เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 07, 2025, 05:41:55 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บทความจากเนชั่น ปิดตำนานอหังการ19ล้านเสียง ณ.วันที่ 19  (อ่าน 1302 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Colt Rampant
Full Member
***

คะแนน 21
ออฟไลน์

กระทู้: 435



« เมื่อ: กันยายน 20, 2006, 04:22:47 AM »

รายงาน..."นายกฯพลัดถิ่น" : ปิดตำนานอหังการ"ทักษิณ"
 
คงไม่มีใครคาดคิดว่าช่วงเวลาเพียง 11 วันที่ ทักษิณ ชินวัตร เลือกระเห็จออกนอกประเทศเพื่อไปร่วมประชุมระดับโลกหลายรายการ จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ถึงขั้นปิดตำนาน "ตาดูดาว เท้าติดดิน" ของนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ลงได้อย่างเบ็ดเสร็จ มีรายงานว่าเหตุผลที่ "ทักษิณ" เลือกเดินทางไปประชุมเป็นเวลานานถึงสองสัปดาห์ นับตั้งแต่ 9-21 กันยายนตามกำหนดการเดิมนั้น เป็นเพราะหวั่นเกรงการรัฐประหารซึ่งเริ่มดังถี่ขึ้นในระยะหลัง

โดยเฉพาะภายหลังจากการ "เปิดศึก" กับสถาบันทหาร อันเนื่องมาจากคดีคาร์บอมบ์ ที่พุ่งเป้าไปที่ทหารเป็นผู้บงการเบื้องหลัง มีการระบุความเกี่ยวโยงกับนายทหารหลายรุ่น โดยเฉพาะจปร. 7 และข่าววงในยังเชื่อมโยงไปถึง "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ที่ทักษิณและคนใกล้ชิดเชื่อมาตลอดว่าเป็นตัวการโค่นล้มทักษิณ และก่อความวุ่นวาย รวมถึงอยู่เบื้องหลังม็อบพันธมิตรเคลื่อนไหวขับไล่ทักษิณมาตลอด

แต่สุดท้ายความคืบหน้าคดีคาร์บอมบ์กลับคว้าน้ำเหลว ไม่สามารถจับตัวผู้กระทำผิดจริงๆได้จนแล้วจนรอด จนถึงเวลานี้ ที่สำคัญยังถูกสังคมมองว่าเป็นการ "สร้างสถานการณ์" ของฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐ เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการควบคุมสถานการณ์ และช่วงชิงคะแนนสงสารจากหมู่คนที่เป็นฐานคะแนนเสียงหลัก

หากยังจำได้ความคุกรุ่นของสถานการณ์นับตั้งแต่คดีคาร์บอมบ์ ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดขึ้นในหมู่คนใกล้ชิด จนถึงกับต้องออกมาให้สัมภาษณ์ "ดักทาง" ฝ่ายตรงข้ามไม่ให้คิดก่อการปฏิวัติ โดยนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ระหว่างที่ทักษิณยังอยู่ต่างประเทศ

ผลจากการออกมาให้ข่าวในเชิงปรามอย่างรู้ทันนี้ ได้ทำให้เกิดการออกมาตอบโต้อย่างชัดเจนเป็นครั้งแรกของ พล.อ.สนธิ บุญรัตนกลิน ผบ.ทบ. ทำนองว่าเรื่องนี้เป็นข่าวลวง ของผู้ที่ไม่ต้องการให้เกิดการปฏิวัติ "เป็นข่าวที่ออกมาเพื่อต้องการไม่ให้ทหารปฏิวัติ"

ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวของ "ทักษิณ" ที่ต่างประเทศก็มีรายงานเข้ามาเป็นระยะในเรื่องการเว้นวรรค ท่ามกลางการเฝ้าจับตามองของสังคม แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีความชัดเจนใดๆ กระทั่งล่าสุดเช้าวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมาจึงได้ความชัดเจนในระดับหนึ่งเป็นครั้งแรกว่า จะให้คำตอบในวันรับสมัครเลือกตั้ง ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมีการโยนหินถามทางเกิดขึ้น จากญาติสนิทที่ชื่อ สมชาย สุนทรวัฒน์ ว่าทักษิณจะเว้นวรรค 2 ปี และแคนดิเดตที่เหมาะสมจะเป็นนายกฯคนต่อไปนั้น ได้แก่ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ,พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ และนายสุรเกียรติ เสถียรไทย

แต่แล้วกระแสข่าวดังกล่าวก็ถูกปฏิเสธจากแกนนำพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะเป็น สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รวมทั้ง นพ.พรหมินทร์ ก่อนที่จะมาจบลงที่การยืนยันจากทักษิณในการให้สัมภาษณ์ผ่านนักข่าวของสำนักข่าวไทยที่ร่วมเดินทางไปด้วยว่าตนยังไม่ได้คิดเรื่องจะให้ใครเป็นนายกฯแทน และพูดในเชิงให้ตีความได้ว่าพร้อมที่จะเว้นวรรค

ไม่เพียงเท่านั้น ทักษิณยังสร้างกระแสเพื่อให้เกาะอยู่ในความสนใจของคนไทยแม้ว่าตัวเองจะไม่อยู่หลายวัน ด้วยการออกอากาศรายการสถานีสนามเป้า ทางช่อง 5 ถึงสามวันซ้อน โดยผู้ดำเนินรายการที่ชื่อ จักรพันธ์ ยมจินดา อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ทิ้งไว้ก่อนเดินทางไปคิวบา แต่ก็ไม่ได้แสดงความชัดเจนใดๆเรื่องการเว้นวรรค

ที่ฮือฮายิ่งไปกว่านั้นคือ "มุขตลกอินเตอร์" ที่ทักษิณจงใจส่งสัญญาณผ่านการพบปะกับผู้นำอาเซียน ด้วยการชวนตั้งพรรค "สุขนิยม" โดยยกให้นายกฯโคอิซูมิ แห่งญี่ปุ่นเป็นหัวหน้าพรรค และตัวเองจะรับเป็นเลขาธิการพรรค ทำให้มีการวิเคราะห์กันไปต่างๆนานาว่านี่อาจเป็นการหยั่งกระแส "เปิดทางถอย" ให้ปรากฏต่อสายตาชาวโลก

แต่ขณะเดียวกันทักษิณก็แสดงให้เห็นถึงความสับสนและลังเลของตัวเองอย่างชัดเจน เมื่อเขาประกาศว่าพรรคไทยรักไทยจะกลับมาชนะเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน และได้ยอมรับกับนักข่าวต่างชาติในการให้สัมภษณ์ประเด็นเรื่องการเว้นวรรคว่าเขายังสับสนกับชีวิต

เป็นที่น่าสังเกตว่าท่ามกลางสถานการณ์อึมครึม และความไม่มั่นใจต่อความปลอดภัยของตัวเอง ทำให้ทักษิณต้องเปลี่ยนกำหนดการบางช่วงอย่างกระทันหัน โดยให้เหตุผลว่าไม่สบาย นั่นคือจากเดิมที่มีกำหนดการกลับประเทศก่อนในช่วงแรก คือ วันที่ 12 กันยายน หลังจากเสร็จการประชุมอาเซมที่ประเทศฟินแลนด์ระหว่างวันที่ 9-11 กันยายน ก่อนจะเดินทางต่อเพื่อไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ที่ประเทศคิวบา และต่อด้วยการประชุมสหประชาชาติในวันที่ 14-21 กันยายน ก็เปลี่ยนเป็นอยู่ยาวตลอดสองสัปดาห์

ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ว่ากลัวการปฏิวัติรัฐประหาร อย่างไรก็ดีมีการประเมินกันว่าผลจากสถานการณ์ลอบวางระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่เมื่อวันเสาร์ที่ 16 กันยายน น่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ก่อให้เกิดการทำรัฐประหาร เนื่องจากบ้านเมืองไม่อยู่สถานการณ์ที่ควบคุมได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษิณไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าจะตัดสินใจเดินทางกลับประเทศทันทีเพื่อเข้ามาควบคุมสถานการณ์นี้ด้วยตัวเอง

บวกกับความหวั่นเกรงว่าสถานการณ์จะยิ่งลุกลามบานปลายอันเนื่องมาจากในวันรุ่งขึ้น 20 กันยายนเป็นวันที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนจะระดมพลพลครั้งใหญ่เพื่อขับไล่ทักษิณโดยไม่มีกำหนด และอาจเกิดการปะทะกับฝ่ายเชียร์ทักษิณที่ถูกเกณฑ์กันมาจากที่ต่างๆโดยแกนนำและส.ส.ของพรรค ที่ประกาศหนุนให้ทักษิณเป็นนายกฯต่อ ถึงขั้นตั้งเป้าล่ารายชื่อคนอิสานกว่า 10 ล้านคน มีการตั้งข้อสังเกตว่าสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความผิดปรกติชัดเจนอย่างหนึ่งนับตั้งแต่ช่วงเช้าของวันปิดตำนาน 19 กันยายน ก็คือการไม่ปรากฏภาพผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุมทางไกลกับทักษิณ

เพื่อประเมินสถานการณ์ลอบวางระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่ ด้วยติดภารกิจอยู่ก่อนแล้ว และนับจากเวลานั้นเรื่อยมากระแสข่าวหนาหูเรื่องการทำรัฐประหารก็เกิดขึ้นเป็นระยะตลอดทั้งวัน กระทั่งได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนในราว 18.00 น.ของวันที่ 19 กันยายน พร้อมกับมีรายงานว่าทักษิณกำลังอยู่ระหว่างเดินทางกลับเข้าประเทศ โดยจะถึงสนามบินเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 20 กันยายน ทั้งๆที่กำหนดการเดิมจะกลับถึงเมืองไทยเช้าวันที่ 21 กันยายนประมาณตี 5 ครึ่ง

รวมทั้งมีรายงานด้วยว่าหลังจากรับทราบทางโทรศัพท์จากนพ.พรหมินทร์ถึงการทำรัฐประหารที่ได้สำเร็จลงแล้ว พร้อมกับมีการประสานงานให้ทักษิณเปลี่ยนจุดลงเครื่องเป็นที่ประเทศฟิลิปปินส์แทนแล้ว ทักษิณก็ได้ติดต่อกลับเข้ามายัง มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เพื่อขอประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินผ่านทางช่อง 9 อสมท. น้ำเสียงละล่ำละลัก และสั่นเครือด้วยความรู้สึกกดดันเป็นระยะ ตลอดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อค่ำคืนทีผ่านมา จึงเป็นเสียงสุดท้ายที่คนไทยได้ยินจาก "นายกพลัดถิ่น" ส่งท้ายตำนานอหังการ "ทักษิณ" อย่างถาวร

เครดิต  ...เนชั่น แชแนล

บันทึกการเข้า

ถ้าใจไม่สู้เสียแล้ว ร้อยปืนพันปืนที่มีอยู่ในมือก็ไร้ประโยชน์
 
M 60 - 7 รักในหลวง
๗๗๖๙ "จับตาทุกความเคลื่อนไหว เฝ้าฟังทุกคำพูดของผู้คิดร้ายทำลายชาติ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1562
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2569



« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 20, 2006, 05:01:15 AM »

ขอบคุณมากครับ ที่นำบทความดีๆ มาให้อ่าน Grin
บันทึกการเข้า
joonjan
Hero Member
*****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1772

ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม


« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 20, 2006, 05:39:32 AM »

เซียนเหยียบเมฆ
บันทึกการเข้า

จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด               จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง      จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
รัตตรา
"อร่อย..อารมณ์"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 506
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6849


08-21491911 08-59591911


« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 20, 2006, 07:30:08 AM »

ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า


"จงคิดว่า มีใคร ได้มองอยู่...เฝ้ามองดู ตัวเรา อย่างเฝ้าจ้อง
ทำสิ่งใด รู้ได้ สายตามอง...อย่างน้อยต้อง รู้ละอาย ในหมายทำ"
Kimber
e21bmx
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 22
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1674



« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 20, 2006, 07:50:13 AM »

ลงตัวสักที ขอให้ประเทศไทยมีแต่ความสุขสงบ
บันทึกการเข้า

เรารักพระเจ้าอยู่หัว ... LONG LIVE THE KING

จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา

M 60 - 7 รักในหลวง
๗๗๖๙ "จับตาทุกความเคลื่อนไหว เฝ้าฟังทุกคำพูดของผู้คิดร้ายทำลายชาติ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1562
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2569



« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 20, 2006, 07:53:54 AM »

ลงตัวสักที ขอให้ประเทศไทยมีแต่ความสุขสงบ


ด้วยพระบารมีแผ่ไพศาล ปกป้อง คุ้มครอง ประเทศไทยของเราครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.069 วินาที กับ 20 คำสั่ง