ระหว่างวันที่ 9 ถึง 13 มกราคม ที่ผ่านมา มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยผ่านไปทางจังหวัดเชียงใหม่ก่อน มีรถกระบะขยายห้องโดยสาร(บิ๊กแคป)โตโยต้า ของน้องเขยแฟนเป็นพาหนะในครั้งนี้ ไปกัน 4 คน กับปืนกล็อก 2 กระบอก ทั้ง กล็อก 19 และ 30 .....กระสุนอย่างละแม็ก....เพราะทางมันเปลี่ยวมากตอนขากลับมา.......
ในวันที่ 13 ตอนประมาณตี 4 ขณะเดินทางกลับมาถึงนครสวรรค์ ก่อยแยกตาคลี มีการตั้งด่านตรวจของตำรวจ...ซึ่งดูตอนแรก การแต่งกายดูเหมือนเจ้าหน้าที่ขนส่ง....พอเข้าไปในด่านซึ่งกว้างขวางเขาให้ขับเข้าไปที่ช่องตรวจ มีหลุมตรวจด้านล่างของรถด้วย..
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาที่ประตูด้านที่ผมนั่งอยู่ บอกว่า " ขอความร่วมมือในการตรวจรถด้วยครับ เชิญลงมาจากรถ"
ผมก็ขยับตัวลงมา ให้ความร่วมมือในการตรวจค้น...และถามกลับไปว่า.."ตรวจเกี่ยวกับอะไรหรือครับ"
" ตรวจเกี่ยวกับยาเสพติดครับ " เจ้าหน้าที่ตำรวจคนเดิมบอก
" เชิญครับ " ผมตอบกลับไปบ้าง โดยไม่ได้เอาปืนลงมา
เจ้าหน้าที่คนเดิม เข้าไปตรวจ จับ ๆ ที่กระเป๋าใส่ปืน กล็อก 19 แล้วเข้าก็เปิดซิบดูทันที .....ใจเราเอ๋ย...เหลือนิดเดียว เพราะเข้าต้องเจอมันแน่ ๆ ...ไม่มีใบพกด้วย..กระสุนก็เต็มแม็ก...
คิดได้ไม่นาน...เจ้าหน้าที่คนนั้นก็หยิบปืนออกมา พร้อมกับพูดขึ้นว่า " มีปืนด้วย " พร้อมวิทยุรายงานว่า " พบกล็อก...." แล้วหันมาพูดกับผมว่า " เอาปืนมาด้วยเหรอ...." "ใช่"คือคำตอบที่มีให้ไปในขณะนั้น
" พี่ไปพบสารวัตรหน่อยนะครับ" เจ้าหน้าที่บอกต่อ
" มีเครื่องกระสุนเท่าใร" เจ้าหน้าที่อีกคนที่ดูอยู่ฝั่งคนขับ..." 14 นัด ครับ"
สักพักหนึ่ง พ.ต.ต. ไม่ทราบนาม ได้เดินมาที่รถ แล้วถามว่า " เจออะไร" "กล็อกครับ" เจ้าหน้าที่พบปืนคนแรกบอก...
" ตามผมมาที่ข้างในหน่อยครับ" สารวัตรบอกกับผม แล้วผมก็เดินตามไป......ที่ห้อง
" มีใบมาด้วยหรือเปล่าว" สารวัตรถาม
" มีสำเนา ป.4 ครับ." ผมตอบ พร้อมส่งสำเนา ป. 4 ให้ท่านดู ...ท่านดูสักพัก...ก็มี วิทยุรายงานว่า " พบอีกกระบอกครับ " สักพัก เจ้าหน้าที่ก็เอาปืนมา เป็นกล็อก 30 ขนาด 11 มม.
" เอามาสองเลย รึ " ท่านสารวัตรถาม ...."มีใบด้วยไหมล่ะ" "มีครับ.." ผมตอบ พร้อมส่งใหดูอีกใบ
" ไปไหนมาเนี่ย ตอนนี้กำลังจะเลือกตั้ง.. แล้ว 11 มม. คนธรรมดาเขาให้ด้วยรึ" สารวัตรถาม
" เดินทางกลับตอนดึก และทางเปลี่ยว เลยคิดว่าน่าจะเอามาเพื่อให้อุนใจบ้างเท่านั้นครับ ต้องขอกันหน่อย...แต่ไม่ได้ใช้จะดีที่สุดครับท่าน" ผมก็ตอบไปตามความจริง " ส่วน 11 มม. สงสัยแฟนจะหยิมมาเอง คงกลัวตามประสาผู้หญิง..."
" ผมขออนุญาตไปเขาก็ให้มา " ตอบประเด็นเรื่องขออนุญาต 11 มม.
"
ผมไม่เข้าใจเลย กฎหมายปืนนี่นะ อนุญาตให้ซื้อ ให้ใช แต่ไม่ให้พก ยิงในบ้านก็ไม่ได้ พกออกมาสนามนอกบ้านก็ถูกจับอีก น่าจะแก้กันไปเลยว่า มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับอนุญาตซื้อ มี ใช้ และให้พกไปด้วยเลยน่าจะดีที่สุด เพราะยังไงก็ตรวจสอบกันดีแล้วจึงอนุญาต ไม่น่าจะติดขัดเลย...."
สารวัตรถามเพิ่มว่า " ทำงานอะไรหรือครับ" " เป็นทนายความ ...ครับ" ผมตอบ
"รู้กฎหมายด้วย...น่าจะขอแก้ไขเรื่องนี้น่ะ " ท่านสารวัตรให้ความเห็น
"กล็อก 30 นี่ทะเบียนตรงกับใบ แต่กล็อก 19 นี่ ไม่เห้นตอกทะเบียนเลย...ไม่ทราบว่ามีอะไรมาแสดงไหม " ท่านสารวัตรถามอีก
" เออ...ตัวนี้มันเป้นปืนทะเบียนต่างจังหวัดครับ เขาตีทะเบียนที่ใต้โกร่งไก" ผมรีบบอกและพลิกปืนให้ดู
" เอ้า..ปืนถูกต้อง...แต่มันอันตรายนะครับ" ท่านพูดขึ้นพร้อมกับหันไปบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายที่มาคอยอยู่ว่า " เอาปืนไปส่งพี่เขาที่รถหน่อยนะ เอากระสุนในรังเพลิงออกให้หมดก่อน...เชิญครับ ." พร้อมกับเดินมาส่งผมและภรรยาที่รถด้วย..
เป็นอันว่า โชคดี เจอสารวัตรที่เข้าใจนักยิงปืนที่สุจริตด้วยกัน..ไม่ต้องไปว่ากันที่ศาล
แต่พอมาถึงรถ ปรากฏว่า รถถูกนำไปเข้าแถวยาวร่วมกับรถอื่นๆ
ผมถามเจ้าหน้าที่ที่มาส่งว่า " เขาทำอะไรกับรถหรือครับ"
"เอ็กเรย์ครับ ทะลุทะลวงเหล็กไปหมด....ดูที่จอซิครับ...เห็นหมดเลย คันนึงตั้ง 50 ล้าน " พูดพลางชี้ให้ดูรถแวนคันขนาดกลาง ๆ สีขาว มีจอมอนิตเอร์แสดงผลการส่องเอ็กเรย์" แต่ระยะมันไกลไปหน่อย.งเลยดูไม่ชัดว่าเห็นอะไรบ้าง...
" อย่างนี้ กล้องและฟิล์มของผมที่ถ่ายแล้วกับไม่ได้ถ่าย..มันจะไม่เสียไปแล้วหรือครับ เพราะตอนไปทางเครื่องบิน เขายังบอกให้เอากล้องฟิล์มออกไปจากช่องตรวจก่อนเลย..." ผมถามด้วยความสงสัย
" ไม่น่าเสียครับ" เจ้าหน้าที่คนเดิมตอบเหมือนจะมั่นใจ..
พอรถส่งเอ็กเรย์เดินไปจนสุดแถวแล้ว ก็วกกลับไปดูอีกด้านหนึ่ง...คนขับรถต้องให้รายละเอียด และลงชื่อในบันทึกการตรวจ พร้อมกับให้อยู่ห่าง ๆ สัก 3-5 เมตร ห้ามเข้าใกล้ เพราะกลัวอันตราย
หลังจากนั้นก็เดินทางต่อจนกลับมาเล่าให้ฟังนี่แหละครับ....ดูซี..โดนสองเด้งเลย
ล้างฟิล์มออกมา สีแปล่ง ๆ ยังชอบกล....ใจก็ยังนึกว่าน่าจะเป้นผลมาจากการสแกนของรถที่ด่าน หรือไม่ก็แล็ป โมเมล้างส่งแบบขอไปที....งวดนี้เลยไม่มีรูปแจ่ม ๆ มาดูเลย
มาเล่าให้ฟังแค่นี้ครับ...
