ขอความรู้ปืน 1911 ITHACA เพิ่งเคยเห็นครับผม

[GUNMASTER]

แมนสปริงรุ่นนี้ไม่แกะลายกันลื่น  แบบเรียบ ครับ แบบแกะก็มีครับ โค้งแกะแบบลายข้าวหลามตัดก็มี  อย่างว่าทำหลายลอตมาก หลายรุ่นต่างกันเล็กน้อยๆ  ย้ายตำแหน่งตัวอักษรบ้าง  โครงเจาะด้ามเป็นรูปคล้ายใบโพธิ์ก็มีนะครับ

[GUNMASTER]

ขออนุญาตเอารูปปืนท่านอื่นมาให้ดูกระบอกครับ เรมิงตันแรนด์ แบบนี้เจอบ่อยที่หลุดมาจากลาวเมือ 30 ปีที่แล้ว ไม่ใช่เจ้าของมายำอย่างที่พวกรู้น้อยขยันพูดวิจารณ์กัน สรรพาวุธอเมริกันประกอบมาแจกทหารรับจ้างลบในลาว ลาวแตก ทหารรับจ้างเชิดปืนมาขาย กระบอกนี้โครง 1911 เช็คเลขประจำปืนก็ตรงเป็นโคลท์ ผลิตปีแรกๆ แต่ไสลด์เป็น เรมิงตัน เคยทราบว่าท่านมะขิ่นก็เคยมี แต่ผมเจอ(ไม่ได้มี)บ่อย  เรมิงตันได้แบ่งงานโคล์ท มาทำรุ่นแรก ปี 1918 13381 กระบอก ปี 1919 ทำอีก 8295 เลขประจำปืนสุดท้าย คือ 21676 แล้วมา ปี 1942 -1943 ทำอีก สี่แสนกว่าบอก เลขปืนสลับกับ โคล์ท อิธากา ยูเนี่ยนสวิส  1944 1945 ก็ยังมีทำอีก เดี๋ยวว่างจะถ่ายของผมเอง ผลิต1944 เลขประจำปืน 7 หลักขึ้นต้นด้วย 17***** มาให้ดูเปรียบเทียบเป็นแบบ 1911A1 แล้ว

[GUNMASTER]

ของผมได้มาสภาพไม่ถึงขนาด ห่อกระดาษหรอกครับ มีนายทะหารนำมาจากลาวมาจดทะเบียนปี 18 เลขประจำปืนเดิมระบุตรงกับทะเบียนเลยครับ มีไม่แท้อยู่อย่างคือผมเอาลำกล้องอะไหล่ของทหารอเมริกันที่เข้ามาฝึกรบในไทย ที่ฮาร์ดโครมลำกล้องไว้เงาวับส่วนลำกล้องที่ติดปืนมาเกลียวยังดีแต่ผิวไม่ใสแล้วคงยิงมาในสนามรบไม่มีเวลาล้างทำให้มองเป็นคราบดำไปหมด แต่ความแม่นยำ 15 เมตรกลุ่ม 2 นิ้ว ถอดเก็บไว้ครับเผื่อคุยอวดกันจะหาว่ายำมาแล้ว ก็จะได้ล้างมะนาว น้ำปลาออกแยกเป็นกองผัก กองหมูเดิมๆได้ครับ อีกอย่างของผมเจ้าของไปรมดำด้านมาแล้ว  ว่าจะเอาไปย้อม(จริงๆ)ที่ร้านสังเวียนให้เป็นสีเขียวแบบเดิมอยู่ยังไม่มีโอกาสครับ วันหลังทำแล้วจะเอามาให้พวกเราดูอีกครับ

[mannurse]

สุดยอดครับ...

[NPD]

ปืน 1911 เวลารมดำ จะต้องผ่านการขัด...... มันมีผลต่อความหนาของเหล็ก โครงปืนมากน้อยขนาดใหนครับ

[GUNMASTER]

การขัดปืนเพื่อรมดำขึ้นอยู่กับสภาพสนิมก่อนขัด ถ้ากินลึกก็ต้องขัดจนหมด หนักก็ต้องตะไบ (บางลง0.5-1 มิล) ถ้าเป็นน้อยก็ใช้กระดาษทราย  ถ้าไม่เป็นเลยก็ขัดเงา อาจสึกเป็นไมครอน  แต่ถ้ารมปืนแบบทหาร เรียกว่ารมฟอสเฟต คือรมด้านสีเขียว จะต้องเอาสนิมออก แล้วทำผิวให้ขรุขระโดนยิงทราย  ถ้าสนิมน้อยก็ยิงทรายเลย แล้วรม  ส่วนมากถ้าเป็นสนิมน้อยมากแล้วรมด้านจะขัดเหล็กน้อยกว่ารมเงา ถ้าขัดมาก น้อยดูจากตัวหนังสือที่ตอกไว้บนปืน หรือปรู๊ป มาร์ค ตามตำแหน่งต่างๆของปืน ยังอยู่หรือไม่ ลึกเพียงใด บางท่านยอมให้ปืนเขรอะ แต่ไม่เป็นสนิมขุม หรือด่างจากการสึกเพราะพกใช้งาน ดีกว่าปืนรมดำใหม่  ยิ่งรมใหม่จนตัวหนังสือหายแล้วแกะใหม่ยิ่งต้องระวัง(ซื้อปืนมือ 2 ระวังตัวหนังสือชัดๆลึกๆบางทีเจอแกะใหม่ก็ได้) วันหลังว่างจะเอาเคล็ดลับการดูปืนแกะใหม่อย่างไรมานำเสนอพร้อมภาพเปรียบเทียบ

[โซ้ยตี๋]

  เข้ามารายงานตัวหน่อยครับ 
เดี๋ยวจะหาว่าแอบอ่าน...อิอิ
 

[NPD]

ขออนุญาตต่อถ้าไม่เบื่อ สปริงฟิลด์ครับแต่ทำมาแบบ 1911 สังเกตุที่ไม่มีการปาดร่องนิ้งที่โครงข้างไก กับหลังอ่อนจงอยสั้นมาก นอกนั้นรายละเอียดเล็กๆ เช่นศูนย์ การกัดโครงปืนทิ้งรอยเครื่องมือไว้มาก ครับ

     เข้ามาดูหลายรอบ หาอยู่ว่า การปาดร่องนิ้วที่โครงข้างไก ดูรอบนี้เห็นแล้วครับ สรุปได้ว่า สปริงฟิลด์ กับ Colt รุ่นไม่มี A1 จะไม่มีร่องนิ้วนี้ ...... ถูกต้องนะครับ ส่วนหลังอ่อนจงอยสั้น อันนี้ยังเปรียบเทียบไม่เห็น คงต้องพลิกดูอีกหลาย ๆ รอบ

[BADBOY]

..โอ้....สุดยอดทั้งนั้น...ทั้งปืนและ...ผู้วิจารณ์..ทำให้ผมพลอยได้รับอานิสงค์ไปด้วย....ขอบคุณครับ...ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่...ผมจะต้องเอามาครองให้ได้...สำหรับ...ปืนสไตล์ ๑๙๑๑  ครับ...

[GUNMASTER]

ขอเอาภาพเปรียบเทียบ 1911 กับ 1911 A1 มาให้ดูเปรียบเทียบครับคุณนักสำรวจ

[krudam]

ชอบหมดครับที่เป็น 1911 ส่วนรายละเอียดย่อยๆ เช่น เซฟ เมนสปริง นก ไก ถึงแม้จะไม่ใช่รุ่นของมันผมไม่ค่อยซีเรียสครับ 
ขอให้โครงเฟรมหนาๆ สไลด์สวยๆ แน่นๆ หน่อยก็พอครับ   

[NPD]

ขอเอาภาพเปรียบเทียบ 1911 กับ 1911 A1 มาให้ดูเปรียบเทียบครับคุณนักสำรวจ

   ขอบคุณครับ ตอนนี้ผมเห็นข้อแตกต่างภายนอกอยู่ 4 จุดคือ
  1.การปาดร่องนิ้วที่โครงข้างไก
  2.ระยะของไกกับโครงปืน
  3.เมนสปริงเฮาซิ่ง บริเวณด้ามตรงอุ้งมือ
  4.แก้มประกับ

[tao bangkhaen]

ว้าย.....แบบนี้เต๋า บางเขนก็ตกงานซิครับ ......มิได้ครับ .....ต้องขอบพระคุณพี่สุชินเป็นอย่างยิ่งครับ ผมจะได้กระจ่างขึ้นอีกหลายๆ เรื่อง ต้องขอบคุณคุณนักสำรวจด้วย นี่ถ้าคุณไม่ถามพี่สุชินคงไม่เอาภาพ มาโชว์มากขนาดนี้ ต้องขอบพระคุณท่านทั้งสองด้วย
ใครอยากศึกษา 1911 1911 เอ1 แบบฝรั่ง ใช้เอง แบบอเมริกันสนับสนุนให้ประเทศด้อยพัฒนาแล้วยังงง กับระบอบการปกครองของตนเอง เอามาใช้เสี่ยงตายรบกันเองแทนพวกเขา ก็เข้ามาดูเวปนี้ได้เลยครับ ถือว่าครบถ้วน ทั้งความรู้ต่างประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน ประวัติศาสตร์สงคราม ช่วงสงครามปลดแอกลาว เห็นไหมครับ ศึกษา 1911 1911 เอ1 ใครที่คิดจะศึกษา รัก หรือชอบ  ท่านจะต้องเข้าใจ ประวัติศาสตร์สงครามในประเทศเพื่อนบ้านในซีกตะวันออกของประเทศไทยด้วย ท่านจึงจะทราบที่มา ที่ไป ของ เจ้า 1911 ยูเอส อาร์มี่ ที่เข้ามาแพร่ระบาดอยู่ในบ้านเมืองของเรา ว่า ชาวไทย เข้าไปเกี่ยวข้องกับสงคราม ข้างบ้านของตัวเองในลักษณะอย่างไรบ้าง  ลองเอาข้อมูลของพี่มะขิ่น ในกระทู้รวมพลคนโคลท์ ที่ตอบผมไว้  กับของพี่สุชินมาบวกกันเรื่อง ทหารรับจ้าง( ชาว...อะไรก็ไม่รู้.....อิอิ.... ไปรับจ้างอเมริกัน รบ ในลาว) แสดงว่าข้อมูลตรงกันที่ พี่มะขิ่น
บอกว่า ไอ้แบบลูกผสม 1911 ผสมพันธ์ 1911 เอ1 ตามที่ผมวิเคราะห์ไปนั้น มีคนนำข้ามโขงมาตีทะเบียน ตั้ง 800 กระบอก วันนี้ กระจ่างแล้วครับ พี่สุชินก็บอกว่า มีทหารรับจ้าง เชิดข้ามเข้ามาอยู่ฝั่งไทย  มีข้อมูลยืนยัน สองกระแส และเป็นข้อมูลตรงกันแบบนี้ น่าเชื่อถือแล้วครับ
....ดูครับ ดู ใครชอบ 1911 1911 เอ1 เข้ามาเสพ ได้เลยครับ วีรบุรุษตัวนี้ มีที่มา มีที่ไป เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยของเราด้วยครับ  ข้อมูลในอเมริกา ก็ว่าเยอะแล้ว มาเจอข้อมูล ในช่วงสงครามเย็นในภูมิภาคนี้ละก้อ ฝรั่งก็ฝรั่งเถอะ มาเห็นข้อมูล 1911 ในเมืองไทยแล้วจะหนาว ว่ามันเป็นมายังไง  ของฝรั่งก็แค่ ออกจากโรงงานวันนี้ ส่งไปให้ใครบ้าง ที่ไหน อย่างไร แต่ของไทย มาถึงภูมิภาคแล้ว มันกระจายกันอย่างไร ไปที่ไปไหนบ้าง มันส์กว่าฝรั่งเยอะครับ
.....ผมแถมให้คุณนักสำรวจอีกนิด วิธีดูสไลด์เก่า 1912-1922 กับสไลด์ ใหม่ 1923-1945 ถ้ามีโอกาส  ดึงสไลด์ดู หลุมดิสคอนแนคเตอร์ ที่สไลด์ด้านท้าย ถ้าเป็นของรุ่นเก่าแท้ เทคโนโลยี่ ยังไม่ทันสมัย ใช้สว่านเจาะเป็นรูก่อน แล้วใช้ตะไบแทงหน้าหลัง ให้เป็นส่วนราบ แต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่ ใช้เครื่องคว้าน กวาดคว้านเหล็กเป็นหลุมเหมือน แคะขนมครกเลย ครับ
.....รูป 1911 เทียบกับ 1911 เอ1 ในภาพฝรั่ง ที่พี่สุชินให้ดู มีคาใจอยู่นิดเดียวคือ นกปืน 1911 เอ1 น่าจะเป็นแบบเรียว ไม่มีปีกด้านข้างไว้รับนิ้วโป้ง มากกว่า เพราะตามแบบพิมพ์เขียวเห็นหางเรียวๆ ไม่มีปีกบาน แต่ช่วงแรกๆ อาจจะใส่กันไป ใส่กันมาก็ได้
....ดีใจได้เห็นของสวย 

[tao bangkhaen]

ขอเอาภาพเปรียบเทียบ 1911 กับ 1911 A1 มาให้ดูเปรียบเทียบครับคุณนักสำรวจ

ขอบคุณครับ ตอนนี้ผมเห็นข้อแตกต่างภายนอกอยู่ 4 จุดคือ
 1.การปาดร่องนิ้วที่โครงข้างไก
 2.ระยะของไกกับโครงปืน
 3.เมนสปริงเฮาซิ่ง บริเวณด้ามตรงอุ้งมือ
 4.แก้มประกับ

เก่งมาก....ก็ไอ้ข้อแตกต่างนี่แหละ ที่เป็นจุดเปลี่ยนเพื่อเป็นการปรับปรุง จาก 1911 ไปสู่ 1911 เอ 1 ไงละครับ มีเหตุผลดังนี้
1. การปาดร่องนิ้ว ตามตำราว่า ทำให้ล้วงนิ้ว เข้าได้ลึกขึ้นกว่ารุ่นเดิมที่เป็นเนื้อเหล็กกั้นอยู่ ทำให้สวมถุงมือยิงได้(เขาว่างั้น)
2.ไกสั้นลง ก็เหตุผลเดียวกัน
3.เมนสปริง โค้ง เขาบอกว่า เพื่อให้จับกระชับขึ้น (ฝรั่งเขาบอก)
4.ด้ามก็เปลี่ยนจากไม้ เป็นพลาสติก ก็เป็นไปตามยุคสมัย มีวัสดุใหม่กว่า ก็ต้องเปลี่ยนไส่เป็นธรรมดา
อยากเสริมให้อีกว่า พอถอดด้ามแล้วเห็น 1911 จะคว้านผนังปืนที่ด้าม ประกับปิดบังอยู่เป็นแหลมชนกัน มีภาพพี่สุชินให้ดูแล้ว ส่วน 1911 เอ1 จะคว้านเหมือนปัจจุบันคือ เรียบไปหมดเลย เป็นรูป ตัวโอเหลี่ยมๆ นั่นแหละ

[NPD]

.....ผมแถมให้คุณนักสำรวจอีกนิด วิธีดูสไลด์เก่า 1912-1922 กับสไลด์ ใหม่ 1923-1945 ถ้ามีโอกาส  ดึงสไลด์ดู หลุมดิสคอนแนคเตอร์ ที่สไลด์ด้านท้าย ถ้าเป็นของรุ่นเก่าแท้ เทคโนโลยี่ ยังไม่ทันสมัย ใช้สว่านเจาะเป็นรูก่อน แล้วใช้ตะไบแทงหน้าหลัง ให้เป็นส่วนราบ แต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่ ใช้เครื่องคว้าน กวาดคว้านเหล็กเป็นหลุมเหมือน แคะขนมครกเลย ครับ
 ........................................................... ..........................................................
    ขอบคุณครับ ข้อสังเกตุ มีเหตุผล ที่มา ที่ไป ครบ .....  ความจริง ผมมีหนังสือ 1911 Never die ของคุณ วิทยา สุขสมโสตร อยู่เล่มหนึ่ง คงเป็นหนังสือเพียงเล่มเดียวที่พูดถึง 1911 ได้ละเอียดที่สุด ในประเทศไทย (ก็ผมมีอ่านอยู่เล่มเดียว  ) แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ต่อความเข้าใจ พลิกอ่าน อยู่หลายรอบ ในหลาย ๆ บท ก็ยังงง ๆ ต้องขอบ พี่ suchinin พี่ เต๋า และอีกหลาย ๆ ท่านที่ตอบในกระทู้ก่อน ๆ ตอนนี้ เริ่มเห็นภาพราง ๆ แล้วครับ อย่างน้อย ไปจับปืนดู ก็จะรู้แล้วว่า ม้าจริง หรือ ม้าแกะ 1911A1 หรือก่อนรุ่น A1..... `ขอบคุณครับ