พอดีมีข้อมูลนิดหน่อย...เป็นข้อมูลเก่า ๆ ครับ....

ไขปริศนา "ยานโคลัมเบีย"บึ้ม! อุบัติเหตุหรือก่อการร้าย
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 มกราคม 1986 หรือราวสามปี ก่อนประธานาธิบดี มิกคาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมรุสเซีย หรือสหภาพโซเวียต และประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน ผู้นำประเทศสหรัฐจะได้ประกาศยุติสงครามเย็นระหว่างกัน ที่เกาะมอลตา เขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประชาชนหลายสิบล้านคนในค่ายประชาธิปไตยเสรีนิยมทั่วโลก ที่สามารถรับสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ถ่ายทอดผ่านดาวเทียมของสหรัฐ ต่างเฝ้าจับตาดูการปล่อยยานกระสวยอวกาศ หรือยานขนส่งอวกาศ "ชาลเลนเจอร์" เที่ยวที่ 10 ด้วยความตื่นตาระคนชื่นชม ในความก้าวหน้าครั้งใหญ่อีกครั้งของมวลมนุษยชาติ
ทั้งนี้ ถึงแม้ยานดังกล่าวจะไม่ใช่ยานกระสวยอวกาศลำแรกของโลก แต่ก็เป็นลำแรกและเที่ยวบินแรก ที่มี นางคริสตี้ แม็กคอลิฟฟ์ คุณครูประจำโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในเมืองคอนคอร์ด รัฐนิวแฮมเชียร์ ร่วมเดินทางบุกเบิกอวกาศกับบรรดานักบินอวกาศสหรัฐอีก 6 คน ที่ล้วนแต่ผ่านการฝึกบังคับควบคุมการบินระดับสูงสุด และการฝึกใช้ชีวิตในสภาวะเกือบไร้แรงโน้มถ่วง การทนต่อแรงเหวี่ยงและแรงดึงในระหว่างการเดินทางด้วยความเร็วสูงนับหลายหมื่นกิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือไม่ก็เป็นผู้เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องการความเชี่ยวชาญความรู้ในระดับสูงอยู่แล้ว
คุณครูแม็กคอลิฟฟ์กลายเป็นคนดังระดับโลก ในฐานะพลเรือนสามัญระดับรากหญ้าคนแรกของโลก ที่จะได้ท่องอวกาศเคียงบ่าเคียงไหล่กับบรรดานักบินอวกาศชาย ที่มี ฟรานซิส สคอบี้ เป็นกัปตันใหญ่ มี นายไมเคิล สมิธ เป็นต้นหนเดินเรือ จูดิธ เรสนิก วิศวกรไฟฟ้าประจำยาน โรนัลด์ แม็กแนร์ นักฟิสิกส์ผู้ควบคุมกำหนดการต่างๆ ประจำเที่ยวบิน นาวาอากาศโทเอลลิสัน โอนิซูกะ นักบินทหารอากาศสหรัฐ และ เกรกอรี่ จาร์วิส วิศวกรซ่อมบำรุงจากบริษัทฮิวจ์แอร์คราฟต์ ฯ
แต่เพียง 74 วินาทีภายหลังจุดระเบิดระบบขับดันจรวดปล่อยยานขึ้นสู่เวหา ที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี้ บนแหลมคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา ผู้คนเกือบทั่วโลกที่เฝ้าชมความสำเร็จเบื้องต้นก็ถึงกับอ้าปากตาค้าง กับภาพการระเบิดของจรวดที่ยาน "ชาลเลนเจอร์" ใช้เกาะขึ้นสู่เพดานบินที่ต้องการ ก่อนออกบินผ่านชั้นอวกาศด้วยตนเอง ขณะอยู่สูงจากพื้นผิวโลกเพียง 10 ไมล์ และพุ่งออกจากพื้นโลกด้วยความเร็วถึง 3,163 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นักบินและผู้ร่วมเดินทางทั้งหมดเสียชีวิต ผู้คนจำนวนมากถึงกับปล่อยโฮร้องไห้ออกมาโดยไม่ทันยั้ง พร้อมด้วยคำเอื้อนเอ่ยอันคุ้นหูบรรดาชาวคริสต์ทั้งหลายในโลกว่า "โอ้ พระเจ้า "และ "ฉันไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง" "มันเรื่องไม่จริงใช่มั้ย" และ "เกิดอะไรกันขึ้น !"
หลังการตรวจสอบภาพบันทึกและข้อมูลการปล่อยยานที่มีการบันทึกไว้ทุกเศษเสี้ยววินาที จึงพบต้นเหตุของการระเบิด ว่าเกิดจากความบกพร่องของวงแหวนข้อต่อที่อยู่ใกล้กับถังเก็บออกซิเจนเหลว หรือ "โอ-ริง" ซึ่งมีการพบก่อนหน้านี้และก็ได้รับการซ่อมบำรุงแล้ว แต่ก็ยังเป็นปัญหาอยู่อีก และประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ได้สั่งการระงับโครงการกระสวยอวกาศทั้งหมดชั่วคราว ด้วยความโกรธเกรี้ยวและผลกระทบทางการเมืองที่เกิดขึ้นกับสหรัฐ
14 ปีต่อมา โครงการยานขนส่งอวกาศ ที่ดำเนินติดต่อกันมาด้วยความราบรื่น จนประชาชนทั่วโลกต่างไม่รู้สึกแปลกตาตื่นใจอันใดมากมาย กับการเดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างโลกกับอวกาศด้วยยานขนส่งอวกาศของสหรัฐ จนกระทั่งกำเนิดสถานีอวกาศนานาชาติ ที่มี 16 ประเทศเข้าร่วมลงขันบำรุงโครงการมานานนับเกือบสิบปีเข้าไปแล้วด้วย กลับต้องตื่นตะลึงตกใจไปกับอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งที่สองในรอบ 24 ปีของการเดินทางสู่อวกาศของมนุษย์โลกอีกครั้ง
กลางดึก เวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย รายการข่าวโทรทัศน์จากสหรัฐได้เผยแพร่ข่าวการระเบิดหายไปของยานขนส่งอวกาศ "โคลัมเบีย" ยานขนส่งอวกาศลำแรกของสหรัฐและของโลก ขณะกำลังจะพุ่งผ่านน่านฟ้าเหนือรัฐเท็กซัส สู่เป้าหมายปลายทางที่จอดพักในรัฐฟลอริดา
เป็นการระเบิดก่อนที่ยาน "โคลัมเบีย" จะจบเที่ยวบินที่ 28 ซึ่งเที่ยวนี้ ได้มี พันเอกอิลัน รามอน นักบินทหารบกของอิสราเอลร่วมเดินทาง ในฐานะชาวยิวจากอิสราเอลคนแรกของโลกที่ได้รับโอกาสนี้ ในขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กำลังขับเคี่ยวอยู่กับสงครามต่อต้านลัทธิก่อการร้าย และการกดดันให้ประธานาธิบดี ซัดดัม ฮุสเซ็น ปลดวางตัวเองจากตำแหน่งผู้กุมอำนาจบังคับบัญชาสูงสุดเหนือกองทัพ ที่เคยถูกใช้รุกรานดินแดนคูเวต
ประกอบกับการที่สหรัฐเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน 2544 มาหมาดๆ จึงทำให้เกิดความวิตกประมาทกันไปว่า หรือการระเบิดของยานโคลัมเบีย จะมาจากฝีมือนักก่อการร้าย ที่อาจยังแฝงฝังตัวเงียบอยู่ในหมู่ผู้คนของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาความเป็นไปได้หรือเทียบเคียงเหตุการณ์คร่าวๆ กับคราวที่เกิดการระเบิดกลางอากาศของเครื่องบินโดยสารพาณิชย์ที่นิวยอร์ก หรือความหาญกล้าบ้าเงียบและลืมความตายของเหล่าสลัดอากาศพลีชีพ
ซึ่งยากที่จะเป็นไปได้ เพราะขณะเกิดเหตุนั้น ยานโคลัมเบียอยู่สูงเหนือพื้นดินมากเกินระยะยิง และยังบินด้วยความเร็วสูงสุด ภายหลังพุ่งผ่านชั้นบรรยากาศรอบนอกของลูกโลก ด้วยความเร็วสูงนับหมื่นกิโลเมตรต่อชั่วโมง
ต้นตอของอุบัติเหตุนั้น อาจเป็นไปได้ว่าเกิดจากการหลอมลายละลายของผิวด้านในบางส่วนที่เกราะป้องกันความร้อนที่หลุดร่อนออกไป และเกิดการถ่ายทอดความร้อนออกไปจากจุดบกพร่องเล็กนิดเดียว ไปถึงระบบอื่นๆ ภายในลำตัวยาน
แน่นอนว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจยิ้มเยาะหรือเย้ยหยัน เพราะเป็นอุบัติเหตุที่กระทบต่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของมนุษยชาติโดยรวม
และใครก็ตาม ที่เกิดอาการยิ้มเยาะเย้ยหยัน ใครคนนั้นอาจเป็นพวกนักก่อการร้าย
เป็น "ปิศาจ" ที่ชมชอบหายนะอันเกิดแก่มนุษยชาติโดยรวม...!
จากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน 3 กุมภาพันธ์ 2546
ตอนท้าย ๆ เริ่มโยงไปเรื่องก่อการร้ายนู่น..........เลย.....
