อ่านแล้วเห็นว่า....มีประโยชน์ไม่น้อย...ครับ...

ปัจจัยหลัก ๓ ประการที่ทำให้สยามประเทศอยู่รอดมาได้
คัดจาก
พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ในปาฐกถาเรื่อง
ลักษณะการปกครองประเทศสยามแต่โบราณ
เหตุที่ชนชาติไทยจะได้เป็นใหญ่ในประเทศสยาม เพราะมีกำลังมากกว่าชาติอื่นซึ่งปกครองอยู่ก่อนนั้นเป็นธรรมดา แต่ที่ชนชาติไทยสามารถปกครองประเทศสยามมาได้ช้านาน ถ้าจะนับเวลาก็เกือบ๗๐๐ปีเข้าบัดนี้ จำต้องอาศัยคุณธรรมอย่างอื่น อันมีอยู่ในอุปนิสัยของชนชาติไทยด้วย
ข้าพเจ้าพิจารณาดูตามหลักฐานที่ปรากฏในพงศาวดารเห็นว่า ชนชาติไทยมีคุณธรรม ๓ อย่างเป็นสำคัญ จึงสามารถปกครองประเทศสยามมาได้ คือ ความจงรักอิสระของชาติอย่าง ๑ ความปราศจากวิหิงสาอย่าง ๑ ความฉลาดในการประสานประโยชน์อย่าง ๑ หรือ ถ้าจะเรียกเป็นภาษาอังกฤษก็คือ Love of National Independence , Toleration and Power of Assimitation เหล่านี้เป็นสำคัญยิ่งกว่าคุณธรรมอย่างอื่นซึ่งยังมีอีกหลายอย่าง จะกล่าวอธิบายให้เห็นเป็นลำดับต่อไป
ที่ว่าอุปนิสัยชนชาติไทยรักอิสระของชาตินั้น พึงเห็นได้ตั้งแต่ที่พากันทิ้งเมืองเดิมมา เพราะไม่อยากอยู่ในอำนาจของชนชาติอื่น และเมื่อมาได้ครองประเทศสยามแล้ว ในสมัยต่อมาแม้ต้องตกทุกข์ได้ยาก ด้วยชนชาติอื่นซึ่งมีกำลังมากกว่าเข้าย่ำยี บางคราวจนถึงบ้านแตกเมืองเสียยับเยิน ก็ยังพยายามแม้จนเอาชีวิตเข้าแลก กู้อิสระของชาติกลับคืนได้อีกทุกครั้ง ปรากฏมาในเรื่องพงศาวดารดังว่านี้เป็นหลักฐาน
ที่ว่าอุปนิสัยไทยปราศจากวิหิงสานั้น คือ ที่อารีต่อบุคคลจำพวกอื่นซึ่งอยู่ในปกครอง หรือ แม้แต่จะมาอาศัย ความข้อนี้มีหลักฐานปรากฏตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ดังแจ้งอยู่ในศิลาจารึกของพระเจ้ารามคำแหงมหาราช และปรากฎในสมัยอื่นสืบมา
พึงเห็นได้ดังเช่นชนชาติอื่น หรือพวกที่ถือศาสนาอื่นๆอยู่ในประเทศสยาม ไทยก็มิได้รังเกียจเบียดเบียน กลับชอบสงเคราะห์แม้จะถือศาสนานั้นๆ ด้วยถือว่า ศาสนาย่อมให้ความสุขแก่ผู้เลื่อมใสเหมือนกันทุกศาสนา
เพราะเหตุนี้แต่โบราณมา สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามจึงย่อมทรงช่วยอุปการะในการสร้างวัดคริสตัง และสร้างสุเหร่าอิสลาม ด้วยมีพระราชประสงค์จะพระราชทานความสุข แก่ไหร่ฟ้าข้าแผ่นดินซึ่งเลื่อมใสในศาสนานั้นๆ การเช่นนี้ไม่ปรากฎมีเหมือนในประเทศอื่น มีแต่ในประเทศสยามและยังมีสืบลงมาจนถึงในสมัยปัจจุบันนี้
จะยกตัวอย่างดังเช่น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานที่ดินที่ริมถนนสาธรให้สร้างวัดไครสเชิช และในการพิธีของแขกเจ้าเซ็น ก็ยังมีของหลวงพระราชทานช่วยอยู่ทุกปีจนบัดนี้
คุณธรรมความปราศจากวิหิงสาที่กล่าวมามิใช่จะมีแต่ไทยชั้นผู้ปกครองเท่านั้น เป็นอุปนิสัยตลอดไปจนถึงไทยที่เป็นราษฎรพลเมือง ข้อนี้ท่านทั้งหลายที่เคยเที่ยวเตร่ แม้ที่เป็นชาวต่างประเทศคงจะได้ สังเกตเห็นว่า เมื่อไปตามหมู่บ้านราษฎรไม่ว่าแห่งใดๆ ถ้าไม่ประพฤติร้ายต่อเขาแล้วคงได้พบการต้อนรับอย่างเอื้อเฟื้อ โดยมิได้คิดเอาเปรียบอย่างหนึ่งอย่างใด ทั่วไปในประเทศสยาม ความปราศจากวิหิงสาคงเป็นข้อสำคัญอันหนึ่งซึ่งทำให้ชนชาติอื่นมีพวกขอมเป็นต้น ไม่รังเกียจการปกครองของชนชาติไทยมาแต่เดิม
ที่ว่าไทยฉลาดในการประสานประโยชน์นั้น ก็พึงเห็นได้ตั้งแต่สมัยเมื่อแรกไทยได้ปกครองประเทศสยาม ในสมัยนั้นพวกขอมยังมีอยู่เป็นอันมาก แทนที่จะกดขี่ขับไล่ ไทยกลับคิดเอาใจช่วยพวกขอมให้เข้ากับไทยด้วยประการต่างๆ ยกตัวอย่างดังเช่น พระเจ้ารามคำแหงมหาราชทรงคิดตั้งแบบหนังสือไทย ให้ใช้เขียนได้ทั้งภาษาไทยและภาษาขอมด้วยอักษรอย่างเดียวกัน และจารีตประเพณีของขอมอย่างใดดี ไทยก็รับมาประพฤติเป็นประเพณีของไทยไม่ถือทิฐิ
คุณธรรมที่ฉลาดประสานประโยชน์อันนี้ คงเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่ง โบราณสมัยซึ่งทำให้ขอมกับไทยกลายเป็นชาวไทยสยามพวกเดียวกัน
แม้ในสมัยภายหลังมา เมื่อมีพวกจีนพากันเข้ามาตั้งทำมาหากินในเมืองไทย มาอยู่เพียงชั่วบุรุษหนึ่งหรือสองชั่ว ก็มักกลายเป็นชาวสยามไป ด้วยคุณธรรมของไทยที่กล่าวมา ถึง(แม้)อารยธรรมของชาวยุโรป ไทยในประเทศสยามก็แลเห็นคุณและมีความนิยมก่อนชาวประเทศอื่นๆที่ใกล้เคียง และได้ประโยชน์จากอารยธรรมนั้นสืบมาจนทุกวันนี้ ก็เพราะความฉลาดประสานประโยชน์อันมีในอุปนิสัยของชนชาติไทย
จึงเห็นว่าคุณธรรมทั้ง ๓ อย่างที่พรรณามา ควรนับว่าเป็นอัศจรรย์ในอุปนิสัยของชนชาติไทยมาแต่โบราณด้วยประการฉะนี้.
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็นพระอนุชาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับการถวายคำยกย่องเป็น " พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย "
http://www.moomkafae.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=185001&Ntype=1...ผู้บริหารประเทศทุกวันนี้น่าจะลองอ่านแล้วนำมาคิดบ้าง....ผมว่าคงดีไม่น้อย...นะครับ...