ขอบคุณโครงการรถคันแรกของรัด ถะ บานครับ.."รถขายไม่ออก" ก็ต้องหั่นกำไรโละสต๊อก

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

อีกนิดเดียว คงโดนอุ้มหายไปหลังกระดาน
ขอไว้อาลัยให้กระทู้นี้ 

คุณอานายสมชาย(ฮา) - รักในหลวงครับ สาวกไข่แม้วทุกๆตัว อ่านหนังสือถ้าเกิน3บรรทัดจะไม่รู้เรื่อง และจะเริ่มมีอาการคลื่นเหียนวิงเวียนศรีษะ ต้องพักเคี้ยวเอื้องก่อนซักครู่อาการเหล่านั้นถึงจะดีขึ้นครับ ที่คุณอายกคำอธิบายมานั้น ป่วยการเปล่าสำหรับคนพวกนี้ แต่จะเป็นประโยชน์มากสำหรับผม

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่" อ่ะ ฮา

ยายก็ กิ๊ดว่า  "งัว" มันเหมือน ควาย เลย อ่ะ ฮา
5555 น่าจะมีเขา  มีหนอก  สี่ขาน๊าาาาาา  +1000  ฮา 

เอ้า  "มีหาง"  ด้วยแหละ  อ่ะ  ฮา 

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

แม้วบอก "เข็ดจนตาย"  คนซื้อ คนขาย ไม่ผิด  ฮา
คนเซ็นต์ชื่อ  ติดคุก  "สองปี"  อ่ะ   ฮา   

ที่ยายบ๊าบพูดมานั่นขอแก้ไขหน่อย เพราะไม่ถูกต้อง... และนี่คือตัวอย่างของการบิดเบือนข่าวสารหลอกคนโง่ หากไม่อ่านคำพิพากษาให้เข้าใจก็จะเข้าใจผิดประเด็นตามที่ยายบ๊าบชอบทำเป็นกิจวัตร...

คำพิพากษานั้นสรุปได้ตามตัวแดงนี้...

วันที่ 21 ต.ค. 2551 เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา พร้อมองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกจำนวน 33 ไร่ มูลค่า 772 ล้านบาทเศษ ได้พิพากษาตัดสินว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 (1) วรรค 3 และมาตรา 122 วรรค 1 ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี ส่วนความผิดฐานอื่นและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ส่วนจำเลยที่ 2 นั้นต้องส่งมอบที่ดิน 4 แปลง ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขวาง คืนให้กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน เนื่องจากเห็นว่าการทำนิติกรรมซื้อขายที่ดิน ระหว่างกองทุนฟื้นฟูฯ และจำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2546 เป็นโมฆะกรรม จึงให้เพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมซื้อขายที่ดินดังกล่าว พร้อมทั้งให้กองทุนฯคืนเงินซื้อขายที่ดินจำนวน 772 ล้านบาทให้กับจำเลยที่ 2 พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับตั้งแต่วันที่จำเลยที่ 2 ฟ้องกลับกองทุนฟื้นฟูฯ ให้คืนเงินซื้อที่ดิน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2552

ประเด็นคือจำเลยที่ 1 คือนายหน้าเหลี่ยมมีความผิดตาม"ราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 (1) วรรค 3 และมาตรา 122 วรรค 1 "... ตัวบทตามตัวสีน้ำเงินข้างล่าง...

มาตรา ๑๐๐ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้
(๑) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี
(๒) เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี
(๓) รับสัมปทานหรือคงถือไว้ซึ่งสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว
(๔) เข้าไปมีส่วนได้เสียในฐานะเป็นกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน พนักงานหรือลูกจ้างในธุรกิจของเอกชนซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับ ดูแล ควบคุม หรือตรวจสอบของหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นสังกัดอยู่หรือปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งโดยสภาพของผลประโยชน์ของธุรกิจของเอกชนนั้นอาจขัดหรือแย้งต่อประโยชน์ส่วนรวม หรือประโยชน์ทางราชการ หรือกระทบต่อความมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้น
เจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งใดที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ให้นำบทบัญญัติในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามวรรคสอง โดยให้ถือว่าการดำเนินกิจการของคู่สมรสดังกล่าว เป็นการดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ

มาตรา ๑๒๒ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา ๑๐๐ มาตรา ๑๐๑ หรือมาตรา ๑๐๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีความผิดตามมาตรา ๑๐๐ วรรคสาม หากเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดพิสูจน์ได้ว่า ตนมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยในการที่คู่สมรสของตนดำเนินกิจการตามมาตรา ๑๐๐ วรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้นั้นไม่มีความผิด


สรุปแบบบ้านๆได้ว่า องค์ประกอบคือต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ และกระทำการทุจริตฯ, จึงมีความผิดตามกฎหมายนี้... หญิงอ้อไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงไม่ได้ติดคุก...

ดังนั้นที่ยายบ๊าบพูดมานั่นจึงไม่ถูกต้อง เพราะคัดลอกเอามาบิดเบือนหลอกคนโง่, แล้วคนโง่ก็พูดกันปากต่อปากกันไปเรื่อยๆ ว่าคนเซ็นต์ติดคุก คนซื้อขายไม่ติดคุก... เพราะไม่ได้ติดคุกข้อหาซื้อขาย แต่ติดคุกข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐยินยอมให้คู่สมรสของตนดำเนินการขี้โกง(กิจการตามมาตรา ๑๐๐ วรรคหนึ่ง)...

เอามาย้ำอีก Post หนึ่งให้เห็นชัด... สรุปแบบบ้านๆได้ว่า องค์ประกอบคือต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ และกระทำการทุจริตฯ, จึงมีความผิดตามกฎหมายนี้...

หญิงอ้อไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงไม่ได้ติดคุก... ที่คนเซ็นต์ติดคุกก็ไม่ได้ติดคุกข้อหาซื้อขาย แต่ติดคุกข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐยินยอมให้คู่สมรสของตนดำเนินการขี้โกง(กิจการตามมาตรา ๑๐๐ วรรคหนึ่ง)...

+๑  พี่สมชายครับ  เหตุผลที่ยกมาประกอบแม่นเสมอ  ไม่จงใจบิดเบือน  ไม่หลอกควาย 

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

แม้วบอก "เข็ดจนตาย"  คนซื้อ คนขาย ไม่ผิด  ฮา
คนเซ็นต์ชื่อ  ติดคุก  "สองปี"  อ่ะ   ฮา   

ที่ยายบ๊าบพูดมานั่นขอแก้ไขหน่อย เพราะไม่ถูกต้อง... และนี่คือตัวอย่างของการบิดเบือนข่าวสารหลอกคนโง่ หากไม่อ่านคำพิพากษาให้เข้าใจก็จะเข้าใจผิดประเด็นตามที่ยายบ๊าบชอบทำเป็นกิจวัตร...

คำพิพากษานั้นสรุปได้ตามตัวแดงนี้...

วันที่ 21 ต.ค. 2551 เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา พร้อมองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกจำนวน 33 ไร่ มูลค่า 772 ล้านบาทเศษ ได้พิพากษาตัดสินว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 (1) วรรค 3 และมาตรา 122 วรรค 1 ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี ส่วนความผิดฐานอื่นและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ส่วนจำเลยที่ 2 นั้นต้องส่งมอบที่ดิน 4 แปลง ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขวาง คืนให้กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน เนื่องจากเห็นว่าการทำนิติกรรมซื้อขายที่ดิน ระหว่างกองทุนฟื้นฟูฯ และจำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2546 เป็นโมฆะกรรม จึงให้เพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมซื้อขายที่ดินดังกล่าว พร้อมทั้งให้กองทุนฯคืนเงินซื้อขายที่ดินจำนวน 772 ล้านบาทให้กับจำเลยที่ 2 พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับตั้งแต่วันที่จำเลยที่ 2 ฟ้องกลับกองทุนฟื้นฟูฯ ให้คืนเงินซื้อที่ดิน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2552

ประเด็นคือจำเลยที่ 1 คือนายหน้าเหลี่ยมมีความผิดตาม"ราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 (1) วรรค 3 และมาตรา 122 วรรค 1 "... ตัวบทตามตัวสีน้ำเงินข้างล่าง...

มาตรา ๑๐๐ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้
(๑) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี
(๒) เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี
(๓) รับสัมปทานหรือคงถือไว้ซึ่งสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว
(๔) เข้าไปมีส่วนได้เสียในฐานะเป็นกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน พนักงานหรือลูกจ้างในธุรกิจของเอกชนซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับ ดูแล ควบคุม หรือตรวจสอบของหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นสังกัดอยู่หรือปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งโดยสภาพของผลประโยชน์ของธุรกิจของเอกชนนั้นอาจขัดหรือแย้งต่อประโยชน์ส่วนรวม หรือประโยชน์ทางราชการ หรือกระทบต่อความมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้น
เจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งใดที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ให้นำบทบัญญัติในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามวรรคสอง โดยให้ถือว่าการดำเนินกิจการของคู่สมรสดังกล่าว เป็นการดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ

มาตรา ๑๒๒ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา ๑๐๐ มาตรา ๑๐๑ หรือมาตรา ๑๐๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีความผิดตามมาตรา ๑๐๐ วรรคสาม หากเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดพิสูจน์ได้ว่า ตนมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยในการที่คู่สมรสของตนดำเนินกิจการตามมาตรา ๑๐๐ วรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้นั้นไม่มีความผิด


สรุปแบบบ้านๆได้ว่า องค์ประกอบคือต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ และกระทำการทุจริตฯ, จึงมีความผิดตามกฎหมายนี้... หญิงอ้อไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงไม่ได้ติดคุก...

ดังนั้นที่ยายบ๊าบพูดมานั่นจึงไม่ถูกต้อง เพราะคัดลอกเอามาบิดเบือนหลอกคนโง่, แล้วคนโง่ก็พูดกันปากต่อปากกันไปเรื่อยๆ ว่าคนเซ็นต์ติดคุก คนซื้อขายไม่ติดคุก... เพราะไม่ได้ติดคุกข้อหาซื้อขาย แต่ติดคุกข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐยินยอมให้คู่สมรสของตนดำเนินการขี้โกง(กิจการตามมาตรา ๑๐๐ วรรคหนึ่ง)...

Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา

ยายคิดว่านายสมชาย(ฮา)  "กลัด" กระดุมผิดเม็ด อ่ะ ฮา

แม้วเขาบอก  "ผลไม้ ที่เกิดจาก ต้นไม้ ที่มีพิษ" อ่ะ ฮา
ผลของมันก็เลย  "บิดเบี้ยว"  ให้นายสมชาย (ฮา) เอามาเล่าแบบ แปลกๆ อ่ะ ฮา

มีอย่างที่ไหนว๊าาา  ฮา
พูดเอง เออเอง แต่ตั้งเอง ตัดสินเอง ห้ามอุทธรณ์ ห้ามฎีกา  ฮา
ยายเคยเห็นแต่  ไอ้ม.17 ของ นายพลผ้ามะม้าแดง เท่านั้นแหละ อ่ะ ฮา

5555 ตีปิ๊ป  ตีเกราะ เคาะไม้ ฮา
"อินเตอร์โพล"  ประกาศจับแล้ว ฮา
ข้อหา "เซ็นต์ชื่อ" ยินยอมให้เมียไปทำ นิติกรรม เนี่ยะนะ  ฮา

อั่งม้อ มันก็เลย  งองูสองตัว ฮา
มีด้วยเรอะ  "สาระขัณฑ์แลนด์" ฮา
ดีที่เขาไม่เชื่อ  หัวเราะกันกิ๊กกั๊ก  ฮา

ไอ้แม้วมันก็เลย  "บิน"  โฉบไปมาอ่ะ  ฮา

เชื่อเลย ฮา

ควาย รูปพรรณสัณฐาน เหมือน "วัว"  ฮา 5555   
เอออ  .... ควาย  ออกลูกเป็น "งัว" อ่ะ ฮา 

[น้าเสก คนเดิม]

ยายอารมณ์เสียมาจากไหนนี่...หรือว่าลืมทานกาแฟก่อนนอนจ๊ะ

[naisomchai]

5555 ตีปิ๊ป  ตีเกราะ เคาะไม้ ฮา
"อินเตอร์โพล"  ประกาศจับแล้ว ฮา
ข้อหา "เซ็นต์ชื่อ" ยินยอมให้เมียไปทำ นิติกรรม เนี่ยะนะ  ฮา

ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับยายบ๊าบครับ ประเดี๋ยวหลุดเผลอด่ายายบ๊าบ แล้วจะกลายเป็นทำกระทู้เขาเลอะเทอะ ทั้งที่ยายบ๊าบนี่น่าด่ามาก โดยเฉพาะตรรกะเรื่องจับวัวเปรียบเทียบกับควายแล้วกลายเป็นตัวประหลาด กับตรรกะเรื่องฝรั่งมันงงนี่แหละ... หากปักหลักด่าแล้วรับรองยายบ๊าบจะมีหน้าตากลายเป็นตัวประหลาดแบบควายเดินเข้าร้านเซเว่นฯ แต่เมื่อเดินกลับออกมากลายเป็นควายมีแปดขาเหมือนปลาหมึกแน่ๆ เพราะยายบ๊าบแตกประเด็นเก่ง, เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาแตกประเด็นใหม่ให้ชวนงง(พร้อมบิดเบือนเสร็จสรรพ) ทั้งที่เรื่องทั้งหมดเกิดจาก"หมาไปขโมยกินลูกชิ้นปิ้งเท่านั้นเอง" แต่ควายมันเลยกลายเป็นมี 8 ขาได้เหมือนปลาหมึกอยู่ในน้ำมี 8 หนวด ทั้งที่ทั้งวัวและควายมีขาแค่ 4 ขาตั้งแต่ก่อนเดินเข้าร้านเซเว่นฯ...

"สรุปซ้อนสรุป"เรื่องทำไมคนเซ็นต์ยินยอมให้ไปทำนิติกรรมถึงได้ติดคุก?... ก็เพราะเขาป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแอบให้เมียไปทำนิติกรรมขี้โกง โดยอำพรางตัวเองอยู่หลังฉาก ดังนั้นการเซ็นต์ยินยอม แปลว่าตัวเองรู้เห็นการกระทำทั้งหมด จึงเซ็นต์ยินยอม, แต่ตัวเมียเองไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงไม่ผิดตามกฎหมายนี้(อาจผิดเรื่องอื่นต้องว่ากันไปตามกฎหมายอื่นฯ)...

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

5555 ตีปิ๊ป  ตีเกราะ เคาะไม้ ฮา
"อินเตอร์โพล"  ประกาศจับแล้ว ฮา
ข้อหา "เซ็นต์ชื่อ" ยินยอมให้เมียไปทำ นิติกรรม เนี่ยะนะ  ฮา

ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับยายบ๊าบครับ
ประเดี๋ยวหลุดเผลอด่ายายบ๊าบ แล้วจะกลายเป็นทำกระทู้เขาเลอะเทอะ
ทั้งที่ยายบ๊าบนี่น่าด่ามาก

โดยเฉพาะตรรกะเรื่องจับวัวเปรียบเทียบกับควายแล้วกลายเป็นตัวประหลาด
กับตรรกะเรื่องฝรั่งมันงงนี่แหละ...
หากปักหลักด่าแล้ว รับรองยายบ๊าบ
จะมีหน้าตากลายเป็นตัวประหลาดแบบควายเดินเข้าร้านเซเว่นฯ
แต่เมื่อเดินกลับออกมากลายเป็นควายมีแปดขาเหมือนปลาหมึกแน่ๆ

เพราะยายบ๊าบแตกประเด็นเก่ง,
เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาแตกประเด็นใหม่ให้ชวนงง(พร้อมบิดเบือนเสร็จสรรพ)
ทั้งที่เรื่องทั้งหมดเกิดจาก"หมาไปขโมยกินลูกชิ้นปิ้งเท่านั้นเอง"
แต่ควายมันเลยกลายเป็นมี 8 ขาได้เหมือนปลาหมึกอยู่ในน้ำมี 8 หนวด
ทั้งที่ทั้งวัวและควายมีขาแค่ 4 ขาตั้งแต่ก่อนเดินเข้าร้านเซเว่นฯ...

"สรุปซ้อนสรุป"เรื่องทำไมคนเซ็นต์ยินยอมให้ไปทำนิติกรรมถึงได้ติดคุก?...
ก็เพราะเขาป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแอบให้เมียไปทำนิติกรรมขี้โกง
โดยอำพรางตัวเองอยู่หลังฉาก
ดังนั้นการเซ็นต์ยินยอม แปลว่าตัวเองรู้เห็นการกระทำทั้งหมด จึงเซ็นต์ยินยอม,
แต่ตัวเมียเองไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงไม่ผิดตามกฎหมายนี้
(อาจผิดเรื่องอื่นต้องว่ากันไปตามกฎหมายอื่นฯ)...

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่" นายสมชาย(ฮา) อ่ะ  555555

"งัว" เดินเข้า 7  มันคงไม่ได้กลับออกมาหรอก อ่ะ ฮา
มันน่าจะกลายเป็น  "ไส้กรอก" หรือไม่ก็ สเต๊ก  แล้วล่ะ ฮา 555

ข้อความข้างบน  ยายแสนจะ ฮา
เพราะกฎหมายฉบับนี้  ป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ
รู้เห็นเป็นใจกับการทำธุรกรรม ที่อาจจะไม่สุจริต ฮา

นายสมชาย(ฮา)  ลืมไปแล้วม๊างส์ ฮา
งบประมาณของประเทศ 70-80 % เขาจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ อ่ะ ฮา
ตายห้าเลย  เป็นครู เป็นทหาร เป็นตำรวจ เป็นลูกจ้างรัฐทั้งนั้น
เซ็นต์ชื่อยินยอมให้เมีย ให้ลูก ไปซื้อรถ ซื้อที่ ซื้อบ้าน ไม่ได้สักกะอย่าง ฮา

ประเด็นของแม้ว  ยายเห็นว่า  เป็นการเข้าสู้ราคาประมูล  "แบบเปิดเผย" สุจริต อ่ะ
ก่อนเซ็นต์เขาก็ถามไปหลายๆแห่ง เช่นกฤษฎีกา ถามไปหลายแห่ง เขาตอบเหมือนกันหมด ฮา
มันไม่ได้ "มุบมิบ"  แอบซื้อ แอบขายกันซะที่ไหน ใครใส่ราคามากก็ได้ไป อ่ะ ฮา 

555 มันไม่เหมือนกับไอ้ "ขายชาติ"  ขายทรัพย์ ปรส. หรอก ฮา

เอะอะก็ ไอ้แม้วมันโกง  ไอ้แม้วขายชาติ  ไอ้แม้วหนีภาษี ฮา
555 นายสมชาย (ฮา)  ซื้อหุ้น ขายหุ้น เนี่ยะ  ต้องเสียภาษีมั้ย
ถ้าไม่ได้เสีย  ก็คงโกง เหมือนแม้ว มันนั่นแหละ  ฮา

เวลาคนมันจะยกประเด็นมาด่า  ยายแนะนำว่า ด่าให้มีหลักการหน่อยอ่ะ
ไอ้แม้วผิดโน่นนี่  ยายยังไม่เห็นว่าใครมันลากหลักฐาน ไปมัดคอมันได้เลย ฮา
มีแต่พวก  "กองเลีย"  เลียจอมปลวกเก่าๆ  เลียจนน้ำลายแห้ง ลิ้นฝืด ฮา
เลียจน "จอมปลวก" พัง  รอการถล่มทลาย อ่ะ ฮา

ยายโท๊นม่ายล่าย  เห็น "งัวเต้นระบำ" โชว์โง่ อ่ะ ฮา
5555 ยายถูกไอ้แม้ว  ซื้อไปแล้ว ฮา

ยายว่า นายสมชาย(ฮา)  เนี่ยะ  ถูกสะกดจิต มานาน อ่ะ ฮา 

[กรรมกร]

ขออนุญาต + ครับ (เอามั่ง เห็นเค้านิยมกัน  อิอิ) 

ปอลิง ดีใจ ที่กระทู้นี้ ยังไม่ถูกอุ้ม 555

[naisomchai]

นายสมชาย(ฮา)  ลืมไปแล้วม๊างส์ ฮา
งบประมาณของประเทศ 70-80 % เขาจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ อ่ะ ฮา
ตายห้าเลย  เป็นครู เป็นทหาร เป็นตำรวจ เป็นลูกจ้างรัฐทั้งนั้น
เซ็นต์ชื่อยินยอมให้เมีย ให้ลูก ไปซื้อรถ ซื้อที่ ซื้อบ้าน ไม่ได้สักกะอย่าง ฮา

ประเด็นของแม้ว  ยายเห็นว่า  เป็นการเข้าสู้ราคาประมูล  "แบบเปิดเผย" สุจริต อ่ะ
ก่อนเซ็นต์เขาก็ถามไปหลายๆแห่ง เช่นกฤษฎีกา ถามไปหลายแห่ง เขาตอบเหมือนกันหมด ฮา
มันไม่ได้ "มุบมิบ"  แอบซื้อ แอบขายกันซะที่ไหน ใครใส่ราคามากก็ได้ไป อ่ะ ฮา 

ยายบ๊าบก็จับแพะชนแกะให้ออกมาเป็นปลาหมึกย่างหลอกควายไปเรื่อยอีกแล้ว ตรงนี้ไม่ต่อล้อต่อเถียงอีกแหละ เดี๋ยวยาวววว, มาจับประเด็นเรื่องที่อ้างว่าสู้ราคาประมูล"แบบเปิดเผย"สุจริตก็แล้วกัน... แต่ยายบ๊าบบิดเบือนไปเรื่อยเป็นกิจวัตรอีกแล้ว...

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ขัดกัน เป็นกติกาสากลของนาๆประเทศ... ขยายความได้ว่าตัวเองเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ไปเปิดหน้าเข้าร่วมประมูลซื้อที่ดินแบบนั้น คนอื่นเขาก็หลบราคาลง หรือไม่ก็ถอนตัวไปเลย, ในที่สุดก็เหลือแค่จำนวนผู้เสนอราคาครบถ้วนพอดีเป๊ะตามระเบียบฯ...

เรื่องแบบนี้มันไม่ต้องส่งคนไปบอกหรอกว่า"ฉันจะเอา เอ็งหลีกไป", คนทั่วไปใครเห็นชื่อผู้เข้าร่วมประมูลก็รู้ว่า"เมียนายกมาเอง", อยากรู้ใครมันจะกล้าขวางฯ... นี่ยังไม่นับเรื่อง"ถุงขนม"เจ้ากรรมที่ทำให้คนติดคุกเพิ่มอีกต่างหาก...

ลองอ่านส่วนหนึ่งของคำพิพากษาข้างล่างดู ตามตัวสีน้ำเงิน...

      ประเด็นเรื่องทำให้กองทุนฟื้นฟูได้รับความเสียหายจากการประมูลซื้อขายที่ดินหรือไม่ จำเลยที่ 1 เป็นนายกรัฐมนตรี มีฐานะมั่งคั่ง เป็นบุคคลที่มีอำนาจ บารมี ทางการเมืองสูง การที่มีการประมูลราคาการขายที่ดินดังกล่าวจะได้ราคามากหรือได้น้อย ย่อมมีผลถึงสถานะทางการเงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ที่นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบอยู่ ขณะที่จำเลยที่ 2 เป็นภริยาและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไป โดยก่อนมีการประมูลขายที่ดิน ก็ได้มีข่าวแพร่กระจายไปก่อนแล้วว่า ภริยานายกรัฐมนตรีจะร่วมประมูลราคาด้วย และอาจกล่าวได้ว่าค่านิยมของข้าราชการส่วนใหญ่ มักจำยอมต่อผู้มีอำนาจ กระบวนการจัดการประมูลราคาครั้งที่ 2 ที่มีการกำหนดวงเงินมัดจำขั้นต่ำสูงถึง 100 ล้านบาท ทำให้สามารถกันผู้เข้าประมูลให้น้อยลง จึงมีผู้เสนอราคาเพียง 3 ราย ได้แก่ บริษัท แลนด์แอนด์เฮาส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โนเบิล เดเวอร์ล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และจำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 2 เสนอราคาสูงสุด แต่ยังต่ำว่าราคาขั้นต่ำที่เคยกำหนดไว้ในการประมูลครั้งแรก
       
       เมื่อพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ร่วมประมูลทั้ง 2 รายรู้ว่ากำลังเสนอราคาแข่งกับจำเลยที่ 2 ซึ่งผู้ประมูลทั้ง 2 รายรู้ดีว่า ไม่สมควรชนะการประมูลครั้งนี้ จำเลยที่ 2 จึงชนะการประมูล จึงเป็นที่เห็นว่ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไม่สามารถขายที่ดินทั้ง 4 แปลงได้ประโยชน์เท่าที่ควร จึงถือเป็นการขัดกันของผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวมโดยชัดเจน ซึ่งต้องห้ามไม่กระทำตามมาตรา 100 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542

[naisomchai]

ส่วนเรื่องขายหุ้นแล้วไม่เสียภาษีนั่นก็มีคำอธิบายแบบไม่บิดเบือน... แต่ยังขี้เกียจเอามาอธิบายเพราะมันจะแตกประเด็นไปเรื่อยไม่รู้จบ แบบเดียวกับที่ยายบ๊าบชอบทำบ่อยๆ คือแตกประเด็นไปเรื่อย คุยอย่างนึงหลุดไปอีกอย่างนึงตั้งใจให้คนโง่มันงง(มุขหลอกควาย)...

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

นายสมชาย(ฮา)  ลืมไปแล้วม๊างส์ ฮา
งบประมาณของประเทศ 70-80 % เขาจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ อ่ะ ฮา
ตายห้าเลย  เป็นครู เป็นทหาร เป็นตำรวจ เป็นลูกจ้างรัฐทั้งนั้น
เซ็นต์ชื่อยินยอมให้เมีย ให้ลูก ไปซื้อรถ ซื้อที่ ซื้อบ้าน ไม่ได้สักกะอย่าง ฮา

ประเด็นของแม้ว  ยายเห็นว่า  เป็นการเข้าสู้ราคาประมูล  "แบบเปิดเผย" สุจริต อ่ะ
ก่อนเซ็นต์เขาก็ถามไปหลายๆแห่ง เช่นกฤษฎีกา ถามไปหลายแห่ง เขาตอบเหมือนกันหมด ฮา
มันไม่ได้ "มุบมิบ"  แอบซื้อ แอบขายกันซะที่ไหน ใครใส่ราคามากก็ได้ไป อ่ะ ฮา 

ยายบ๊าบก็จับแพะชนแกะให้ออกมาเป็นปลาหมึกย่างหลอกควายไปเรื่อยอีกแล้ว
ตรงนี้ไม่ต่อล้อต่อเถียงอีกแหละ เดี๋ยวยาวววว,
มาจับประเด็นเรื่องที่อ้างว่าสู้ราคาประมูล"แบบเปิดเผย"สุจริตก็แล้วกัน...
แต่ยายบ๊าบบิดเบือนไปเรื่อยเป็นกิจวัตรอีกแล้ว...

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ขัดกัน เป็นกติกาสากลของนาๆประเทศ...
ขยายความได้ว่าตัวเองเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ไปเปิดหน้าเข้าร่วมประมูลซื้อที่ดินแบบนั้น
คนอื่นเขาก็หลบราคาลง หรือไม่ก็ถอนตัวไปเลย,
ในที่สุดก็เหลือแค่จำนวนผู้เสนอราคาครบถ้วนพอดีเป๊ะตามระเบียบฯ...

เรื่องแบบนี้มันไม่ต้องส่งคนไปบอกหรอกว่า"ฉันจะเอา เอ็งหลีกไป",
คนทั่วไปใครเห็นชื่อผู้เข้าร่วมประมูลก็รู้ว่า"เมียนายกมาเอง", อยากรู้ใครมันจะกล้าขวางฯ...

นี่ยังไม่นับเรื่อง"ถุงขนม"เจ้ากรรมที่ทำให้คนติดคุกเพิ่มอีกต่างหาก...

็Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  นายสมชาย(ฮา)  อ่ะ ฮา 55555

เป็น "เมียนายก"  เนี่ยะ ทำมั๊ย มันลำบากนัก  ห้ามโน่นนี่ อ่ ะ ฮา

555 ท่าทางจะให้ "ญ อ้อ" วันๆ ไปนั่งเซ็ตผม  "ทรงกะบังลม" รอผัวกลับบ้าน ฮา
พอผัวกลับบ้าน  รีบรินน้ำใส่ "ชาม" เดินมาป้อน ผัวคะ ผัวขร๊า  อ่ะ ฮา
5555 เป็นเมียนายก  ทำไ้ด้แค่นี้จริงๆ อ่ะ ฮา

ส่วนไอ้ถุง "ขนม"  ที่นายสมชาย(ฮา)  บอก ฮา
เขาคงเห็นว่า    อดอยาก  ขาดแคลน ทำมาหากิน กันไม่เป็น อ่ะ ฮา
นอกจากรอ  "ฟ้าประทาน"  อ่ะ ฮา

ปัญหานี้แหละ  ที่ชาวบ้าน ชาวช่อง ต้องเดินออกมาาขับ ออกมาไล่
มีตำแหน่ง  แต่ไม่มีใครยอมรับเกียรติ์  "มีอำนาจ แต่ปกครองไม่ได้"  อ่ะ  ฮา

ศุกร์นี้  นายสมชาย(ฮา)  ว่างหรือเปล่า อ่ะ ฮา
5555 ยายจะชวนไป  "สนามหลวง" อ่ะ ฮา 

[naisomchai]

็Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  นายสมชาย(ฮา)  อ่ะ ฮา 55555

เป็น "เมียนายก"  เนี่ยะ ทำมั๊ย มันลำบากนัก  ห้ามโน่นนี่ อ่ ะ ฮา

555 ท่าทางจะให้ "ญ อ้อ" วันๆ ไปนั่งเซ็ตผม  "ทรงกะบังลม" รอผัวกลับบ้าน ฮา
พอผัวกลับบ้าน  รีบรินน้ำใส่ "ชาม" เดินมาป้อน ผัวคะ ผัวขร๊า  อ่ะ ฮา
5555 เป็นเมียนายก  ทำไ้ด้แค่นี้จริงๆ อ่ะ ฮา

ส่วนไอ้ถุง "ขนม"  ที่นายสมชาย(ฮา)  บอก ฮา
เขาคงเห็นว่า    อดอยาก  ขาดแคลน ทำมาหากิน กันไม่เป็น อ่ะ ฮา
นอกจากรอ  "ฟ้าประทาน"  อ่ะ ฮา

ปัญหานี้แหละ  ที่ชาวบ้าน ชาวช่อง ต้องเดินออกมาาขับ ออกมาไล่
มีตำแหน่ง  แต่ไม่มีใครยอมรับเกียรติ์  "มีอำนาจ แต่ปกครองไม่ได้"  อ่ะ  ฮา

ศุกร์นี้  นายสมชาย(ฮา)  ว่างหรือเปล่า อ่ะ ฮา
5555 ยายจะชวนไป  "สนามหลวง" อ่ะ ฮา 

เป็นเมียนายก ก็ต้องมีหน้าที่สนับสนุนผัว... เพราะจะมีตำแหน่งประธานสมาคมการกุศลต่างๆ บางตำแหน่งเป็นประธานโดยพฤตินัยฯ ทำนองเดียวกับเป็นเมีย ผบทบ. ก็จะเป็นผู้นำสมาคมแม่บ้านทหารบก ฯลฯ...

งานการกุศลแบบนี้แหละ ที่คนเป็นเมียนายกสมควรจะต้องไปทำ เพราะอาศัยบารมีผัวตัวเองทะลุสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้เพราะบารมีไม่ถึง... แต่สิ่งที่สมควรทำต้องเป็นประโยชน์แก่แผ่นดิน ไม่ใช่ไป"เปิดหน้า"เข้าประมูลฯ แบบเดียวกับที่เป็นปัญหานี่แหละ เพราะผลประโยชน์มันขัดกันกับสาธารณะประโยชน์...

เรื่องอื่นใน Post ของยายบ๊าบก็จะไม่ต่อล้อต่อเถียงอีกแหละ เพราะเดี๋ยวยาว... มีอยู่เรื่องเดียวขอชี้แจงหน่อยว่าไม่ไปสนามหลวงหรอก เพราะแนวยายบ๊าบไม่ใช่สเปค ไม่ไหวหรอกครับ... ไม่ฮา(เฮ้อ)...

[ทิดเป้า]

5555 ยายจะชวนไป  "สนามหลวง" อ่ะ ฮา  

ไปเล่นว่าวหรือครับยาย

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

5555 ยายจะชวนไป  "สนามหลวง" อ่ะ ฮา 

ไปเล่นว่าวหรือครับยาย

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ป้าววววว  อ่ะ  ฮา

คำถามนี้  น่าจะเป็น  ไอ้น้องไข่  "ไข่กวน" อ่ะ  ฮา
พี่ป้าววว...... ไม่น่าจะถายยายเรยยยยยยยยยย ฮา

5555 ยายจะชวนนายสมชาย(ฮา)  ไป "ไถนา"  อ่ะ ฮา
วันที่ 10 พฤษภาคม เป็นวัน  พืชมงคล งัย อ่ะ  ฮา

5555 พี่ป้าาววววววววว  ปายยยมั้ย  ฮา 

[SillyOldMan]

ยายบาร์บอย่าแกล้งลดชั้นตัวเองสิครับ พี่สมชายแกยกข้อกฏหมายมาบอกไว้ชัดเจนแล้ว

ที่ทักษิณมีความผิดแต่เมียไม่มี เพราะทักษิณทำผิดกฏหมายที่บัญญัติมาป้องกันจนท.รัฐ+นักการเมืองโกงโดยเฉพาะ ตัวบทกฏหมายหมวดนี้บังคับใช้เฉพาะกับกลุ่มจนท.+นักการเมือง ไม่มีผลกับประชาชนทั่วไป

จนท.รัฐ+นักการเมืองไม่ว่าขั้วไหน ระดับไหน ถ้าอยู่ในกลุ่มที่ถูกบังคับใช้แล้วทำผิดกฏหมายข้อนี้เป็นโดนทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะโดนชี้มูลฯหรือไม่

ยายบาร์บฉลาดพอที่จะมองอะไรๆอย่างที่มันเป็น ไม่ใช่พวกโง่เง่าที่เอาแต่ตีความทุกอย่างให้มันเข้าข้างตัวเองอยา่งที่อยากให้เป็น

อย่าเอาแต่ตีฝีปาก เลี้ยวข้างๆคูๆลูกเดียว ทำจนติดนิสัยแล้วมันจะเสื่อม

[GUNRUNNER]

ไม่มีอะไรครับ  แค่โพสต์รูป