ทุกคนย่อมเคยฝัน....แต่...จะมีซักกี่คนละครับ...ที่อยากรู้ว่า ฝันนั้นเกิดจากอะไร...และฝันคือ อะไร.....ถ้าอยากทราบ....ก็ขอเชิญ....ติดตามได้ดังต่อไปนี้ครับ...
ใครบ้างที่นอนหลับ "ฝัน" แล้วพอตื่นขึ้นมามองข้ามเลยความฉงนสนเท่ห์ ไม่พยายามหาสาเหตุ หาเหตุผลมาตีความ หรือบางคนอาจถึงขั้นวิ่งไปหาเปิดหนังสือทำนายเลยก็ได้ว่า "ฝันนั้นบ่งบอกถึงอะไร"
แม้ทุกวันนี้วิทยาศาสตร์นำคนออกท่องอวกาศ การแพทย์สามารถเปลี่ยนหัวใจมนุษย์ แต่ด้วยเรื่องราวของความฝันแล้ว ก็ยังเปรียบดั่งห้องมืดลงกลอนที่ไร้กุญแจไข ซ้ำยังอัดแน่นไปด้วยเรื่องลี้ลับ เดินขนาบมาพร้อมกับความเชื่อ แฝงไปด้วยเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือยังเป็นเรื่องที่มิอาจหยั่งถึงในความอัศจรรย์ของกลไกทางสมองและร่างกายของมนุษย์
ผู้จัดการรายวันนำคุณสู่ห้วงแห่งความฝัน โดยนำผู้ศึกษาในสาขาต่างๆ มาเป็นผู้บอกเล่า
ต้นเหตุแห่งความฝันตามคัมภีร์โบราณ
เริ่มต้นสั้นๆ จากพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ได้แปล "ฝัน" ที่เป็นนาม คือ การเห็นเป็นเรื่องราวเมื่อหลับ แต่โดยปริยายหมายถึงการนึกเห็นในขณะตื่นอยู่ ซึ่งไม่อาจจะเป็นจริงได้
คำแปลอาจทำให้หลายคนแย้งเถียงในใจ เพราะฝันที่ไม่เป็นเรื่องเป็นราวก็มี หรือฝันที่ไม่ได้หลับก็อาจเป็นจริงได้
มาพูดถึงการทำนายฝัน คงจะกล่าวได้ว่าเป็นศาสตร์เร้นลับที่สืบทอดและใช้กันมาแต่โบราณกาล เมื่อเปิดอ่านในหนังสือทำนายฝันที่บรรจุเนื้อหาความฝันและคำทำนายไว้ รวมทั้งลอบดูเกจิหมอดูหลายคนที่รับพยากรณ์ดวงชะตาในทุกรูปแบบไม่เว้นแม้การทำนายฝัน พวกเขามักอธิบายต้นเหตุของความฝันไว้โดยยึดตามคัมภีร์โบราณซึ่งจำแนกลักษณะฝันออกเป็น 4 ประการ และหากติดตามต่อไปอีก ก็จะทราบว่ากฎ 4 ข้อนี้เกือบจะเป็นพื้นฐานของสารบบความฝันที่เกี่ยวพันโลดแล่นอยู่ในทุกวงการ
"สุขี สิงห์บรบือ" หรือ "มหาแซม" แห่งเว็บมหาหมอดูดอทคอม ก็ยึดหลักพื้นฐานของความฝัน 4 ประการนี้ เริ่มจาก
บุรพนิมิต เป็น ความฝันที่เกิดจากอำนาจกุศลจิตและอกุศลจิตของผู้ฝันเอง เป็นเรื่องราวของอดีตที่มาปรากฏในฝันบอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลางร้ายหรือโชคลาภในอนาคต บางคนจะเรียกฝันประเภทนี้ว่าการระลึกชาติ
ประการที่สอง
จิตนิวรณ์ คือ ความฝันที่เกิดตามอารมณ์ผูกพัน หรือการฝักใฝ่จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งของผู้ฝัน รวมไปถึงเรื่องที่พบเห็นแล้วจดจำไว้ไม่ลืมเลือน
เทพสังหรณ์ เป็นความฝันที่เกิดขึ้นจากเทวดาบันดาล เพื่อสำแดงแจ้งเหตุการณ์ล่วงหน้า เน้นเรื่องมงคล แต่ถ้าเป็นฝันร้ายเรื่องร้ายก็เป็นเหมือนการตักเตือนผู้ฝันให้ระวังและป้องกันภัย
สุดท้ายเป็น
ธาตุโขภะ เป็นความฝันที่เกิดเพราะธาตุพิการ คือ กายไม่ปกติ กินมาก นอนมาก ท้องอืดท้องเฟ้อ ธาตุไม่ย่อย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวลานอนหลับไม่สนิท ความฝันลักษณะนี้ถูกแยกส่วนออกมาเป็น ฝันที่ไร้สาระไม่มีมูลความจริง ไม่ให้ประโยชน์ ซึ่งโดยมากจะเป็นความฝันไม่ค่อยดี
พกท้ายคัมภีร์ยังทำนายไปถึงวันและเวลาของฝันอีกด้วย
มีคำอธิบายวันฝันว่า ฝันวันไหนจะส่งผลถึงผู้ใด เช่น ฝันคืนวันอังคาร ดีร้ายของความฝันจะตกอยู่กับพ่อแม่พี่น้องของผู้ฝันเอง ส่วนเวลาฝันจะบ่งบอกถึง อาการและจิตใจของผู้ฝัน และกำหนดคำทำนายฝันว่าจะเป็นเท็จจริงในทางดีหรือทางร้าย
ที่แปลกแยกออกมา คือ หลับ
ฝันในตอนกลางวัน 
กลับถูกบันทึกไว้ว่า ไม่ต้องหลงเชื่อ และถ้าฝันร้ายหรือฝันไม่เป็นมงคล ยังมีคาถากำกับไว้ให้ท่องหรือภาวนา เพื่อให้บรรเทาหรือกลับทางให้ฝันที่ทำนายว่าร้ายกลายเป็นเรื่องดี
ความฝัน ภาคนักบำบัดด้วยพลังหิน
"จุฑามาศ ณ สงขลา" ผู้ที่ได้รับการยอมรับจากแวดวงว่าเชี่ยวชาญเรื่องไพ่ทาโรต์ การเยียวยาจิตใจด้วยพลังหิน และเธอยังศึกษามาเกี่ยวกับเรื่องความฝันด้วย
เธอเริ่มเรื่องต้นเหตุแห่งความฝันตามตำรับคัมภีร์โบราณที่กล่าวมาในข้างต้น แต่การศึกษาของเธอด้านการบำบัดจิตใจ เธอจึงให้คำอธิบายใหม่ว่า "ความฝัน คือ การทำงานร่วมกับจิตใต้สำนึก ...การตีความฝัน เป็นทางเลือกของการบำบัด เพราะเป็นวิธีการวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับจิตใจ ตีความจากจิต เยียวยาจิตวิญญาณ อย่างเช่น คนป่วยหนัก ต้องรื้อฟื้นจิตวิญญาณขึ้นมาใหม่ และมันเกี่ยวเนื่องกับความฝัน ...แต่การศึกษาความฝัน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครสอนกัน เพราะไม่มีหมอดูศึกษากันอย่างจริงจังกันถึงขั้นรับทำนายฝันอย่างเดียว แค่นำมาเป็นข้อย่อยในการทำนาย"
จุฑามาศเล่าว่า ฝันทั่วๆ ไปจะเกิดจากจิตที่ฟุ้งซ่าน ไม่มีอะไรแน่ชัด จะมีบางคนที่ฝันแม่นเป็นจริงทุกครั้ง แต่ต้องเป็นคนฝึกสมาธิและมีจิตใจแน่วแน่ ส่วนคนฝันซ้ำเรื่องเดียวกัน เกิดจากจิตใต้สำนึกของคนที่รู้สึกผิด มีบาดแผลทางอารมณ์ และค่อนข้างจะเป็นฝันร้าย"
"ฝันมันบอกอะไรได้บ้างในตอนนี้ มันเหมือนวิเคราะห์ดวงชะตา มันช่วยทำให้เรารู้อะไรล่วงหน้า ช่วยในการทำนาย และเป็นลางบอกเหตุได้ เช่น ฝันที่เป็นลางสังหรณ์ จะทำให้เรารู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ยิ่งบางคนเชื่อในความเหลื่อมซ้อนของมิติ เช่น ไปสถานที่บางแห่งแล้วรู้สึกว่าเคยมาแล้ว คุยกับบางคนแล้วรู้ว่าเคยคุยแบบนี้มาแล้ว เขาจะเชื่อในความฝัน ...แต่ถ้าฝันแล้ววิตกกังวล จิตกระสับกระส่าย ไม่นิ่ง ไม่หยุดนิ่งที่จะแก้ไข ฝันก็ไม่มีความหมาย เพราะส่วนใหญ่ฝันลางบอกเหตุมีเอาไว้ให้แก้ไข ให้เตรียมใจ เตรียมพร้อมที่จะยอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ...ถ้าใจเรานิ่งเมื่อไหร่ หรือฝึกสมาธิ ฝันเราจะชัดเจนขึ้น สามารถกำหนดความฝันว่าจะให้ฝันเรื่องอะไรหรือบังคับให้ฝันต่อเนื่องได้ ฝันจะแม่นขึ้นด้วย"