
กระสุนซ้อม......ความจริงก็คือกระสุนจริงยิงคนตาย แค่ใส่ดินปืนไม่แรงเท่าลูกจริง หัวตะกั่วไม่เคลือบทองแดงเพราะต้องการลดต้นทุน จะได้ไม่เปลืองครับ
เข้ามายืนยันครับ ... กระสุนลูกกรด .22LR ปกติหัวก็เป็นตะกั่วล้วน เรียกลูกจริงแล้ว และลูกที่เป็นหัวทองแดงก็จะเป็นลูกความเร็วสูง และไม่มีลูกซ้อมเช่นกัน
ทำไมไม่เอาหัวกระสุนชนิดหัวตัดมาใส่ในลูก 9 มม.พาราใช่ไหมครับ ... เพราะใส่แล้วกระสุนจะสั้นกว่ากำหนด ทำให้โหลดจากซองกระสุนไม่ได้ครับ ปืนติดขัดแน่นอน ... ไม่นับหัวกระสุนที่น่าจะเบาลง ทำให้วิถีกรสุนเปลี่ยนไปมากครับ
แล้วทำไมไม่เอาหัวกระสุนชนิดกึ่งตัว (semi-wadcutter) มาใส่แบบ .45 ACP ... ผมว่าเป็นเพราะถ้าทำหัวกระสุนแบบนั้นมาใส่ น้ำหนักหัวกระสุนจะเบาไปครับ
กระสุน 9 มม.พารา เดิมหัวกระสุนหนัก ๑๑๕ เกรน ... พอจะทำลูกซ้อมหัวตะกั่ว ใส่ดินให้น้อยลง พบว่าต้องเพิ่มน้ำหนักหัวกระสุน เพื่อให้มีแรงถอยมากพอที่จะดันสไลด์ให้ปืนทำงานปกติ ถ้าเพิ่มน้ำหนักหัว แล้วยังจะทำหัวตัด หรือหัวกึ่งตัด (ผมว่า)หัวกระสุนก็จะยืดยาวเกินกำหนดไปมาก ใส่ในซองกระสุนไม่ได้
ผิดกับ .38 special ที่สามารถลดดินปืน และหัวกระสุน โดยไม่มีผลต่อการทำงานของปืน (ปืนลูกโม่) ลูกซ้อมหัวตัวขนาด .38 ยิงได้ศูนย์เดียวกับลูกจริงถึงระยะประมาณ ๒๕ เมตร แต่ไกลกว่านั้นต้องเล็งเผื่อแล้วครับ ในขณะที่ลูกจริงยังยิงได้สบายมาก