ขอบคุณโครงการรถคันแรกของรัด ถะ บานครับ.."รถขายไม่ออก" ก็ต้องหั่นกำไรโละสต๊อก

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

Barbara เสียเส้น ใจคอจะไม่จอยเรื่องรถเลยรึ เอาซักหน่อย อย่าให้เสียบรรยากาศ

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ เดส เปอร์ ลา โง่ แมน อ่ะ ฮา

แล้วจะไม่ว่ายาย  "ป่วน"  อีกเหรอ ฮา 
555 บาน ไม่ รู้ โรย อิ อิ  ฮา   

[SillyOldMan]

ผมดูข้อมูลชุดเดียวกัน แต่เห็นไปคนละทางครับ

เอาเฉพาะรายที่มารับรถตามกำหนดก่อนก็ได้...ตีว่ามารับรถกัน90เปอร์เซ็นต์ เป็นจำนวนรถ9แสนคัน ไม่มีใครหมดกำลังจ่ายก่อน5ปี ไม่มีใครหนีไฟแนนซ์

ผมมองว่า9แสนคันนี้ เป็นกลุ่มที่เพิ่งทำงานมีเงินเดือน , พวกที่มีกำลังจ่ายเกือบๆจะพอ , ตะเกียกตะกายเอาจนพอฯลฯ ไม่น้อยกว่า7แสนคัน

7แสนคันนี้ ถ้าไม่มีเงินคืนภาษีของโครงการรถคันแรกมาถ่วงตาชั่งให้โลภ เขาจะใช้ชีวิตปกติ กิน ใช้ตามปกติของตัวเองไป แล้วก็ลังเลไปเรื่อยๆว่าพร้อมจะซื้อรถกันหรือยัง มีกำลังพอที่จะซื้อรถกันหรือยัง?
[/u]
ถ้าไม่มีโครงการนี้ เขาจะรอจนพร้อมแล้ว จึงจะซื้อ............

พอมีโครงการรถคันแรกมายั่วกิเลส ตาชั่งการตัดสินใจเลยเอียง คำตอบคือ"ซื้อไว้ก่อน"แล้วค่อยไปลุ้นเอาข้างหน้า

จากที่เคยได้ใช้ชีวิตปกติ ก็กลายมาใช้ชีวิตติดแหง็กอยู่กับค่างวดรถ

เม็ดเงินจำนวนเท่ากัน แต่ส่วนที่ผมมองต่างจากยายบาร์บคือแทนที่เงินก้อนมหาศาลนี้จะได้กระจายไปอยู่ในตลาด ไปเป็นการกิน ใช้ เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯตามปกติ มันกลับเทไปกระจุกอยู่กับอุตสาหกรรมยานยนต์และส่วนที่เกี่ยวข้องเพียงกลุ่มเดียว

ผู้ประกอบการรายย่อยหงอยแดร่ก......
คนซื้อก็ชีวิตติดแหง็ก จากที่เคยพอจะกินร้านดีๆได้สัปดาห์ละ2-3ครั้ง ซื้อของกลับไปฝากที่บ้านได้เดือนละ1-2ครั้งก็ต้องรัดเข็มขัดกันแอ้ก

คนที่โกยเนื้อๆคืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่

คนที่รอรับส้มคือคนที่มีกำลังรอสอยรถมือสองราคาถูก....ตอนนี้ไม่ต้องรอแล้ว รถใหม่จากโชว์รูมก็กระหน่ำออกแคมเปญทั้งลดทั้งแจกเพื่ออ้อนวอนขอกำลังซื้อจากคนกลุ่มนี้ให้เหลือบตาไปรองรับรถทิ้งจองที่ล้นจากโชว์รูมจนเช้าๆต้องขับมาเรียงกันเต็มฟุตบาทจนแทบจะต้องจอดซ้อนแถว2กันแล้ว

ส่วนตัวแล้วผมไม่สนใจ ใครจะซื้อก็ซื้อ ไม่ใช่เงินผม ไม่ใช่ญาติผม...ผมรอซื้อรถมือสองปีใหม่ๆ สภาพใหม่ๆเพราะไม่มีปัญญาเติมน้ำมันขับแบบไม่ต้องกดราคาก็ถวายมาถูกๆ

สบายใจจะตาย

ช่วงได้รถมา1-3เดือนแรก คึกคัก ออกเที่ยวแทบจะทุกเวลาที่ไปได้ เพลินเพลิน ทุกคนก็คงเคย มีรถยนต์ใหม่ๆเที่ยวมันส์ บางคนหลายเดือน บางคนเป็นปี (ค่าเที่ยวเดือนนึงเยอะเลย  มากกว่าค่าผ่อนรถซะอีก   )

คนกลุ่มที่พี่จ้าวว่า ผมไม่ได้ดูแคลนแต่อย่างใดนะครับ ขนาดปรับค่าแรงครั้งใหญ่แล้วต้นปีนี้  คนเคยได้ไม่ถึงหมื่น ก็ได้เกินหมื่นบาท ป.ตรีหมื่นห้า ตีไปว่าค่าแรงคนรุ่นใหม่หมื่นกว่าขึ้นไป

ที่ผมได้ยินได้ฟัง คนหนุ่มสาวจำนวนมาก อาจจะเป็นตัวเลขสมมุติที่พี่จ้าวว่า 7-8แสนคน (คนจบป.ตรีเมืองไทยราวๆปีละ2แสนคน)เงินเดือนหมื่นกว่าบาท แต่กล้าลุยออกรถที่มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนนับหมื่นบาท  แทบจะทั้งสำนักงาน 

คนกลุ่มนี้หลังจากได้เงินคืนภาษีมา6-8หมื่น มาต่ออายุ เอามาช่วยผ่อนรถ เติมน้ำมันได้อีกหลายหลายเดือน แล้วหลังจากนี้ละ

ผมเห็นอะไรแปลกๆมา2-3เดือนแล้ว ค้าขายซึมลงมาก ในรอบ2-3ปีมานี้ ไม่เคยเป็น

เงื่อนนี้ปมมันมัดแน่นมาก 5ปี "ห้ามขาย" แล้วทำไงล่ะครับพี่น้่อง ขนาดผมสมัยออกรถยนต์ รายได้ผมมากกว่าค่างวดรถหลายเท่า ผมยังคิดแล้วคิดอีก แต่นี่พวกคุณระเบิดพลีชีพกันเลย ไม่กินก็ได้ ขอแค่ได้่ออกรถ   

1.4ล้านคัน คนหนุ่มสาวนับล้านคน ที่เพิ่งเริ่มทำงานไม่กี่ปี เพิ่งตั้งตัว โอ้.....

สาวไซด์ไลน์ได้เพิ่มขึ้นไงคุณเบิ้ม ดีออก ทั้งถูก ทั้งสด

[Yut64]

บางครั้งคนไทยวัยเริ่มจะโตต้องโดนยาแรงกันบ้าง ถ้าเอาชนะตนเองไม่ได้โตขึ้นจะเป็นอย่างไร นี่คิดแบบสาธารณะเหมือนคนอื่นง่ายๆ คิดแค่คุ้มไม่คุ้มตามการตลาดเอาไว้ก่อน

แต่มุมดีก็คือคนระบบที่เกี่ยวข้องมีงานทำ เออ เอาเงินในกระเป๋าคนกลุ่มหนึ่งไปใส่กระเป๋าคนอีกกลุ่ม ทีนี้อยู่ที่คนที่เหลือจะปัญญาไปช้อนเงินที่เกิดจากการใช้จ่ายมาได้ไหม แต่เฮ้อ มันก็ไปโผล่ที่กิจการของยักษ์ใหญ่ที่คุมกิจการเรื่องของกินของใช้อีกแหละ     

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

ผมดูข้อมูลชุดเดียวกัน แต่เห็นไปคนละทางครับ

เอาเฉพาะรายที่มารับรถตามกำหนดก่อนก็ได้...ตีว่ามารับรถกัน90เปอร์เซ็นต์ เป็นจำนวนรถ9แสนคัน ไม่มีใครหมดกำลังจ่ายก่อน5ปี ไม่มีใครหนีไฟแนนซ์

ผมมองว่า9แสนคันนี้ เป็นกลุ่มที่เพิ่งทำงานมีเงินเดือน , พวกที่มีกำลังจ่ายเกือบๆจะพอ , ตะเกียกตะกายเอาจนพอฯลฯ ไม่น้อยกว่า7แสนคัน

7แสนคันนี้ ถ้าไม่มีเงินคืนภาษีของโครงการรถคันแรกมาถ่วงตาชั่งให้โลภ เขาจะใช้ชีวิตปกติ กิน ใช้ตามปกติของตัวเองไป แล้วก็ลังเลไปเรื่อยๆว่าพร้อมจะซื้อรถกันหรือยัง มีกำลังพอที่จะซื้อรถกันหรือยัง?
[/u]
ถ้าไม่มีโครงการนี้ เขาจะรอจนพร้อมแล้ว จึงจะซื้อ............

พอมีโครงการรถคันแรกมายั่วกิเลส ตาชั่งการตัดสินใจเลยเอียง คำตอบคือ"ซื้อไว้ก่อน"แล้วค่อยไปลุ้นเอาข้างหน้า

จากที่เคยได้ใช้ชีวิตปกติ ก็กลายมาใช้ชีวิตติดแหง็กอยู่กับค่างวดรถ

เม็ดเงินจำนวนเท่ากัน แต่ส่วนที่ผมมองต่างจากยายบาร์บคือแทนที่เงินก้อนมหาศาลนี้จะได้กระจายไปอยู่ในตลาด ไปเป็นการกิน ใช้ เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯตามปกติ มันกลับเทไปกระจุกอยู่กับอุตสาหกรรมยานยนต์และส่วนที่เกี่ยวข้องเพียงกลุ่มเดียว

ผู้ประกอบการรายย่อยหงอยแดร่ก......
คนซื้อก็ชีวิตติดแหง็ก จากที่เคยพอจะกินร้านดีๆได้สัปดาห์ละ2-3ครั้ง ซื้อของกลับไปฝากที่บ้านได้เดือนละ1-2ครั้งก็ต้องรัดเข็มขัดกันแอ้ก

คนที่โกยเนื้อๆคืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่

คนที่รอรับส้มคือคนที่มีกำลังรอสอยรถมือสองราคาถูก....ตอนนี้ไม่ต้องรอแล้ว รถใหม่จากโชว์รูมก็กระหน่ำออกแคมเปญทั้งลดทั้งแจกเพื่ออ้อนวอนขอกำลังซื้อจากคนกลุ่มนี้ให้เหลือบตาไปรองรับรถทิ้งจองที่ล้นจากโชว์รูมจนเช้าๆต้องขับมาเรียงกันเต็มฟุตบาทจนแทบจะต้องจอดซ้อนแถว2กันแล้ว

ส่วนตัวแล้วผมไม่สนใจ ใครจะซื้อก็ซื้อ ไม่ใช่เงินผม ไม่ใช่ญาติผม...ผมรอซื้อรถมือสองปีใหม่ๆ สภาพใหม่ๆเพราะไม่มีปัญญาเติมน้ำมันขับแบบไม่ต้องกดราคาก็ถวายมาถูกๆ

สบายใจจะตาย

ช่วงได้รถมา1-3เดือนแรก คึกคัก ออกเที่ยวแทบจะทุกเวลาที่ไปได้ เพลินเพลิน ทุกคนก็คงเคย มีรถยนต์ใหม่ๆเที่ยวมันส์ บางคนหลายเดือน บางคนเป็นปี (ค่าเที่ยวเดือนนึงเยอะเลย  มากกว่าค่าผ่อนรถซะอีก   )

คนกลุ่มที่พี่จ้าวว่า ผมไม่ได้ดูแคลนแต่อย่างใดนะครับ ขนาดปรับค่าแรงครั้งใหญ่แล้วต้นปีนี้  คนเคยได้ไม่ถึงหมื่น ก็ได้เกินหมื่นบาท ป.ตรีหมื่นห้า ตีไปว่าค่าแรงคนรุ่นใหม่หมื่นกว่าขึ้นไป

ที่ผมได้ยินได้ฟัง คนหนุ่มสาวจำนวนมาก อาจจะเป็นตัวเลขสมมุติที่พี่จ้าวว่า 7-8แสนคน (คนจบป.ตรีเมืองไทยราวๆปีละ2แสนคน)เงินเดือนหมื่นกว่าบาท แต่กล้าลุยออกรถที่มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนนับหมื่นบาท  แทบจะทั้งสำนักงาน 

คนกลุ่มนี้หลังจากได้เงินคืนภาษีมา6-8หมื่น มาต่ออายุ เอามาช่วยผ่อนรถ เติมน้ำมันได้อีกหลายหลายเดือน แล้วหลังจากนี้ละ

ผมเห็นอะไรแปลกๆมา2-3เดือนแล้ว ค้าขายซึมลงมาก ในรอบ2-3ปีมานี้ ไม่เคยเป็น

เงื่อนนี้ปมมันมัดแน่นมาก 5ปี "ห้ามขาย" แล้วทำไงล่ะครับพี่น้่อง ขนาดผมสมัยออกรถยนต์ รายได้ผมมากกว่าค่างวดรถหลายเท่า ผมยังคิดแล้วคิดอีก แต่นี่พวกคุณระเบิดพลีชีพกันเลย ไม่กินก็ได้ ขอแค่ได้่ออกรถ   

1.4ล้านคัน คนหนุ่มสาวนับล้านคน ที่เพิ่งเริ่มทำงานไม่กี่ปี เพิ่งตั้งตัว โอ้.....

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

ประเด็นของ น้าเบิ้ม กับพี่มอม  เนี่ยะ ฮา
ยาย "ไม่ค่อย"  กลัว หรอก อ่ะ ฮา

เพราะ กระบวนการคัดเลือก  มันผ่านการ "ซีเล็ค" มาแล้ว อ่ะ ฮา
สถาบันการเงิน รวมถึง ไฟแนนซ์  ผ่านการกรอง  "สถานะ" เบื้องต้นมาแล้วอ่ะ ฮา
รวมถึง มีการประเมิน ขีดความสามารถ  และ เครดิต บูโร มาแล้ว อ่ะ ฮา

พวกเด็กๆ  เหล่านี้  จะเติบโต  ในหน้าที่การงานต่อไป อ่ะ ฮา

ส่วนไอ้เรื่อง  ที่  คาดว่าจะเกิด  "แบ๊ด เด็บ" หนี้เสีย ฮา
ยายประเมินว่า 10 -  อ่ะ ฮา

ทำมัยเหรอ  ฮา
ก็ไอ้  "เครดิต บูโร"  มันจะตามไปหลอกหลอน ทั้งชาติ อ่ะ ฮา 

[SillyOldMan]

น่ากลัวกว่าที่คุณบาร์บคิดไว้เยอะเลยครับ

ตั้งแต่เมื่อ3ปีก่อนตอนที่สถานการณ์หนี้เสียของไทยยังจัดว่าดีมาก ไปเจอกรณีพนักงานโรงแรมกู้เงินซื้อกระบะมือสองจากธ.เกี** ไปเจอหลุมอากาศแม่แกต้องเข้าผ่าตัด ค้างชำระค่างวดแค่2งวด ธนาคารก็ส่งคนมาตามถึงที่ทำงาน ไปคุยที่ธนาคารกันรู้เรื่องว่าแกจะเบิกล่วงหน้าจากที่ทำงานมาจ่าย

ทางโรงแรมนายจ้างยอมให้เบิกแต่จ่ายเป็นเช็คมา เช็คลงวันที่เลยกำหนดที่แกนัดแค่ไม่กี่วัน(ไม่ถึงสัปดาห์) ฝ่ายยึดรถมาดักยึดรถถึงโรงแรมเลย บอกอะไรก็ไม่ฟังแจ้งว่าเป็นเรื่องของคนละแผนก

โทรไปโวยวายกับธนาคาร ทางโน้นก็ตอบกลับมาว่า"ทำอะไรไม่ได้แล้ว เป็นเรื่องของคนละแผนก"

สรุปว่ารถถูกเอาไปขายทอดตลาดเป็นมือ3 ส่วนต่างที่ขาดอีกแสนกว่าบาทธนาคารยื่นคำขาดมาให้พี่แกผ่อนชำระรวมดอกเบี้ยและค่าดำเนินการ


อีกแค่1-2ปี จะมีเรื่องทำนองนี้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว แล้วพวกจบใหม่-รายได้ปริ่มๆค่างวดจะโดนทั้งผ่อนลมค่าส่วนต่าง และค่าปรับเงินคืนภาษี.....ชีวิตบัดซบกันหนักกว่าเดิมอีก

[SillyOldMan]

ไว้ถึงเวลาที่เริ่มขลุกขลักกันหลายๆราย ฝ่ายเร่งรัดหนี้กับฝ่ายตามยึดทรัพย์ของธนาคารมันต้องเร่งทำยอด-เร่งเคลียร์รายชื่อในหางว่าวขึ้นมา

หน้าไหนก็ไม่ต้องหวังไปต่อรองหรือขอยืดเวลาด้วยหรอกครับ ธนาคารมันมองเป็นภาพใหญ่ทั้งระบบ ไม่มานั่งต่อรองด้วยทีละราย......ไม่ใช่ลูกหนี้กลุ่ม8หลักขึ้นไปเสียหน่อย

[dignitua-รักในหลวง]

ชีวิตบัดซบจริงๆตามที่พี่จ้าวกล่าว...

ฟอร์จูนเนอร์ค้างส่งอยู่สองเดือนกำลังเข้าเดือนที่สาม มีรถเก๋งหน้าดั่งมหาโจรจอดรถหน้าบ้านลงมายื่น Notice โดยใช้ปากกาเขียนใส่กระดาษ A4 พร้อมค่าปรับอีก 8,000 บาท..

ผมด่าพวกมันเลย เงินยังไม่มีจะผ่อนยังต้องมาเสียค่าทวงถามอีก มันเกินไปแล้ว จากนั้นก็ปะทะคารมกันซักพักพวกมันคนนึงทำท่าจะชักปืนออกมา ผมชักปืนรอเลย ตอนนั้นใช้ m.36 เล็งใส่พวกมัน พวกมันวิ่งหนีขึ้นรถเผ่นแน่บไปเลย...

ทีนี้จะถ่ายทอดวิธีแก้เผ็ดพวกทวงหนี้ให้ใครที่เจอนำไปใช้ครับ...

คือพวกทวงหนี้มันเป็นบริษัทที่มารับงานจากไฟแนนซ์อีกที เบิกเป็น job เงินที่เราโอนจ่ายไปให้ไฟแนนซ์+ ค่าทวงถาม เมื่อยอดเงินเข้าไฟแนนซ์แล้วพวกมันจึงสามารถไปเบิก "ยอดเงินส่วนต่าง" ได้...

ทีนี้เมื่อเราโอนเงินไป ไฟแนนซ์จะหักยอดของไฟแนนซ์ไปก่อน และเงื่อนไขที่พวกมันจะมายึดรถเราได้คือต้องค้างติดต่อกัน 3 เดือน...

ทำยังไงก็ได้ไม่ให้ยอดเงินค้างติดกัน 3 เดือน... 2 เดือนจ่าย 1 เดือน... และ ให้ "โอนไปเฉพาะค่างวด" อย่างเดียว ไม่ต้องเผื่อพวกทวงหนี้ ทางไฟแนนซ์ต้องการเพียงแค่ "ค่างวด" เท่านั้น...

ส่วนพวกบริษัททวงหนี้จะโกหกต่างๆนานาอะไรไม่ต้องสนใจ เพราะเมื่อเราโอนไปเฉพาะค่างวด ไฟแนนซ์จะเอาเงินก้อนนั้นเข้าไฟแนนซ์ก่อน "ไม่มีการหักให้พวกทวงหนี้ก่อนแล้วทำให้ยอดเงินเราค้างงวดไฟแนนซ์แต่อย่างใด..."

ทีนี้พวกทวงหนี้จะโทรมาขอร้องให้เราโอน เพราะพวกมันไม่ได้ตังค์ รถก็ยึดไม่ได้...

เมิงอยากได้ตังค์กรูค่อยไปคุยตอนกรูผ่อนหมด พร้อมโอนแล้วค่อยไปต่อรองราคาค่าทวงถามอีกที.... รอเงินกรูอีก 5 ปีเน้อ...

[เบิ้ม]

น่ากลัวกว่าที่คุณบาร์บคิดไว้เยอะเลยครับ

ตั้งแต่เมื่อ3ปีก่อนตอนที่สถานการณ์หนี้เสียของไทยยังจัดว่าดีมาก ไปเจอกรณีพนักงานโรงแรมกู้เงินซื้อกระบะมือสองจากธ.เกี** ไปเจอหลุมอากาศแม่แกต้องเข้าผ่าตัด ค้างชำระค่างวดแค่2งวด ธนาคารก็ส่งคนมาตามถึงที่ทำงาน ไปคุยที่ธนาคารกันรู้เรื่องว่าแกจะเบิกล่วงหน้าจากที่ทำงานมาจ่าย

ทางโรงแรมนายจ้างยอมให้เบิกแต่จ่ายเป็นเช็คมา เช็คลงวันที่เลยกำหนดที่แกนัดแค่ไม่กี่วัน(ไม่ถึงสัปดาห์) ฝ่ายยึดรถมาดักยึดรถถึงโรงแรมเลย บอกอะไรก็ไม่ฟังแจ้งว่าเป็นเรื่องของคนละแผนก

โทรไปโวยวายกับธนาคาร ทางโน้นก็ตอบกลับมาว่า"ทำอะไรไม่ได้แล้ว เป็นเรื่องของคนละแผนก"

สรุปว่ารถถูกเอาไปขายทอดตลาดเป็นมือ3 ส่วนต่างที่ขาดอีกแสนกว่าบาทธนาคารยื่นคำขาดมาให้พี่แกผ่อนชำระรวมดอกเบี้ยและค่าดำเนินการ


อีกแค่1-2ปี จะมีเรื่องทำนองนี้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว แล้วพวกจบใหม่-รายได้ปริ่มๆค่างวดจะโดนทั้งผ่อนลมค่าส่วนต่าง และค่าปรับเงินคืนภาษี.....ชีวิตบัดซบกันหนักกว่าเดิมอีก

ได้ยินแบบนั้นเหมือนกันครับพี่จ้าว 2-3เดือนพวกตามยึดเลย  เคยเห็นจอดติดไฟแดง พวกขับมาต่อท้าย ลงมาจากรถ เรานึกว่ามีเรื่องไรกัน  มันดึงแขนให้ลงจากรถเลย ยืนคุยไม่กี่คำ มันขับไปเลย 

[dignitua-รักในหลวง]

แต่ถ้าจนตรอกก็ต้องตัดใจ ตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต และรถไม่ใช่อวัยวะซักหน่อย..

[Udomkd]

น่ากลัวกว่าที่คุณบาร์บคิดไว้เยอะเลยครับ

ตั้งแต่เมื่อ3ปีก่อนตอนที่สถานการณ์หนี้เสียของไทยยังจัดว่าดีมาก ไปเจอกรณีพนักงานโรงแรมกู้เงินซื้อกระบะมือสองจากธ.เกี** ไปเจอหลุมอากาศแม่แกต้องเข้าผ่าตัด ค้างชำระค่างวดแค่2งวด ธนาคารก็ส่งคนมาตามถึงที่ทำงาน ไปคุยที่ธนาคารกันรู้เรื่องว่าแกจะเบิกล่วงหน้าจากที่ทำงานมาจ่าย

ทางโรงแรมนายจ้างยอมให้เบิกแต่จ่ายเป็นเช็คมา เช็คลงวันที่เลยกำหนดที่แกนัดแค่ไม่กี่วัน(ไม่ถึงสัปดาห์) ฝ่ายยึดรถมาดักยึดรถถึงโรงแรมเลย บอกอะไรก็ไม่ฟังแจ้งว่าเป็นเรื่องของคนละแผนก

โทรไปโวยวายกับธนาคาร ทางโน้นก็ตอบกลับมาว่า"ทำอะไรไม่ได้แล้ว เป็นเรื่องของคนละแผนก"

สรุปว่ารถถูกเอาไปขายทอดตลาดเป็นมือ3 ส่วนต่างที่ขาดอีกแสนกว่าบาทธนาคารยื่นคำขาดมาให้พี่แกผ่อนชำระรวมดอกเบี้ยและค่าดำเนินการ


อีกแค่1-2ปี จะมีเรื่องทำนองนี้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว แล้วพวกจบใหม่-รายได้ปริ่มๆค่างวดจะโดนทั้งผ่อนลมค่าส่วนต่าง และค่าปรับเงินคืนภาษี.....ชีวิตบัดซบกันหนักกว่าเดิมอีก

เสียวจัง...คันแรกของเรา มันจะมายึดเสียหรือเปล่า ไม่รุ๊

[SillyOldMan]

คันแรกของน้าเข้มพวกเหมางานยึดรถมันไม่กล้าแตะหรอกครับมันกลัวบาดทะยักกินตาย

ต้องระดับกรมศิลป์ฯโน่น ถึงอาจจะกล้ามาขอไปสถิตย์ในพิพิธภัณฑ์ 

[เบิ้ม]

คันแรกของน้าเข้มพวกเหมางานยึดรถมันไม่กล้าแตะหรอกครับมันกลัวบาดทะยักกินตาย

ต้องระดับกรมศิลป์ฯโน่น ถึงอาจจะกล้ามาขอไปสถิตย์ในพิพิธภัณฑ์ 

พี่จ้าวครับ นั่นมันอะดูดของพี่เข้ม  แกถล่มตัวไปงั้นแหละ  ล่าสุดเดือนก่อนภรรยาพี่เข้มเซ็นเช็คซื้อสดให้เรียบร้อย BMW X3

คนเคารพเชื่อฟังเมียนี้เจริญทุ๊กกกคน 

[SillyOldMan]

โอวววว อย่างนี้คุณเบิ้มต้องรีบมีเมียเป็นของตัวเองได้แล้วละครับ

ไม่เกินปีเดี๋ยวก็ได้ซื้อเบนซ์ML รวมเวลาหาเมียไปยันวันขับรถออกจากศูนย์ตรูว่าจะไวกว่านั่งเลือกคนเดียวอยู่ในเวบฯนี่อีก 

[Udomkd]

ทำท่าหันปากบอกมาทางนี้อีกแหละ

[กรรมกร]

ยังไงไฟแนนซ์ มันก็เป็นต่อ มันถือเล่มทะเบียนอยู่
จะจ่ายด้วยวิธีไหนอย่างไร เมื่อถึงงวดสุดท้าย ปิดบัญชี
นั่นล่ะ เป็นรองทุกประตู ยังไงก็ต้องจ่ายอยู่ดี ไม่ว่าจะเบี้ยปรับ ค่าทวงถาม โน่นนั่นนี่
นายทุนกินทุกประตู