เกาหลีเหนือ กับ ท่าทีที่เปลี่ยนไปของ จีน

[686]

วันนี้ ก็ออกมาขู่อีกแล้ว ขู่รายวัน ขู่ได้ ขู่ดี


http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000045579



เอเอฟพี - เกาหลีเหนือประกาศจะแก้แค้นด้วยการโจมตีที่หนักหน่วงประดุจ “ค้อนยักษ์” วันนี้ (16) หากโซลไม่ยอมขออภัยกรณีที่ผู้ประท้วงราว 40 คนเผารูปผู้นำโสมแดงในวันเกิดอดีตประธานาธิบดี คิม อิลซุง
       
       คำเตือนล่าสุดจากเกาหลีเหนือมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี เสร็จสิ้นภารกิจการเยือนกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และโน้มน้าวให้จีนเข้ามามีส่วนช่วยป้องปรามเปียงยาง
       
       ขณะที่เกาหลีเหนือจัดพิธีฉลองวันเกิดอดีตประธานาธิบดี คิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งประเทศอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวานนี้ (15) ผู้ประท้วงราว 40 คนในกรุงโซลก็ได้เผารูปของอดีตประธานาธิบดีคิม, อดีตผู้นำคิม จองอิล รวมถึง คิม จองอึน ซึ่งเป็นผู้นำโสมแดงคนปัจจุบัน
       
       กองบัญชาการสูงสุดกองทัพประชาชนเกาหลี ประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นอาชญากรรมชั่วร้าย และยื่น “คำขาด” ว่าจะตอบโต้อย่างสาสม หากไม่ได้ยินคำขออภัยจากเกาหลีใต้
       
       “การแก้แค้นของเราครั้งนี้จะเกิดขึ้นโดยไม่แจ้งเตือนล่วงหน้า” สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ เผยแพร่ถ้อยแถลงจากกองทัพ
       
       “เราจะใช้มาตรการตอบโต้ทางทหารที่รุนแรงดุจค้อนยักษ์ เพื่อทำลายพลังอันชั่วร้ายทุกอย่างที่ดูหมิ่นเกียรติภูมิของผู้นำสูงสุด”
       
       “หากรัฐบาลหุ่นเชิดอยากเจรจาพูดคุยกับเราจริง ก็ควรขอโทษเสียก่อน”
       
       รายงานข่าวกรองระบุว่า เกาหลีเหนือนำขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ลูกไปติดตั้งไว้บริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคาดว่าจะเป็นจรวด “มูซูดัน” ที่มีพิสัยยิงไกลประมาณ 4,000 กิโลเมตร และการยิงจรวดน่าจะมีขึ้นในช่วงวันเกิดของ คิม อิลซุง นี้เอง
       
       อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางคนมองว่า การที่เปียงยางเรียกร้องคำขออภัยจากโซลอาจเป็นสัญญาณเปิดทางไปสู่การเจรจาที่เกาหลีใต้พยายามเสนอในช่วงหลายวันมานี้
       
       “ใจความสำคัญอยู่ที่เงื่อนไขว่าจะยอมเจรจาด้วย และนั่นคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม” คิม ยอง-ฮยุน ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือจากมหาวิทยาลัยดองกุกในกรุงโซล ระบุ
       
       เคร์รี ซึ่งได้เดินทางไปพบปะผู้นำเกาหลีใต้, จีน และญี่ปุ่น ฝากคำเตือนไปถึงเปียงยางว่า การทดสอบขีปนาวุธท่ามกลางสถานการณ์อันตึงเครียดเช่นนี้จะเป็น “ความผิดพลาดครั้งใหญ่” และชี้ถึงโอกาสในการเจรจาอย่างจริงจัง หากว่าโสมแดง “แสดงออกอย่างมีนัยยะ” ว่าจะปฏิบัติตามพันธสัญญาเก่าที่ให้ไว้กับนานาชาติ
       
       ประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้มีกำหนดเดินทางเยือนทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ เพื่อร่วมหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา เกี่ยวกับแผนรับมือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ

[PU45™]

ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าไอ้คิมเป็นหมาเห่าใบตองแห้ง แต่ก็ไม่กล้าไปโซล .... ผู้กล้าไปจนกลับมาแล้วมีความสุขถ้วนหน้า เหลือแต่เราผู้ขลาด 

[JUNGLE]

ขู่เก่งและขยันขู่แบบนี้... น่าจะเปลี่ยนอาชีพมาเก็บหนี้รายวันในประเทศสารขันธ์นะครับ...

[rute - รักในหลวง]

ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าไอ้คิมเป็นหมาเห่าใบตองแห้ง แต่ก็ไม่กล้าไปโซล .... ผู้กล้าไปจนกลับมาแล้วมีความสุขถ้วนหน้า เหลือแต่เราผู้ขลาด 

คนกล้าตายครั้งเดียวครับ...



















แต่...ตายก่อน...ฮา...

[686]

ยังไง ก็ต้องบอกว่า การขู่ของ เกาหลีเหนือ มีผลกระทบกับเกาหลีใต้ มากจน ทำให้เกาหลีใต้ ตัดสินใจ เพิ่มงบประมาณทางทหาร ครั้งใหญ่ คราวนี้ คงสะใจ สหรัฐ เต็ม ๆ เพราะ อาวุธส่วนใหญ่ ที่เกาหลีใต้ ใช้มาจาก สหรัฐ ยังมี ญี่ปุ่น อีก ที่เพิ่มงบทางทหาร ครั้งใหญ่ เหมือนกัน 

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

ทำไมไม่มาซื้อ ขีปนาวุธ Phayatan-1  จากเราบ้างนะ   

[C.J. - รักในหลวง]

ทำไมไม่มาซื้อ ขีปนาวุธ Phayatan-1  จากเราบ้างนะ   

 

[686]

ตอนนี้ คนทั่วโลก สนใจ ระเบิด ที่ บอสตั้น มากกว่า คำพูด คิม จอง อุน ซ่ะแล้ว 

[686]

เกาหลีเหนือ ทั้งข่มขู่ ทั้งสร้างภาพ สร้างข่าวได้ทุกวัน จนตอนนี้ ไร้ราคาไปแล้ว

โสมแดงห้ามผู้แทนธุรกิจโสมขาวส่ง “เสบียง” ให้คนงานในนิคมอุตฯแกซอง

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046003

นิคมอุตสาหกรรมแกซองซึ่งตั้งอยู่ในฝั่งเกาหลีเหนือ ห่างจากชายแดนเกาหลีใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร

       เอเอฟพี - เกาหลีเหนือไม่อนุญาตให้ผู้แทนนักธุรกิจเกาหลีใต้เดินทางเข้าไปส่งอาหารและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นแก่คนงานโสมขาวราว 200 ชีวิต ที่ยังพำนักอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง
       
       นักธุรกิจ 10 คนซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทเกาหลีใต้ 123 แห่งที่เปิดโรงงานอยู่ในแกซอง ขออนุญาตเดินทางเข้าไปยังเขตอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในฝั่งเกาหลีเหนือราว 10 กิโลเมตร หลังจากที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดหนักจนเปียงยางสั่งห้ามชาวเกาหลีใต้เดินทางข้ามแดนไปยังนิคมอุตสาหกรรมมาได้ 2 สัปดาห์แล้ว
       
       “ทางเกาหลีเหนือแจ้งมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนว่า ไม่อนุญาตให้ผู้แทนธุรกิจทั้ง 10 คนเดินทางเข้าไปที่แกซอง” คิม ฮยุง-ซ็อก โฆษกกระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้ แถลง
       
       “ช่างน่าเสียใจที่เกาหลีเหนือปฏิเสธคำร้องของพวกเขา และไม่เห็นแก่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม”
       
       นิคมอุตสาหกรรมแกซอง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2004 และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือระหว่างเกาหลีเหนือและใต้
       
       แรงงานโสมขาวราว 900 คนทยอยเดินทางออกจากนิคมอุตสาหกรรม หลังจากที่เกาหลีเหนือประกาศห้ามเข้าเมื่อวันที่ 3 เมษายน แต่ยังมีคนงานเกาหลีใต้อีก ราว200 คนที่ยืนกรานจะอยู่ต่อเพื่อให้งานดำเนินต่อไปได้
       
       อย่างไรก็ดี คำสั่งปิดนิคมอุตสาหกรรมก็ทำให้พวกเขาขาดแคลนวัตถุดิบ และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
       
       “เราขอย้ำอีกครั้งให้เกาหลีเหนือจัดหาปัจจัยยังชีพที่จำเป็นแก่แรงงานในนิคมอุตสาหกรรมแกซองด้วย” คิม กล่าว
       
       เปียงยางถอนคนงานชาวเกาหลีเหนือ 53,000 คนออกจากแกซอง ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา
       
       เมื่อวานนี้(16) รัฐบาลเกาหลีเหนือออกมาระบุว่า โซลกำลัง “ปัดความรับผิดชอบ” เรื่องการปิดนิคมอุตสาหกรรมแกซอง และยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีต้นเหตุมาจาก “นโยบายเผชิญหน้า” และถ้อยคำที่สื่อถึงความ “กระหายสงคราม” ของฝ่ายเกาหลีใต้เอง

[submachine -รักในหลวง-]

ว่าแล้วออกแนวจับตัวประกัน
นิคมอุตฯแกซองกับคนที่เหลืออยู่คือตัวประกันดีๆนี่เอง.....

 

โจรเรียกค่าไถ่

[NOOM 19 รักในหลวง]

ว่าแล้วออกแนวจับตัวประกัน
นิคมอุตฯแกซองกับคนที่เหลืออยู่คือตัวประกันดีๆนี่เอง.....

 

โจรเรียกค่าไถ่

ยั่วยุอีกแว๊ววววววว พี่ซับฯ

[686]

โสมแดงตั้งเงื่อนไข “เลิกคว่ำบาตร-เลิกซ้อมรบ” ก่อนยอมเจรจาสหรัฐฯ-เกาหลีใต้

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046480

เอเอฟพี - เกาหลีเหนือประกาศจะยอมเจรจากับอริใหญ่อย่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้ โดยมีเงื่อนไขว่า องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จะต้องยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรทั้งหมด และให้วอชิงตันและโซลยุติซ้อมรบประจำปี วันนี้(18)
       
       คณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติเกาหลีเหนือ มีคำแถลงเช้านี้(18)ว่า “หากพวกศัตรูสหรัฐฯและเกาหลีใต้มีความปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะเจรจากับเรา พวกเขาควรกระทำดังต่อไปนี้”
       
       เงื่อนไขที่เกาหลีเหนือเสนอมาคาดว่าจะถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยแน่นอน เนื่องจากสหรัฐฯและเกาหลีใต้เผยจุดยืนก่อนหน้านี้แล้วว่า การพูดคุยจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อโสมแดงแสดงเจตนารมณ์ที่จะลดอาวุธอย่างจริงจังเสียก่อน
       
       คำแถลงล่าสุดของคณะกรรมาธิการกลาโหมเป็นอีกหนึ่งหมัดรุกของเกาหลีเหนือ ซึ่งข่มขู่เกาหลีใต้และสหรัฐฯแทบไม่เว้นวันในช่วง 2-3สัปดาห์มานี้
       
       ประธานาธิบดีหญิง พัค กึน-ฮเย แห่งเกาหลีใต้ และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี ซึ่งเดินทางเยือนกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อไม่กี่วันก่อน ยืนยันว่า การเจรจาที่จะมีขึ้นในอนาคตต้องเป็นรูปธรรม โดยเกาหลีเหนือต้องส่งสัญญาณ “เปลี่ยนแปลงตัวเอง” ไปสู่การเคารพันธสัญญาต่อนานาชาติเสียก่อน โดยเฉพาะในเรื่องกิจกรรมนิวเคลียร์
       
       เมื่อวานนี้(17) เลขาธิการสหประชาชาติ บัน คี มูน ก็ออกมาเรียกร้องอย่างจริงจังให้เปียงยางพิจารณาข้อเสนอของโซล แต่ถ้อยแถลงของคณะกรรมาธิการกลาโหมโสมแดงในวันนี้(18) ก็ไม่ต่างจากการปฏิเสธดีๆนี่เอง
       
       “ประการแรก ต้องมีการเพิกถอนมาตรการคว่ำบาตรที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติชงขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล” คำแถลงจากเกาหลีเหนือ ระบุ ซึ่งสอดคล้องกับที่เปียงยางเคยย้ำหลายครั้งว่า สถานการณ์อันเลวร้ายบนคาบสมุทรเกาหลีในขณะนี้ล้วนมีสาเหตุมาจากคำสั่งคว่ำบาตรของยูเอ็นทั้งสิ้น
       
       อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่เกาหลีเหนือยกมาเป็นเงื่อนไขก็คือ ภารกิจซ้อมรบประจำปีระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีใต้ ซึ่งมีการนำเครื่องบินทิ้งระเบิดติดอาวุธนิวเคลียร์ บี-52 และเครื่องบินปีกค้างคาว บี-2 สปิริต เข้ามาบินเหนือคาบสมุทรเกาหลีด้วย
       
       “ประการถัดไป พวกท่านจะต้องประกาศใช้ทั่วโลกรับรู้ว่า จะไม่ข้องเกี่ยวกับการซ้อมทำสงครามนิวเคลียร์อันเป็นการคุกคามความมั่นคงของชาติเราอีก เพราะการเจรจากับสงครามไม่อาจไปด้วยกันได้”
       
       เกาหลีเหนือยังเรียกร้องให้สหรัฐฯถอน “เครื่องไม้เครื่องมือ” ที่ใช้ทำสงครามนิวเคลียร์ออกไปจากคาบสมุทรเกาหลี และสัญญาว่าจะไม่นำกลับเข้ามาอีกเป็นอันขาด
       
       ถ้อยแถลงจากคณะกรรมาธิการกลาโหมถูกประกาศออกมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่คณะกรรมาธิการเพื่อการรวบรวมเกาหลีอย่างสันติ ซึ่งเป็นหน่วยงานโสมแดงที่กำกับดูแลด้านความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ ปฏิเสธการร่วมวงเจรจาในเร็วๆนี้ และยังตำหนิข้อเสนอของเกาหลีใต้ว่าเป็นเพียง “กลลวง” เพื่อซื้อใจประชาชน และปฏิเสธความรับผิดชอบที่ทำให้คาบสมุทรเกาหลีต้องเข้าสู่ “ภาวะสงคราม”
       
       อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงจากทั้ง 2 หน่วยงานไม่ได้เอ่ยถึงแผนทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง “มูซูดัน” ที่หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนหรือหลังวันเกิดอดีตประธานาธิบดี คิม อิล ซุง 15 เมษายน ที่ผ่านมา
       
       ขีปนาวุธมูซูดันซึ่งเกาหลีเหนือยังไม่เคยทดสอบมาก่อนนี้ มีพิสัยยิงไกลสูงสุดถึง 4,000 กิโลเมตร ซึ่งมีศักยภาพพอที่จะโจมตีเป้าหมายทั้งในเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น รวมถึงฐานทัพสหรัฐฯบนเกาะกวม

[krajong]

ไหงออกมาแบบนี้อะ ราคาทองเลยไม่ไปเลย เบื่อ

[686]

ที่เกาหลีเหนือ ประกาศ ออกมา อย่างนี้ แสดงว่า มาตรการ คว่ำบาตร ของ สหประชาชาติ ได้ผล ทำให้ เกาหลีเหนือ ไม่มีทางออกอย่างอื่นแล้ว นอกจาก กลับมานั่งโต๊ะ เจรจา

แต่ ในความเป็นจริง คนที่ไม่ยอม เจรจา ไม่ไช่ เกาหลีเหนือ แต่เป็น สหรัฐ ต่างหาก ที่ไม่ยอม เจรจา กับ เกาหลีเหนือ โดยตรง เพราะ รู้ว่า เกาหลีเหนือ ต้องการให้ สหรัฐ บริจาก เงิน อาหาร และ เวชภัณท์ ให้ เกาหลีเหนือ โดยที่ เกาหลีเหนือ ไม่ต้องทำลาย อาวุัธ นิวเคลียร์ ซึ่ง ผิดกับ การ ประชุม 6 ฝ่าย ที่ เสนอความช่วยเหลือ เกาหลีเหนือ เพื่อแลกกับ การทำลาย อาวุธ นิวเคลียร์ ซึ่ง เกาหลีเหนือ ยอมไ่ม่ได้

[C.J. - รักในหลวง]

ไหงออกมาแบบนี้อะ ราคาทองเลยไม่ไปเลย เบื่อ