หัวคะแนนถูกซุ่มยิงดัวยไรเฟิลที่เชียงใหม่

'ไรเฟิลติดกล้อง' สอยร่วงอีก 1 ผญบ.หัวคะแนน ทรท.

อาการร่อแร่รู้ถูกปองร้ายคุ้มกันไม่ทัน

ร่วงอีกหนึ่งหัวคะแนนไทยรักไทย โดนมือปืนใช้ไรเฟิลติดลำกล้องเล็งส่องเจาะกะโหลก ผญบ.ดอยเต่า อาการปางตายอุกอาจคาลานจอดรถเทศบาลนครเชียงใหม่ ผบช.ภ.5 เผยรู้ตัวจะโดนยิงเลยขอ ตร.อารักขา แต่ยังไม่ทันคุ้มกัน มุ่งประเด็นขัดแย้งผู้มีอิทธิพล เพราะเป็นพยานปากสำคัญให้ตำรวจมัดคดีจ้างวานฆ่า ผญบ. อีกคน ส่วนประเด็นรองเรื่องการเมืองไม่ทิ้งร่วมสอบลึก สำหรับคดียิง ส.จ.กรุงเก่า หัวคะแนน ส.ส.ไทยรักไทย ผบช.ก. พร้อมผู้การกองปราบฯ รุดขอรายละเอียด ส.ส.เกื้อกูล พร้อมจัดกำลังคุ้มกัน ยังไม่ชี้ชัดทีมสังหาร “จ่าบึ๋ง” แต่มืออาชีพแน่นอน สกรีนซุ้มลพบุรี สระบุรี อุทัย ธานี แถมรวบได้ 1 คดีเก่า 19 ปีก่อน “จงรัก” ติวเข้ม จับอาวุธปืนนานาชนิด “บัญญัติ” แขวะ “แม้ว” เต้นผางเรื่องยิงหัวคะแนน ทรท. แต่ของพรรคอื่นทำเงียบ ขณะที่ “ทักษิณ” บอกจะจัดตำรวจคุ้มครองให้หากขอมา

คดียิงหัวคะแนนพรรคไทยรักไทย เกิดขึ้นอีกแล้ว โดยเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 ม.ค. ร.ต.ท.พิพัฒน์ นาระเดช ร้อยเวร สภ.ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีคนถูกยิงอาการสาหัสบริเวณลานจอดรถสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ภาณุ พงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผบช.ภ.5 พ.ต.อ.ทวีชัย ประทีปอุษานนท์ ผกก. ที่เกิดเหตุพบร่างนาย สมิง เรือนปลี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 1 ต.บงตัน อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ มีตำแหน่ง เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บงตัน ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าหน้าผากเหนือคิ้วซ้าย 1 นัด จึงรีบนำส่ง รพ.แม็คคอมมิค เป็นการด่วน

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า นายสมิง พร้อมชาวบ้านจาก ต.บงตัน 22 คน เดินทางมาประชุมร่วมกับ นายบุญเลิศ บูรณุ ปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อประชุมแก้ไขปัญหาขยะล้นเมืองเชียงใหม่ ที่ชาวบ้านกำลังเดือดร้อนอยู่ หลังจากเสร็จสิ้น นายสมิง เดินลงมาลานจอดรถ และหยุดพูดคุยกับพรรคพวก ขณะนั้นเองมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไรเฟิลติดลำกล้องเล็งยิงใส่นายสมิง จนล้มลงกองกับพื้น

ด้าน พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ถือว่าอุกอาจมากที่มาก่อเหตุในเมือง ตนสั่งการให้ตำรวจสืบสวน ภ.5 และสืบสวนจังหวัด และตำรวจท้องที่ ร่วมมือกันทำงานสืบสวนย้อนหลังทุกเรื่องว่านายสมิง นั้นเคยมีเรื่องขัดแย้งกับใครที่ไหนบ้าง โดยที่ผ่านมานายสมิง เพิ่งมาร้องเรียนกับตนให้ช่วยคุ้มครองความปลอดภัย เพราะไปขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในพื้นที่ อ.ฮอด เนื่องจากนายสมิงมาเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่ในการเอาผิดผู้มีอิทธิพลรายนี้ ส่วนประเด็นรองลงมาคือนายสมิง เป็นหัวคะแนนให้นางผณินทรา ภัคเกษม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคไทยรักไทย ซึ่งจะต้องสอบสวนลึกลงไป

มีรายงานว่า นายสมิงได้เป็นพยานปากสำคัญมัดตัวผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งใน อ.ฮอด ที่จ้างฆ่า นายแก้ว แสนใจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.บ้านตาล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 36 โดยตำรวจได้จับกุมมือปืนได้ นายสมิงจึงมาเป็นพยานเพราะเป็น เพื่อนกับมือปืน ซึ่งให้การสาวไปถึงคนจ้างวาน คือผู้มีอิทธิพลคนดังกล่าว จนกระทั่งถูกภัยมืดคุกคามจนร้องขอให้ตำรวจช่วยอารักขา จนกระทั่งมาถูกยิงก่อนจะมีตำรวจมาคุ้มกัน สำหรับประเด็นการเมืองเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญรองลงมา ซึ่งก็อาจเป็นไปได้เพราะนายสมิง เป็นหัวคะแนนคนสำคัญเช่นกัน

ส่วนคดีกลุ่มมือปืน 4 คน ขี่รถจักร ยานยนต์ตามประกบยิง นายทิวา ภาคบุปผา อายุ 44 ปี ส.จ.พระนครศรีอยุธยา เขต 5 หัวคะแนนของ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.พระนคร ศรีอยุธยา เขต 1 พรรคไทยรักไทย และโฆษก กระทรวงยุติธรรม เสียชีวิตคารถแวน ขณะขับมาถึงหน้าบ้านพักของตัวเองซึ่งเปิดเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างใน ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนแนวทางการสืบสวนมุ่งประเด็นการเมืองระดับชาติที่ผู้ตายเป็นหัวคะแนนสำคัญของนายเกื้อกูล พร้อมกับมุ่งเป้าไปที่ทีมสังหารของ “จ่าบึ๋ง” มือปืนรับจ้างที่ยังหลบหนีหมายจับหลายคดี ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ประกาศกร้าว ให้ตำรวจเมืองกรุงเก่าคลี่คลายคดีโดยเร็ว เพราะ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ติดกรุงเทพฯ แต่กลับปล่อยให้มีกลุ่มอิทธิพล รวมทั้งหัวคะแนนในจังหวัดนี้ถูกเก็บถึง 4 คนแล้ว
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ที่ห้องประชุม บก.ภ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.อรรถพล เด็ดดวง ผกก.สภ.อ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.จักรพล รัตนสิงห์ ผกก.สภ.อ.ภาชี พ.ต.อ.พีระพงษ์ วงษ์สมาน ผกก.สส.ภ.1 เข้าร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดีนานกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้น พล.ต.ท.ชลอ เปิดเผยว่า ได้เรียก ผกก.สภ.อ.ภาชี มาประชุมด้วยเพราะเคยเกิดเหตุมือปืนลอบยิง นายสมศักดิ์ แย้มศิริ ส.อบจ.พระนครศรีอยุธยา เขต อ.นครหลวง ขณะขับรถติดไฟแดงบริเวณ หมู่ 5 ต.กระจิว อ.ภาชี เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 47 เพราะมือปืนอาจเป็นรายเดียวกัน ส่วนการสืบสวนมุ่งเน้นเรื่องการเมือง แต่ไม่ได้ทิ้งเรื่องปัญหาส่วนตัว โดยมีตำรวจกองปราบฯ ตำรวจสืบสวน ภ.1 และตำรวจพื้นที่ ออกหาข่าวอย่างละเอียดทุกประเด็น แล้วนำมาสรุปขมวดปมสังหาร มีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่กำลังสกรีนมือปืนในซุ้ม จ.ลพบุรี สระบุรี และอุทัยธานี ซึ่งนิยมใช้ปืนคู่กายขนาด 9 มม. เพราะคดียิง 3 ราย ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม.

ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ท. ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต. วินัย ทองสอง ผบก.ป. เดินทางมาที่ จ.พระนคร ศรีอยุธยา ได้เชิญนายเกื้อกูล ไปพบในสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่มีการเปิดเผย เพื่อสอบหาข้อขัดแย้งในประเด็นการหาเสียงเลือกตั้ง รวมทั้งยังจัดตำรวจกองปราบฯ คอยติดตามอารักขานายเกื้อกูล เพื่อป้องกันการถูกลอบสังหารในช่วงหาเสียง สำหรับประเด็นที่ทางกองปราบฯ ตั้งไว้นั้นมุ่งไปที่การเมือง โดยพล.ต.ท.ธานี สั่งให้ พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบช.ก. ระดมชุดสืบสวนลงพื้นที่ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามือปืนที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คือ ส.อ.บุญตรีย์ มุกสะกะ หรือจ่าบึ๋ง ซึ่งเป็นมือปืนรับจ้างอันดับ 1 ในบัญชีมือปืนรับจ้างที่ประกาศจับทางเว็บไซต์กองปราบฯ ยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่ทั้งนี้จากพฤติการณ์ของคนร้ายเชื่อว่าเป็นมือปืนอาชีพที่มีการวางแผนเตรียมทางหนีทีไล่มาเป็นอย่างดี

ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท.ธานี ผบช.ก. พ.ต.อ.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบก.ป. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายณรินทร์ หรือรินทร์ เหล่ากวาง หรือยองใย อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์เป็นมือปืนรับจ้างอันดับที่ 44 ในบัญชี 50 มือปืนรับจ้างของเว็บไซต์กองปราบปราม ตามหมายจับ ศาลจังหวัด แพร่ ที่ จ.187/2545 ลง 6 ธ.ค. 2545 โดยเมื่อวันที่ 22 ก.พ.29 เวลา 12.00 น. ผู้ต้องหา กับพวกใช้อาวุธปืนยิงนายนิยม มินาสิน และนายสหัส เรืองวัฒนาศิริกุล ถึงแก่ความตายแล้ว หลบหนี โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านพักเลขที่ 38 ถนนเทศบาล 31 ซอย 5 ต.พะดง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากการสอบสวนนายณรินทร์ ให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวแต่ อย่างใด เพราะในช่วงนั้นตนอยู่ที่ อ.สูงเม่น จ.แพร่ จะไปเที่ยวต่างอำเภอบ้างก็เป็นครั้งคราว แต่ไม่เคยก่อเรื่องถึงขนาดไปยิงใคร จะมีก็เพียงการทะเลาะวิวาท ชกต่อยกันตามประสาวัยรุ่น ต่อมาได้แต่งงานกับภรรยาซึ่งเป็นคน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงย้ายตามภรรยาไปทำสวนยางพาราอยู่ที่หาดใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ทราบว่าถูกออกหมายจับแต่ไม่กล้าเข้ามอบตัวเนื่องจากเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่มีเงินใช้ประกันตัว ส่วนข้อมูลและรูปถ่ายนำไปลงประกาศจับนั้นตนยอมรับว่า ถูกต้องทั้งหมด ยกเว้นแต่ชื่อของตนที่ผิดเพราะชื่อจริงของตนคือชรินทร์ ไม่ใช่ ณรินทร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรินทร์ ผู้ต้องหารายนี้ หลบหนีคดีมานานถึง 19 ปี เหลืออีกเพียงปีเดียวคดีก็จะหมดอายุความ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นถูกตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาได้ ทั้งนี้ภายหลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ดำเนินคดีต่อไป

ที่ห้องประชุม บก.ภ.ระยอง พล.ต.ท. จงรัก จุฑานนท์ ผบช.ภ.2 เดินทางมาประชุมตำรวจในจังหวัดเพื่อเร่งรัดจับกุมคดีอาวุธปืนสงครามในช่วงการเลือกตั้ง โดยมี พล.ต.ต.เฉลิมพล ศรีสมโพธิ ผบก.ภ.ระยอง ให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมอาวุธ ปืนนานาชนิดจำนวนมาก ที่ตำรวจในเขตพื้นที่ จ.ระยอง จับกุมได้ หลังจากนั้น พล.ต.ท.จงรัก กล่าวว่า ได้ใช้แผนรักษาความสงบการเลือกตั้งและสนับสนุนคณะกรรมการเลือกตั้ง (พิทักษ์เลือกตั้ง) ของ บก.ภ.ระยอง รวมทั้งได้สั่งการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วพื้นที่ พร้อมเร่งรัดจับกุมอาวุธปืน อาวุธสงครามทุกชนิด นอกจากนี้ให้เร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ในส่วนของการปราบปรามผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้างนั้น บช.ภ.2 ได้ให้ความสำคัญอย่างจริงจังมาตลอด เพราะเป็นนโยบาย ของรัฐบาล จนสามารถควบคุมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล กับมือปืนรับจ้างเป็นผลสำเร็จ

ผบช.ภ.2 ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการเตรียมการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ บช.ภ.2 มีการขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้างไว้แล้วทั้ง 8 จังหวัด ซึ่งจะคอยสอดส่องเฝ้าติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบการกระทำ หรือมีพยานหลักฐานที่สามารถนำดำเนินคดีได้ จะรีบดำเนินการโดยเฉียบขาด และคาดว่าการเลือกตั้งในเขต บช.ภ.2 จะไม่มีความรุนแรง

ทางด้าน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงมาตรการป้องกันการสังหาร หัวคะแนนก่อนการเลือกตั้งว่า ที่ผ่านมาตำรวจพยายามจับกุมกลุ่มมือปืนมาตลอด แต่ยังมีบางส่วนที่ยังหลงเหลือหลบมาก่อเหตุอีก ทั้งนี้กรณีหากจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าไปดูแล ต้องเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ คดีฆ่าคนตาย ตามปกติมีเรื่องของผู้มีอิทธิพล ต้องให้คณะกรรม การสอบสวนคดีพิเศษเข้ามาพิจารณามติให้ได้ 2 ใน 3 ถึงจะเป็นคดีพิเศษได้ สำหรับเหตุการณ์ยิงนายทิวา นั้นเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อฐานเสียงใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะพรรคได้ทำงานอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปี

ขณะที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งให้ติดตามคดียิงหัวคะแนนของพรรคไทยรักไทย ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างจริงจังว่า เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องการถามกลับไปว่าในเวลาที่หัวคะแนนของพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ถูกฆ่าตายยังไม่เคยเห็นท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเช่นนี้เลย แม้ก่อนหน้าทางพรรคได้ตั้งกระทู้ถามถึงการยิงหัวคะแนนของพรรคที่ จ.ราชบุรี และนครปฐม แต่ไม่เห็น พ.ต.ท.ทักษิณคาดคั้นมากขนาดนี้เลย

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ไพศาล ตั้งใจตรง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองหัวหน้าศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง กล่าวถึงมาตรการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างทั่วประเทศ ในช่วงการเลือกตั้ง ส.ส. 48 ว่า ให้กองปราบปรามทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพลและกลุ่มมือปืนรับจ้าง และติดตามจับกุมมือปืน 50 อันดับที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ นอกจากนี้ให้ตรวจสอบรายชื่อผู้มีอิทธิพลแต่ละจังหวัดว่ามีพื้นที่ใดและใครบ้าง เนื่องจากบางแห่งถูกดำเนินการแล้วยังมีตัวตายตัวแทนขึ้นมาใหม่ เช่นที่ จ.ชลบุรี จึงต้องเข้าไปดำเนินการใหม่ ส่วนจะระบุว่าพื้นที่ใด มีผู้มีอิทธิพลอยู่บ้างคงไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่มี ทุกแห่ง บางคนเป็นนักการเมืองท้องถิ่นบางคนระดับชาติ ทาง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. จึงมีคำสั่งให้ตำรวจที่ไปติดตามนักการเมืองหรือบุคคลที่เคยทำเรื่องร้องขอกำลังตำรวจไปคุ้มครองดูแล กลับที่ตั้งทั้งหมด และหากใครคิดว่าตัวเองไม่ปลอดภัยต้องการขอกำลังตำรวจไปคุ้มครองต้องยื่นเรื่องมาใหม่

ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จัดทำเว็บไซต์ชื่อ “50 มือปืนรับจ้างเมืองไทย” เพื่อนำเสนอรูปพรรณและข้อมูลของ 50 มือปืนในประเทศไทยที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์เพื่อป้องกันเหตุร้าย โดยเฉพาะการสังหารหัวคะแนนของพรรคการเมืองต่าง ๆ ในช่วงก่อนการเลือกตั้งว่า การตามหาตัวผู้ต้องหาเหล่านี้มี 2 อย่างคือ 1. บางทีตามไม่เจอ 2. ไม่จริงจังในการตามเท่าที่ควร เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการติดตามมือปืนมาก หากไม่มีส่วนงานพิเศษเข้ามาทำก็ยิ่งยาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ ติดตามตัวผู้ต้องหาสำคัญในภาคใต้ ก็ได้ผลเป็นอย่างดี ดังนั้นตำรวจอาจจะต้องมีวิธีสืบสวนติดตามคดีสำคัญ ๆ โดยมีงบประมาณและเครื่องมือพิเศษให้เขาด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ในบางพื้นที่เลือกตั้งมีการแข่งกันอย่างดุเดือด จะมีการควบคุมป้องกันมือปืนเหล่านี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า คงต้องกวดขันขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคงจะต้องให้ทหารมาช่วยดูด้วย เพราะมือปืนที่เป็นทหารนอกแถวยังพอมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีผู้สมัครขอความคุ้มครองมา แต่อาจจะมีบ้างที่เป็นการขอในระดับท้องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือว่ามีความอุกอาจมาก ซึ่งหัวคะแนนของนายเกื้อกูล ก็ถูกฆ่ามา 4 คนซ้อนกันแล้ว สำหรับคะแนนนายเกื้อกูลในพื้นที่นั้นดีมาก ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนที่ “อยุธยา” รู้ว่าใครเป็นผู้จ้างวาน เพียงแต่จับมือปืนและคนจ้างวานไม่ได้ ซึ่งอันนี้รู้สึกว่าจะมากไปหน่อย ผู้สมัครเขาก็ระวังตัว เราก็พยายามให้ความดูแล ถ้ารู้ข้อมูลก็จะให้คนไปดูรวมทั้งทุกพรรคถ้าใครไม่แน่ใจในความปลอดภัยก็จะส่ง ตร.คุ้มครองให้.

	ผู้เขียน	หัวข้อ: หัวคะแนนถูกซุ่มยิงดัวยไรเฟิลที่เชียงใหม่ (อ่าน 9699 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้