ตำรวจคุมเข้มย่านเกิดเหตุ พบรถต้องสงสัยซุกระเบิด ทีเอ็นเอ็น
ขับวนเวียนใกล้บ้าน ทักษิณ ขณะที่ทหารผู้ต้องสงสัย ถูกนำตัวเค้นสอบกองปราบปราม
วันนี้ (24 ส.ค.) เวลาประมาณ 09.00 น. พ.ต.อ.บุญเพ็ญ มั่งคั่ง ผู้กำกับการ สน.บางพลัด
รับแจ้งพบรถต้องสงสัยจอดอยู่บริเวณถนนสิรินธร ห่างแยกบางพลัดประมาณ 300 เมตร มุ่งหน้าสะพานกรุงธน (ซังฮี้) ช่วงคู่ขนานข้ามแยกใต้สะพาน
ห่างจากบ้านพักนายกรัฐมนตรีประมาณ 400 เมตร หลังรับแจ้งได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยสรรพาวุธ และรุดไปตรวจสอบที่จุดพบรถต้องสงสัยคันดังกล่าว
เมื่อไปถึงพบรถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์ยี่ห้อแดวู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฐฉ-3085 จอดอยู่ในเลนขวา เปิดฝากระโปรงท้ายไว้
โดยไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ
เจ้าหน้าที่กันพื้นที่เป็น 2 ชั้น ชั้นแรกประมาณ 15-20 เมตร ชั้นสอง 150 เมตรไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้
และปิดการจราจรจากแยกบางพลัดฝั่งธน มุ่งหน้าฝั่งพระนคร โดยสิ้นเชิง
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบวัตถุต้องสงสัยอยู่ภายในรถคันดังกล่าว
จึงกั้นพื้นที่และตรวจสอบภายในพบเป็นระเบิดทีเอ็นที 3 ลูก และปุ๋ยยูเรีย 2 ถุง
ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยสรรพาวุธยังคงตรวจสอบรถคันดังกล่าวอย่างละเอียด
จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบ้านพักนายกรัฐมนตรี ให้การว่า
รถคันดังกล่าวได้มาจอดค้างคืนไว้ในลักษณะผิดสังเกต จึงได้นำทะเบียนรถไปตรวจสอบพบว่าเป็นทะเบียนปลอม
จากนั้นได้เฝ้าดูรถคันดังกล่าวจนกระทั่งก่อนเกิดเหตุมีชายต้องสงสัยสวมชุดซาฟารีสีน้ำเงิน สวมหมวกและใส่แว่นดำมาขับรถในลักษณะวนเวียน
จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบ
สำหรับผู้ต้องสังสัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ 1 คน เป็นทหาร ทราบชื่อ ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นธนะ สังกัดกองอำนวยการรักษาความปลอดภัย (กอ.รมน.) หมายเลขบัตรประจำตัว 3730107449117
ซึ่งหลังจับกุมจับกุมตัวได้นำตัวมาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จากนั้นได้ควบคุมตัวไปที่กองปราบปรามแล้ว
มีรายงานว่า รถคันดังกล่าวขับเข้าวนไปวนมา และเข้าออกภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักรักษาการนายกรัฐมนตรีมาประมาณ 2 เดือนแล้ว
โดยตำรวจพยายามได้ตามสกัดจับมาตลอดระยะเวลาดังกล่าว
ทว่าไม่สามารถติดตามจับกุมได้ และในวันนี้เมื่อเวลา 08.00 น. รถคันดังกลส่าวได้เข้าเข้าไปในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69
ก่อนที่ขบบวนรถของรักษาการนายกรัฐมนตรีจะออกจากบ้าน ตำรวจจจึงพยายามสกัดจับอีกครั้ง
แต่รถคันดังกล่าว ก็ซิ่งหลบหนี แต่ทว่า รปภ.ของรักษาการนายกรัฐมนตรี
ซึ่งปลอมตัวเป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่หน้าปากซอยได้ขี่รถจักรยานยนต์ติดตามรถคันดังกล่าวออกมา
โดยมาทันกันที่บริเวณจุดที่เกิดเหตุ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากรายงานเบื้องต้นพบว่า ภายในรถมีระเบิดทีเอ็นที 2 แท่ง
ติดตั้งอยู่บริเวณเบาะหลังด้านขวา มีการต่อสายระโยระยางไปยังแบตเตอรี่หน้ารถ
ส่วนด้านหลังแกลลอนสีเขียวที่พบ คาดว่าบรรจุปุ๋ยยูเรียอยู่ 2 แกลลอน อีก 3 แกลลอนคาดว่าเป็นน้ำมัน
ในขณะที่ถุงปุ๋ยพบว่าบรรจุทรายอยู่ทั้งหมด 15 ถุงด้วยกัน
แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าระเบิดดังกล่าวยังประกอบไม่เสร็จสิ้น
ซึ่งหากเสร็จเรียบร้อยคาดว่าจะมีรัศมีการทำลายล้างถึง 5 กม.ทีเดียว
ล่าสุด จากการตรวจสอบบัตรประจำตัวของนายทหารที่ขับรถคันดังกล่าว
พบว่าเป็นบัตรปลอม ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวอยู่ที่กองปราบปรามแล้ว
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ นายตำรวจระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลทั้งหมดเดินทางไปยังที่เกิดเหตุทุกนาย
แต่ทุกคนก็ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ โดยอ้างเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า ไม่รู้ ผมเพิ่มมาถึง
ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่ตำรวจนำตัวชายซึ่งอ้างตัวว่าเป็น ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นธนะ ซึ่งสวมเสื้อซาฟารีสีน้ำเงิน สวมหมวก และสวมแว่นตา
เดินทางมาถึงกองปราบปราม ตำรวจรีบนำตัวเข้าไปยังห้องรับรองของ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.ทันที
และหลังจากนั้นไม่นาน พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. ตำรวจสันติบาล และนายตำรวจชุดรักษาความปลอดภัยของรักษาการนายกรัฐมนตรี
เข้าร่วมสอบปากคำภายในห้องรับรองดังกล่าวซึ่งถูกปิดอย่างมิดชิด โดยมีกลุ่มสื่อมวลชนจากทุกแขนง เฝ้ารอที่หน้าห้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ขับรถแดวูคันดังกล่าว ซึ่งอ้างว่าชื่อร้อยโทธวัชชัย กลิ่นธนะ สังกัดกรมสารบรรณทหารบก หมายเลขบัตรประจำตัว 3730107449117 นั้น
จากข้อเท็จจริง หมายเลขประจำตัวของทหาร จะมีเพียงแค่ 10 หลักเท่านั้น โดยหลักแรก จะบ่งบอกถึงสถานะ เช่น หากขึ้นต้นด้วยเลข 1 หมายถึง ทหารบก ขึ้นต้นด้วยเลข 2 หมายถึงทหารเรือ และขึ้นต้นด้วยเลข 3 หมายถึง ทหารอากาศ
ส่วนอีก 2 หลักต่อมา จะเป็นปีที่เข้ารับราชการ
และอีก 2 หลักต่อมา จะเป็นมณฑลทหาร หรือจังหวัดที่มีการขึ้นทะเบียนทหารไว้
และ 4 ตัวสุดท้าย จะเป็นหมายเลขประจำตัว
แต่หากหมายเลขประจำตัวมีไม่ถึง 5 หลัก ให้ใส่เลข 0 ไว้ข้างหน้า เช่น 1-23-45-06789 เป็นต้น
ดังนั้น หมายเลขประจำตัวของร้อยโทธวัชชัยที่มีถึง 13 หลัก
จึงไม่ใช่หมายเลขประจำตัวของทหารแน่นอน
ต่อมา เมื่อเวลา 13.10 น. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. เดินทางไปยังกองปราบปราม และทันทีที่เดินทางถึง
ได้ตรงเข้าไปยังห้องรับรองของผู้บังคับการกองปราบปราม สถานที่สอบสวนร้อยโทธวัชชัย หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที
พล.ต.อ.โกวิท ได้เดินทางกลับออกมา โดยได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามทัพสื่อมวลชน
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการตั้งข้อกล่าวหาร้อยโทธวัชชัยหรือยัง
รวมทั้ง ร้อยโทธวัชชัย เป็นคนขับรถของพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผอ.กอ.รมน.ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.โกวิทตอบว่า ได้มอบคดีทั้งหมดให้ พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. เป็นผู้ดูแล
โดยทั้งหมดให้ไปสอบถามยังพล.ต.ท.มนตรีเอง ซึ่งจะมีการแถลงข่าวอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป จากนั้นได้เดินทางกลับในทันที
