อ่านกระทู้นี้มา 2-3 วัน...............ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมาจมเลย
เลยขออนุญาตวิจารณ์ปืนไรเฟิลโจมตีแบบ AK47 สักหน่อย....................ตามประสบการณ์และความรู้ที่มีอยู่น้อยนิด
ผมเคยใช้ AK47S แบบพานท้ายพับฐานอยู่เกือบ 3 ปี...............เป็นปืนที่ผลิตจากรัสเซีย............ได้มาจากการที่ถือวิสาสะแกะออกจากมือเจ้าของเดิม(กำแน่นเชียว).................ตอนนั้นต้องรีบๆดูรีบๆแกะ เพราะส่วนใหญ่ปืน AK47 ที่เจ้าของ(นอน)กำปืนอยู่ ส่วนใหญ่จะเป็น AK47 แบบพานท้ายไม้และผลิตจากจีน...............เสียดาย(บ่น) หยิบโตกาเรฟไม่ทัน เพราะรุ่นใหญ่ท่านหยิบไปก่อน และมีแค่ 3-4 กระบอกเอง...............ไม่เยอะเหมือน AK
สำหรับ AK47S ..................เป็นไรเฟิลโจมตีขนาดกระทัดรัดพอสมควร ออกแบบมาสำหรับทหารราบยานยนต์และทหารยานเกราะ..............ความแม่นยำก็งั้นๆ แต่สามารถยิงในระบบศูนย์รบได้ดี(คือในระยะหวังผล สามารถยิงเป้าขนาดตัวคนถูก) แต่ ไม่สามารถปั้นให้โดนเฉพาะหัวแบบ M16 ได้.......................ไกถือว่านิ่มสุดๆ ไม่กึกๆแบบ M16 ดึงมาข้างหลังแบบเนียนๆ.................รีคอยนิ่มนวลมาก ในจังหวะฟูลออโต รีคอยนุ่มนวลพอๆกับ M16 สามารถควบคุมการยิงต่อเนื่องได้ดี................
ข้อเด่น...............ถอดประกอบง่ายมาก...ชิ้นส่วนใหญ่ๆแค่ 6 ชิ้น คือ โครงปืน+ไกรอด+โครงลูกเลื่อน+ลูกเลื่อน ฝาครอบโครงลูกเลื่อน+ท่อแก๊สส่วนบน.......................ลำกล้อง โครงและลูกเลื่อนชุบฮาร์ดโครมมาหนามาก ทำความสะอาดง่ายมากแค่เอาผ้าชุบน้ำมันชื้นๆเช็ดก็ออกอย่างง่ายดาย ลำกล้องแค่ใช้แส้หัวผ้าทะลวง2-3 รอบก็ใสปิ๊ง.......................สปริงที่ใช้ในตัวปืนแทบทั้งหมดเป็นสปริงแบบพันไขว้................ในห้องเครื่องลั่นไก นิยมโปะจารบีไว้หนาพอควร .................ชิ้นส่วนการประกอบเข้ากัน ไม่ฟิตติ้งมากตามแบบปืนทหารและไม่มีชิ้นส่วนเล็กย่อยๆแบบ M16 เมื่อมีเศษฝุ่นผงหลุดเข้าไปก็ไม่มีผลอะไรมากกับการทำงานของปืน...............................ท่อแก๊สใหญ่ และมีช่องระบายแก๊สมาก เวลาข้ามลำน้ำปืนเกิดแช่ลงในน้ำ เมื่อขึ้นมาสามารถไล่น้ำที่อยู่ในลำกล้องและท่อแก๊สได้ง่ายและเร็ว ด้วยการดึงคันรั้งถอยหลังมานิดหนึ่ง น้ำก็ไหลออกหมด ปืนก็กลับมาพร้อมยิงได้เร็ว...............
ข้อด้อย................คันบังคับการยิง ใช้วงรอบ ห้ามไก-ออโต-เซมิ กลับกันกับปืนทหารรุ่นอื่นๆส่วนใหญ่ที่เป็น ห้ามไก-เซมิ-ออโต...................ดังนั้นเวลาปลดห้ามไกเพื่อยิง จังหวะแรกจะเป็นออโต หากเผลอไม่กดลงไปสุด เวลายิงก็พรวด..............ตำแหน่งคันบังคับการยิงอยู่ด้านขวาของปืน ใบใหญ่และอยู่สูงในแนวฝาครอบโครงลูกเลื่อน เวลาใช้งานต้องละมือที่กำด้ามมือขึ้นมาบริหารคันบังคับการยิง และที่สำคัญคือเสียงดัง................คันรั้งโครงลูกเลื่อนเช่นกันอยู่ที่ด้านขวา เวลาบริหารต้องละมือเหมือนกัน...................เมื่อคันบังคับการยิงอยู่ที่จังหวะห้ามไก ไม่สามารถบริหารโครงลูกเลื่อนถอยหลังได้ ซึ่งหากจะเคลียร์กระสุนต้องปลดห้ามไกก่อน.............ไม่มีคันค้างลูกเลื่อน ไม่สามารถแขวนลูกเลื่อนได้...................การบรรจุซองกระสุนเข้าตัวปืน เสียบตรงๆเร็วๆไม่ได้ ต้องใช้ร่องหน้าซองกระสุนเกี่ยวกับแง่ที่โครงปืนเสียก่อน แล้วค่อยโยกตัวซองกระสุนมาข้างหลังให้ล็อคกับหางปลาหน้าโกร่งไก...............
หากเทียบกับคู่กัดตลอดกาลกับ M16 ..................AK47 ได้ลูกอึดลูกทน ดูแลง่าย ใช้งานคล่องตัวพอสมควร กระสุนขนาดใหญ่กว่า น้ำหนักมากกว่า (แต่อานุภาพด้อยกว่า) ทหารแต่ละคนนำกระสุนติดตัวไปได้จำนวนน้อยกว่า M16 ความแม่นยำด้อยกว่า....................มิติและรูปร่างปืนพอใช้ได้ ต่างกับ M16 ที่ถือว่าเป็นสุดยอดการออกแบบปืนไรเฟิลโจมตี ที่มีแนวลำกล้อง-ลูกเลื่อน-สันพานท้ายเป็นแนวเส้นตรงเดียวกัน การใช้งานแบบการยิงฉับพลันในสนามรบ ทำได้ดีกว่าปืนทุกรุ่น
ผมขอวิจารณ์แค่นี้ครับ..............ตามที่เคยมีโอกาสใช้งาน AK47S มา