องฝ่าด่าน 2 ด่าน...

ด่านที่ 1) โทร.ไปแล้วไม่มีใครรับสาย แล้วก็โทร.อยู่อย่างนั้นแหละ(ก็คนเดือดร้อน), แล้วเมื่อมีคนยกสายเสร็จก็วางทันที... ตกลงไม่ได้ยินเสียงคนเลย แค่ยกแล้วก็วางปุ๊บ...

ด่านที่ 2) หากมีคนรับสายก็จะโดนซักถามรายละเอียดยิบ(กึ่งตะคอกกึ่งโมโห), หรือไม่ก็แกล้งโง่ เช่นโทร.แจ้งเหตุ บอกเลขที่บ้านก็แล้ว แต่ดั๊นนนแกล้งถามทาง(ไม่รู้จักประสานกับสายสืบ - ข้อมูลในแฟ้มมีหมดแหละ ก็ทีจับเล่นไพ่ยังมาถูกและไวได้) ฯลฯ... กว่าจะคุยจนรู้เรื่อง คนโทร.อาจโดนเชือดดดด ตาย...

หากนึกไม่ออกให้ทดลองโทร. 191 ในเขต อ.เมืองนนทบุรีก็แล้วกัน... นายสมชายสุ่มโทร. เดือนละครั้งอยู่เป็นปี"ไม่เคยได้เรื่อง", โทร.ได้คุยแค่ครั้งเดียว แจ้งเรื่องมีคนเผาขยะ แจ้งเสร็จได้ประมาณ 1 ชม. มีสายตรวจโทร.กลับมาถามทาง เพราะเข้าซอยไม่ถูก(ในแฟ้มสายสืบก็มีแผนที่-ไม่รู้จักดู) ซึ่ง 1 ชั่วโมงน่ะ หากไฟลามเข้าบ้านคนแถวนั้นวอดเป็นหลังๆไปแล้ว(เลยบอกไม่ต้องมาแล้ว)...
บันทึกการเข้า
smitxx2005'รักในหลวง'
Full Member
***

คะแนน 17
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 250



« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:10:56 AM »

ตั้งแต่ปี 2552-2555 มีดังนี้ ปี 2552 ปืนมีทะเบียน 5,647 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 687 คดี ปี 2553 ปืนมีทะเบียน 3,182 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 3,177 คดี ปี 2554 ปืนมีทะเบียน 1,882 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 6,701 คดี ปี 2555 ปืนมีทะเบียน 2,354 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 7,873 คดี

จากสถิติกลุ่มมีทะเบียนลดลง(คงไม่อยากเสื่ยงเสืยเวลา-ประวัต) แต่เถื่อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บันทึกการเข้า
sohnthaya
Full Member
***

คะแนน 28
ออฟไลน์

กระทู้: 349


« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:12:22 AM »

ยุคโจรครองเมืองแบบนี้ คนดีๆต้องทำใจ  อ๋อย อ๋อย อ๋อย
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:23:24 AM »

คำสัมภาษณ์ มันสะท้อนถึงตำรวจไทยยุคเดินตามก้นนักการเมืองหมดปัญญาสู้กับโจรแล้ว
น่าจะเอาเวลาและกำลังพลไปเดินบนท้องถนน ตรวจตราแหล่งอาญากรรม ป้องกันหรือปราบปรามจับคุม
ผู้กระทำเหตุได้ทันทีจะดีกว่า มาจ้องจับดูหรือเหวี่ยงแห่ ตัดสิทธิพลเมืองที่มีปืนถูกต้อง
ตามกฎหมายแม้แต่จะใช้ป้องกันตัวเอง

เรื่องเดินถนนตรวจตราแหล่งอาชญากรรมน่ะ... ตำรวจท้องที่มีข้อมูลหมด(หากสายสืบไม่ขี้เกียจ) ใครเป็นจิ๊กโก๋รายใหญ่, ใครมีปืนเถื่อนหรือไม่เถื่อนกี่กระบอก ขนาดกระสุนอะไร, ใครเป็นคนซื้อขายของผิดกฎหมายรายใหญ่ นิสัยเป็นอย่างไร มีเมียหลวงเมียน้อยอยู่ที่ไหน...

แต่ปัญหาคือตำรวจไม่จับครับ, ลูบหน้าปะจมูกกันตลอดนั่นแหละ...

เรื่องเหวี่ยงแหจับสุจริตชนน่ะ... คือมันจับง่ายครับ แค่ตั้งด่านเดี๋ยวก็เจอคนมีพิรุธ, ก็สุจริตชนทำมาหากินสุจริต ก็จะฝึกฝนตนเองในสายอาชีพ พกปืนขับรถเข้าด่าน แล้วตำรวจถามว่ามีปืนมาด้วยหรือเปล่า ร้อยทั้งร้อยจะยอมรับว่ามี เพราะไม่ถึงว่าตำรวจจะ"เอาจริงเล่นหนักกับฉัน", ในขณะที่ทางตำรวจจ้อง"เล่นหนัก"กับประชาชนทั่วไป เพราะเล่นง่าย/ไม่เสี่ยง...

ส่วนไอ้โจรมือดีๆน่ะ ต่อให้เหน็บปืนที่เอวก็ไม่มีพิรุธ ลงจากรถยนต์มานั่งคุยกับตำรวจก็ไม่มีพิรุธ, ก็มันฝึกฝนมาตามสายอาชีพฯ, แล้วหากจะเล่นงานจริงๆ ก็จะมีผู้ใหญ่โทร.มาเคลียร์... แล้วหากจะ"เล่นหนัก"ก็อาจมีรายการยิงฝ่าด่าน ซึ่งเสียงตาย และ"เล่นยาก"กว่าจับสุจริตชน... ฮา...
บันทึกการเข้า
krajong
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2875



« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:23:31 AM »

หากยึดปืนสุจริตชน สุจริตชนเดือดร้อนแน่...

ลองดูในหนังฝรั่งก็แล้วกัน เวลาเกิดเหตุปุ๊บ แค่เจ้าของบ้านขู่โจรว่า"ฉันจะโทรเรียกตำรวจ 911"ไอ้โจรในหนังมันกลัว, เพราะโทรเรียกแล้ว"ตำรวจมาจริง"... แต่ถ้าเป็นที่เมืองไทยหากจะโทร.เรียก 191 ต้องฝ่าด่าน 2 ด่าน...

ด่านที่ 1) โทร.ไปแล้วไม่มีใครรับสาย แล้วก็โทร.อยู่อย่างนั้นแหละ(ก็คนเดือดร้อน), แล้วเมื่อมีคนยกสายเสร็จก็วางทันที... ตกลงไม่ได้ยินเสียงคนเลย แค่ยกแล้วก็วางปุ๊บ...

ด่านที่ 2) หากมีคนรับสายก็จะโดนซักถามรายละเอียดยิบ(กึ่งตะคอกกึ่งโมโห), หรือไม่ก็แกล้งโง่ เช่นโทร.แจ้งเหตุ บอกเลขที่บ้านก็แล้ว แต่ดั๊นนนแกล้งถามทาง(ไม่รู้จักประสานกับสายสืบ - ข้อมูลในแฟ้มมีหมดแหละ ก็ทีจับเล่นไพ่ยังมาถูกและไวได้) ฯลฯ... กว่าจะคุยจนรู้เรื่อง คนโทร.อาจโดนเชือดดดด ตาย...

หากนึกไม่ออกให้ทดลองโทร. 191 ในเขต อ.เมืองนนทบุรีก็แล้วกัน... นายสมชายสุ่มโทร. เดือนละครั้งอยู่เป็นปี"ไม่เคยได้เรื่อง", โทร.ได้คุยแค่ครั้งเดียว แจ้งเรื่องมีคนเผาขยะ แจ้งเสร็จได้ประมาณ 1 ชม. มีสายตรวจโทร.กลับมาถามทาง เพราะเข้าซอยไม่ถูก(ในแฟ้มสายสืบก็มีแผนที่-ไม่รู้จักดู) ซึ่ง 1 ชั่วโมงน่ะ หากไฟลามเข้าบ้านคนแถวนั้นวอดเป็นหลังๆไปแล้ว(เลยบอกไม่ต้องมาแล้ว)...
ผมขอเพิ่มข้อที่3 ครับ จนท.รับเรื่องเออ ออ อย่างดีครับ ผ่านไปสองวันเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่มา วันที่3 ขับรถไปที่สถานี่ถาม จนท. ท่านแจ้งว่าไม่รู้เรื่องไม่มีรายงาน
ผมก็เลยถามท่านร้อยเวร(ยศ พันโท)ว่าเมื่อไรจะไปดูเหตุขโมยสายไฟผมได้ครับ ท่านแจ้งว่า ไม่มีรถเดินทาง รถส่งผู้ต้องหาไปศาลหมด  ผมก็เลยต้องอาสาขับรถให้ท่านอีก
 ถ้ารัฐริดรอนสิทธิเรามากๆ เราอยู่ลำบาก เห็นทีต้องมีม๊อบหน่อยครับ
บันทึกการเข้า

ความจริงไม่มีวันตาย แต่คนพูดความจริงตายไปหลายแล้ว
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:41:29 AM »


เรื่องเดินถนนตรวจตราแหล่งอาชญากรรมน่ะ... ตำรวจท้องที่มีข้อมูลหมด(หากสายสืบไม่ขี้เกียจ) ใครเป็นจิ๊กโก๋รายใหญ่, ใครมีปืนเถื่อนหรือไม่เถื่อนกี่กระบอก ขนาดกระสุนอะไร, ใครเป็นคนซื้อขายของผิดกฎหมายรายใหญ่ นิสัยเป็นอย่างไร มีเมียหลวงเมียน้อยอยู่ที่ไหน...

แต่ปัญหาคือตำรวจไม่จับครับ, ลูบหน้าปะจมูกกันตลอดนั่นแหละ...

เรื่องเหวี่ยงแหจับสุจริตชนน่ะ... คือมันจับง่ายครับ แค่ตั้งด่านเดี๋ยวก็เจอคนมีพิรุธ, ก็สุจริตชนทำมาหากินสุจริต ก็จะฝึกฝนตนเองในสายอาชีพ พกปืนขับรถเข้าด่าน แล้วตำรวจถามว่ามีปืนมาด้วยหรือเปล่า ร้อยทั้งร้อยจะยอมรับว่ามี เพราะไม่ถึงว่าตำรวจจะ"เอาจริงเล่นหนักกับฉัน", ในขณะที่ทางตำรวจจ้อง"เล่นหนัก"กับประชาชนทั่วไป เพราะเล่นง่าย/ไม่เสี่ยง...

ส่วนไอ้โจรมือดีๆน่ะ ต่อให้เหน็บปืนที่เอวก็ไม่มีพิรุธ ลงจากรถยนต์มานั่งคุยกับตำรวจก็ไม่มีพิรุธ, ก็มันฝึกฝนมาตามสายอาชีพฯ, แล้วหากจะเล่นงานจริงๆ ก็จะมีผู้ใหญ่โทร.มาเคลียร์... แล้วหากจะ"เล่นหนัก"ก็อาจมีรายการยิงฝ่าด่าน ซึ่งเสียงตาย และ"เล่นยาก"กว่าจับสุจริตชน... ฮา...


ไม่แปลกครับ ตำรวจเองก็เลี้ยงเหล่าขี้ยา และจิ๊กโก๋ไว้บ้าง ยามจำเป็นเอามาแถลงผลงานแก้ขัด
เร็วนี้ก็จับหัวขโมยที่ขึ้นบ้าน ผกก ซอยเดียวกับเส้าไฟฟ้า ได้ หากเป็นประชาชนธรรมดา คงยาก
สรุปแล้วปัญหาเรื่องอาชญากรรม ควรแก้ที่ตำรวจแล้วทำให้หลังสั้นลง ไม่เป็นมิตรกับพวกเหล่าคนชั่ว
เหมือนเพลงมารก์ตำรวจไทย ที่ดีแต่แหกปากร้องโชว์แสดงพลังไร้สาระ
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
nagrop
Jr. Member
**

คะแนน 42
ออฟไลน์

กระทู้: 86



« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:41:36 AM »

ผมเบื่อกับท่านที่มีอำนาจมีแนวคิดแบบนี้มากครับ   ครั้งหนึ่งผมไปงานต่างอำเภอที่ผมอยู่ใด้พูดคุยกับคนชอบปืนเหมือนกัน  แต่แถวนั้นเล่นปืนต่างจากผม  เขานิยมปืนเถื่อนครับใด้คำตอบจากเขาว่าปืนเถื่อนดีกว่า  ยิงคนก็ใด้ประวัติที่มีปืนก็ไม่มี  ไม่ต้องขอทะเบียนให้ยุ่งยาก ถูกกว่า  ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับว่าทำมัยเขาคิดแบบนี้เพราะจ้องแต่ปืนอนุญาตที่จับง่ายกว่า  ตรวจสอบง่ายกว่า  ยิงท่านยุ่งกับปืนอนุญาตมากเท่าไรปืนเถื่อนจะมากขึ้นเท่านั้นครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
ไก่เฮง รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 169
ออฟไลน์

กระทู้: 1826


รักเธอประเทศไทย


« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:42:02 AM »

...ยุคพิซซ่ามาเร็วกว่าตำรวจ...ยุคด่านตรวจมีมากกว่าเซเว่น  อิอิ Grin Grin
บันทึกการเข้า

...ชีวิตทุกชีวิตมีคุณค่า    ใช่รอชะตาวาสนานำไป
ความรู้ทุกคนเรียนทันกันได้  สุดแต่สนใจ  ทุนทรัพย์ สติปัญญา
SIN_JUNG
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 35
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 437



« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:44:57 AM »


เครดิต http://www.komchadluek.net/detail/20130127/150344/เพิ่มโทษกวาดล้างกำราบคนใช้อาวุธปืน.html

เพิ่มโทษกวาดล้าง'กำราบ'คนใช้อาวุธปืน
เพิ่มโทษ...กวาดล้าง 'กำราบ'คนใช้อาวุธปืน : สัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) โดยพัฐอร พิจารณ์โสภณ

              สถิติการจับกุมปืนไม่มีทะเบียนในปัจจุบัน นับวันยิ่งมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น การครอบครองและเป็นเจ้าของอาวุธปืนในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากนัก จนกลายเป็นเหตุให้คนร้ายสามารถนำอาวุธปืนดังกล่าวมาใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะคดีประทุษร้ายและผู้ค้ายาเสพติด พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) ซึ่งรับมอบหมายให้ร่วมดูแลงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมนั้น มีแนวทางแก้ไขปัญหาอาวุธปืนเกลื่อนเมืองอย่างไร?

-เหตุใดอาวุธปืนจึงมีเกลื่อนเมืองและกวาดล้างควบคุมไม่ได้

              ปัญหาอาวุธปืนในปัจจุบันกลายเป็นค่านิยมที่ต้องมีการพกปืนไว้เพื่อความเท่ อาจจะเริ่มแค่พกไว้เฉยๆ ไม่ได้ไปก่อเหตุ แต่เมื่อเข้าไปสู่สถานการณ์ที่จวนตัวหรือมีเหตุทะเลาะวิวาทจึงเกิดความโมโห ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวไว้เฉยๆ นั้น ออกมาก่อเหตุ ส่วนใหญ่คนนิยมมีอาวุธเพื่อ 1.ป้องกันตัว ป้องกันทรัพย์สิน 2.ใช้เป็นอาวุธเวลามีปัญหาการทะเลาะวิวาท ทำให้การกวาดล้างแต่ละครั้งมีการจับได้เยอะมาก โดยอาวุธปืนที่กวาดล้างและตรวจค้นได้ในปัจจุบันนั้น จะมีทั้ง ปืนมีทะเบียน และ ปืนไม่มีทะเบียน การก่อเหตุในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นปืนไม่มีทะเบียน หรือปืนเถื่อนเป็นจำนวนมาก เมื่อมีความต้องการมากขึ้น การลักลอบนำมาขายกันมากขึ้น ส่วนใหญ่กลุ่มเป้าหมายจะเป็นวัยรุ่น กลุ่มผู้มีอิทธิพล กลุ่มติดตามผู้ค้ายาเสพติด ผู้ติดตามนักการเมือง ก็จะมีทั้งปืนเถื่อนที่ไม่ได้จดทะเบียนและก็ปืนไทยประดิษฐ์

              ทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการดำเนินการกวางล้างจับกุมอาวุธปืนอยู่ตลอด แต่บทบาทเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตาม พ.ร.บอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธ พ.ศ.2490 ในปัจจุบันนี้ มีเพียงการบังคับใช้กฎหมายในการตรวจจับและดำเนินคดีในความผิดที่มีโทษทางอาญาในบางมาตรา ส่วนอำนาจในการควบคุมดูแลและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้มีและใช้ ผู้ทำ ผู้ประกอบ ซ่อมแซม หรือนำเข้าอาวุธปืนต่างๆ นั้น อยู่ในความรับผิดชอบของส่วนงานนิติการ สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ทำให้บทบาทของตำรวจจึงค่อนข้างจำกัด

-มาตรการในการป้องกันและปราบปรามเกี่ยวกับอาวุธปืน

              ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังมีการประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความร่วมมือในเรื่องการเก็บข้อมูล เนื่องจากเขาเป็นคนที่อนุญาตก็จะมีการเก็บข้อมูลไว้ ปัจจุบันเมื่อเกิดปัญหาขึ้นทางเราจะขอความร่วมมือเขาเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำปลอกกระสุนมาเปรียบเทียบ ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้มีโครงการจัดเก็บข้อมูล หัวกระสุนปืนเพื่อเป็นฐานข้อมูลประวัติอาวุธปืนที่นายทะเบียนได้ออกใบอนุญาตให้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 โดยนำอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตไปทำการยิงเก็บหัวกระสุน จากนั้นนำไปบันทึกข้อมูลด้วยเครื่องตรวจหัวกระสุนปืนและปลอกกระสุนปืนอัตโนมัติ ซึ่งเรียกว่า โครงการ IBIS (Intergrated Ballistic Identification System) สำหรับใช้ในการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดเพื่อเป็นการสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนและการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

              อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวดำเนินการเฉพาะผู้ขออนุญาตรายใหม่ ยังไม่ครอบคลุมอาวุธปืนที่มีใบอนุญาตอยู่ก่อนแล้ว การดำเนินการดังกล่าวต้องมีความร่วมมือระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทย ในการเรียกอาวุธปืนในพื้นที่มาตรวจสอบสถานภาพและเก็บประวัติให้เป็นสารบบ และควรใช้ข้อมูลร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการทำงานของทั้งสองหน่วย ซึ่งจะมีการประสานงานขอความร่วมมือกันเร็วๆ นี้

-กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนนั้น ล้าสมัยเกินไปหรือไม่

              สิ่งที่เป็นปัญหาอย่างมากของการปราบปรามคือ โทษในบ้านเราไม่หนัก ควรจะมีการทบทวนในเรื่องของการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับอาวุธปืนให้ทันสมัย รวมทั้งการแก้ไขเกี่ยวกับบทกำหนดโทษในข้อหาที่สำคัญ ขณะนี้ในหลายประเทศได้กำหนดโทษการมีและการใช้อาวุธปืนไว้อย่างหนัก เช่น ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ฯลฯ เพื่อไม่ให้มีช่องว่างที่คนร้ายจะนำอาวุธปืนมาใช้ในการกระทำความผิด รวมทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา มีการกำหนดมาตรการควบคุมการขออนุญาตและการใช้อาวุธเข้มข้นมาก โดยเฉพาะการตรวจประวัติผู้จะขออนุญาต จึงเห็นได้ว่า ทุกประเทศมีแนวโน้มที่จะจำกัดการมีและใช้อาวุธปืนของบุคคลเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีคดีอาญาที่เกิดจากการใช้อาวุธปืนมากขึ้นนั่นเอง

              ทั้งนี้ บทลงโทษของ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 นั้น มีบทลงโทษสำหรับผู้มีและใช้อาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน (ปืนเถื่อน) มีโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท ส่วนอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาต (ปืนผิดมือ) มีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี ปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท ส่วนโทษเกี่ยวกับความผิดพกพาอาวุธติดตัวในเมืองฯ มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท เมื่อมีการดำเนินคดีถึงชั้นศาล หากไม่มีข้อหาร้ายแรงอื่นๆ ผลคดีที่เกี่ยวกับอาวุธปืนเหล่านี้มักเป็นบทลงโทษปรับหรือรอลงอาญาเป็นส่วนใหญ่ มีผลให้ผู้กระทำความผิดไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย รวมทั้งการติดตามบังคับใช้กฎหมายในการถอนใบอนุญาตผู้มีและใช้อาวุธปืนก็ไม่มีการดำเนินเป็นรูปธรรม

-สถานการณ์เกี่ยวกับอาวุธปืนในปัจจุบัน

              ข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2555 พบว่าปัจจุบันมีร้านค้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ได้รับอนุญาตจำนวนทั้งสิ้น 502 ใบอนุญาต แยกเป็นในเขตกรุงเทพมหานคร 381 ใบอนุญาต ในจังหวัดอื่น 121 ใบอนุญาต ส่วนรายละเอียดอาวุธปืนทั่วประเทศทั้งหมดที่อนุญาตให้ครอบครองในปัจจุบัน มีดังนี้ อาวุธปืนที่อนุญาตให้บุคคลครอบครองทั่วประเทศมี 2 ประเภท คือ 1.อาวุธปืนสั้น 3,744,877 กระบอก 2.อาวุธปืนยาว 2,476,3030 กระบอก จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ทราบว่า มีปืนถูกกฎหมายในประเทศไทยถึง 6.2 ล้านกระบอก จากจำนวนประชากรไทยทั้งหมด 63 ล้านคน ซึ่งสามารถคำนวณง่ายๆ คือ ทุก 10 คน จะมีปืนถูกกฎหมาย 1 กระบอก โดยยังไม่รวมปืนเถื่อนและปืนไทยประดิษฐ์ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

              ส่วนข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า สถิติการจับกุมคดีที่เกี่ยวกับมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจำแนกเป็นปืนที่มีทะเบียนและไม่มีทะเบียน ตั้งแต่ปี 2552-2555 มีดังนี้ ปี 2552 ปืนมีทะเบียน 5,647 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 687 คดี ปี 2553 ปืนมีทะเบียน 3,182 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 3,177 คดี ปี 2554 ปืนมีทะเบียน 1,882 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 6,701 คดี ปี 2555 ปืนมีทะเบียน 2,354 คดี ปืนไม่มีทะเบียน 7,873 คดี

-แนวทางปราบปรามกวาดล้างอาวุธปืน

              เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีข้อมูลท้องถิ่น เกี่ยวกับผู้ทำหรือผลิตอาวุธปืน(เถื่อน)ในพื้นที่ กลุ่มซุ้มมือปืนรับจ้าง เพื่อตรวจค้นจับกุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการนำอาวุธปืนไปใช้ในการกระทำความผิดต่างๆ และเจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจค้น ปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายและมีการตั้งด่านระดมกวาดล้างอาวุธอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถตรวจได้ทุกคันในการตั้งด่าน เพราะจะทำให้เสียเวลาแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกฝึกมาจะสุ่มตรวจและจับพิรุธรถต้องสงสัย ขณะที่แหล่งผลิตอาวุธปืนเถื่อนนั้น ก็มีการติดตาม สืบสวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระยะหลังลดน้อยลงไปเยอะมาก เมื่อมีการตรวจยึดอาวุธปืนแล้วต้องตรวจสอบว่าเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องหรือไม่ หากเป็นปืนไม่มีทะเบียนต้องมีการสืบสวนขยายผลถึงแหล่งที่มาของปืนดังกล่าว ให้ทราบถึงผู้ขายและผู้ผลิต และให้ทลายแหล่งขายแหล่งผลิต ซึ่งเป็นต้นตอของอาวุธเถื่อนที่จะออกมาสู่สาธารณะและให้ติดตามผลจนถึงกระบวนการจำหน่ายของกลางให้เป็นไปอย่างถูกต้อง

              ถ้าหากเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้อง ต้องมีการตรวจสอบว่า ผู้ครอบครองมีใบอนุญาตพกพาถูกต้องหรือไม่ มีการตรวจสอบว่า ผู้ครอบครองขาดคุณสมบัติในการมีใช้หรือพกพาอาวุธปืนหรือไม่ โดยให้ตรวจสอบประวัติผู้ครอบครองว่ามีประวัติการกระทำความผิดหรือมีหมายจับหรือไม่ แล้วให้รายงานเสนอขอเพิกถอนการขออนุญาตให้มี หรือใช้พกพาอาวุธปืนนั้น แล้วส่งอาวุธปืนที่ตรวจพบไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบการกระทำความผิดในคดีต่างๆ และยิงเก็บปลอกกระสุน หัวกระสุน ไว้เป็นฐานข้อมูลในสารบบของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ทั้งนี้ จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาตรการอย่างเคร่งครัดในการจับกุมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการจับอาวุธปืนได้มากขึ้น ผมเชื่อว่าอาวุธปืนในสังคมไทยนั้น ต้องลดลงให้ได้มากที่สุด

.................

(หมายเหตุ : เพิ่มโทษ...กวาดล้าง 'กำราบ'คนใช้อาวุธปืน : สัมภาษณ์พิเศษ  พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) โดยพัฐอร พิจารณ์โสภณ)


แล้วทำไมต้องมาลงที่ปืนมีทะเบียน  Huh

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 30, 2013, 09:47:11 AM โดย รู_เก้อ » บันทึกการเข้า
yakdee
ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 64
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1146



« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 10:17:13 AM »

พูดว่ากฎหมายเก่า  ทำให้การควบคุมอาวุธปืน..ไม่มีประสิทธิภาพ   อุปมา..เปรียบได้กับพูดถึง...เสื้อตัวเดิม..เอามาใส่แล้วบอกว่าคับ  ไปโทษเสื้อว่า..เก่า และใช้ไม่ได้   แต่ไม่เคยโทษ หรือพิจารณาตัวเองเลยว่าอ้วน หรือ ตัวเองเปลี่ยนไปอย่างไรจากเดิม

พูดไปพูดมา..เหมือนกับว่า..จะของานเก่าคืนมาที่ตำรวจอีก   แย่งประโยชน์กันไปมา  ประชาฯ ที่สุจริตฯ  ได้แต่รับกรรมฯ  จากการแย่งชิงอำนาจฯ ซึ่งหมายถึงเงินตราจะหลั่งไหลไปมาอีกมากมาย

ตำรวจพื้นที่...รู้ดีว่า..ใครมีปืนฯ  ขนาดเท่าไร ?? เพราะแม้จะโอนงานทะเบียนไปให้กระทรวงมหาดไทย  ก่อนอนุญาตฯ ผู้ขอฯ ต้องไปทำการสอบสวนพฤติกรรมความประพฤติกับตำรวจในท้องที่ที่มีภูมิลำเนาอยู่แล้ว   ถ้าไม่รู้...แสดงว่าบกพร่องเอง...ไม่ใช่ไม่ได้รับความร่วมมือ 

เรื่องพูดดีเข้าตัว...ข้าราชการฯ ส่วนใหญ่ที่บริการประชาชน  มักจะพูดแบบนี้  มันคงมาจากตัวอย่างนักการเมืองฯ  ที่ไม่เคยได้รับการลงโทษฯ อย่างสาสม   

ได้คนที่ยิงคนอื่นที่ปั๊มน้ำมันฯ...กลางวันแสก ๆ  คนเห็นมากมาย  แต่วันนี้...ยังคงเดินเชิดหน้าชูคออยู่ได้   เรื่องอาวุธฯ มีประวัติพร้อม...แต่ก็ยังเรียกมาดมยังไม่ได้   อย่างนี้...อย่าหวังว่าประชาชนฯ จะมั่นใจในการดูแลของตำรวจเลย  เอาเวลาไปดูแลตำรวจเองยังจะดีกว่า   โรงพักฯ รื้อแล้วไม่ได้สร้าง  แฟรตฯ ผู้รับเหมา(รายเดิม) ทิ้งงานฯ  ไปแก้ให้ชาวบ้านดูเป็นตัวอย่างจะดีกว่า..ไหม Huh 

ที่ปรึกษา ฯ  มาให้ข่าวแบบนี้...มันน่าอายจริง ๆ   
บันทึกการเข้า

อย่าไปร้องขอฯจากคนอื่น  ถ้าไม่เคยให้อะไรกับใคร
ทำทุกอย่างต้องจริงใจ  แล้วท่านจะได้..จากใจจริง
ทุก ๆ สิ่งที่ว่าแน่แท้    ยังผันแปร..เปลี่ยนเป็นอื่น
ธรรมชาติไม่อาจฝืน   แต่ควรยืนหยัดอยู่..สู้อธรรม
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.108 วินาที กับ 21 คำสั่ง