ในสถานะการ์ณอย่างนี้ อย่างน้อย "ทหารหาญ" ของชาติก็ใช่ว่าจะล้มเหลวเสียทั้งหมด ต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ ....ลองอ่านข้อความข้างล่างดูครับ...ผมตัดตอนมาให้บางส่วน..

".....
" ดร.ปณิธาน วัฒนายากร " นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางทหาร จากรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว กลุ่มก่อความไม่สงบเริ่มปรับยุทธศาสตร์ โดยหันมาโจมตีภาคธุรกิจการค้าบ่อยครั้งยิ่งขึ้น
"เป้าหมายของพวกเขาก็คือโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของชุมชนที่มีความเข้มแข็งมากๆ ไม่ว่าจะเป็นยะลา หรือหาดใหญ่ เพราะเมื่อศูนย์กลางทางเศรษฐกิจล่มสลาย ชุมชนก็จะอยู่ไม่ได้ เนื่องจากชุมชนเองก็ต้องพึ่งพาภาคธุรกิจ เมื่อเกิดเหตุรุนแรงบ่อยครั้งเข้า ก็จะมีการอพยพย้ายถิ่นตามมา"
"ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทห้างร้านบางแห่งยังมีเครือข่ายอยู่ในกรุงเทพฯ รวมทั้งประเทศต่างๆ ทั่วโลก เมื่อบริษัทห้างร้านเหล่านี้ถูกโจมตี ย่อมทำให้ผู้คนตื่นตระหนก มีการรายงานข่าวอย่างกว้างขวาง และภายในเวลาไม่กี่นาทีข่าวก็กระจายไปทั่วโลก หากเขาโจมตีป้อมตำรวจ 1 ป้อม ข่าวอาจจะไม่กระจายมากนัก แต่ถ้าโจมตีแหล่งท่องเที่ยว ร้านกาแฟ หรือสถาบันการเงินที่เป็นสาขาของเมืองหลวงหรือของต่างประเทศ แล้วยิ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตด้วย ผลทางจิตวิทยามันจะสูงมาก ทำให้กลุ่มผู้ก่อการหันมาใช้ยุทธศาสตร์นี้บ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ" ดร.ปณิธาน ระบุ
ส่วนการเลือกโจมตีหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 16 กันยายน นั้น ดร.ปณิธาน มองว่า สาเหตุประการหนึ่งเป็นเพราะกำลังของตำรวจทหารในพื้นที่ถูกดึงไปใช้ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะในทางการข่าวเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อการจะเลือกก่อเหตุใน 3 จังหวัด ด้วยเหตุนี้พื้นที่หาดใหญ่จึงมีช่องโหว่ จุดตรวจมีน้อยกว่าปกติ และการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็ยากลำบาก เพราะเกรงจะเสียบรรยากาศการท่องเที่ยวที่เพิ่งฟื้น
ที่สำคัญปฏิบัติการครั้งนี้น่าจะเป็นการตอบโต้การเคลื่อนไหวของฝ่ายทหารที่เริ่มรณรงค์สร้างฐานมวลชนอย่างได้ผล โดยเฉพาะการดำเนินโครงการสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สามารถดึงอดีตแนวร่วมและกลุ่มเยาวชนมุสลิมมาร่วมมือแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธีกับภาครัฐได้หลายพันคน ซึ่งล่าสุดก็ได้จัดชุมนุมแสดงพลังกันไปเมื่อวันที่ 16 กันยายนเช่นกัน
"จุดนี้เชื่อว่าฝ่ายผู้ก่อการเองก็หวาดวิตก เพราะการรณรงค์ของฝ่ายทหารค่อนข้างสำเร็จ ที่สำคัญหลังจากนี้จะมีกองกำลังใหม่ๆ ลงไปในพื้นที่ โดยเฉพาะกองกำลังทหารพราน จึงเป็นการกดดันให้กลุ่มขบวนการต้องแสดงศักยภาพ เพื่อกดดันไม่ให้ประชาชนหันมาร่วมมือกับภาครัฐ ยิ่งฝ่ายทหารเลือกจัดงานใหญ่ในวันที่ถือเป็นวันสำคัญของพวกเขา ก็ยิ่งต้องตอบโต้รุนแรง" ยุทธศาสตร์ที่เคลื่อนไปข้างหน้าของกลุ่มก่อความไม่สงบ ท่ามกลางปัญหาความไร้เอกภาพของหน่วยงานภาครัฐ เป็นความจริงที่มิอาจปฏิเสธ และมันได้ส่งผลให้สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ วันนี้ ล่อแหลมเป็นอย่างยิ่ง! "
http://www.bangkokbiznews.com/2006/09/18/c004_138406.php?news_id=138406