....

....สาธุ..สาธุ...เป็นแค่ข่าวลือ....
กองทัพภาค 2 โต้กระแสข่าวลือ'ปฏิวัติซ้อน' กองทัพภาค 2 ปฏิเสธข่าวลือ "ปฏิวัติซ้อน" ย้ำไม่เคยมีความคิดแตกแยกกับ ผบ.ทบ.และ คณะปฏิรูปการปกครองฯ เผยสาเหตุที่ไม่ส่งกำลังพลและอาวุธยุทธโธปกรณ์เข้าร่วมเพราะ คปค.เข้ายึดอำนาจอย่างสันติ
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : (22 ก.ย.)ที่สโมสรร่วมเริงไชย กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา พล.ต.ธีระศักดิ์ ฤทธิวงศ์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พ.อ.คมสัน มานวกุล รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 และ พล.ต.พจน์ เหรียญมณี ผู้บัญชาการมลฑลทหารบกที่ 21 ได้เชิญสื่อมวลชน จ.นครราชสีมา ทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ ส่วนกลาง และส่วนท้องถิ่น ร่วมแถลงข่าว
ทั้งนี้เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น จากการปฏิรูปของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) จากการนำของ พล.อ.สนธิ บุญรัตนกลิน ผบ.ทบ.เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกัน
รวมทั้งเพื่อป้องกันการรับทราบข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนหรือไม่เป็นความจริง ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความไม่เข้าใจและเกิดความขัดแย้งในสังคมได้
ทั้งนี้หลังจากที่ พล.ต.ธีระศักดิ์ ได้ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการปฏิวัติของคณะปฏิรูปการปกครองแล้ว จึงเปิดโอกาสให้สื่อมวลชมร่วมตั้งคำถามที่สงสัยต่อการปฏิวัติฯพร้อมทั้งได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงและอุดมการณ์ให้ทราบอย่างชัดเจนอีกด้วย
รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการของคณะปฏิรูปการปกครองนั้น ส่วนใหญ่เป็นการดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยจะมีกำลังพลจากหน่วยทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 3 เป็นหลัก
แต่ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 จะเป็นการเตรียมพร้อมในที่ตั้ง และรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับตำรวจ และฝ่ายปกครอง
โดยมีการตั้งจุดตรวจในหลายพื้นที่ เช่น จ.นครราชสีมา ได้ตั้งจุดตรวจบริเวณสี่แยกอวยชัย อ.ปักธงชัย และบริเวณท่าอากาศยาน จ.นครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ตรวจดูความสงบเรียบร้อยในสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งอาจจะกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพของประชาชนบ้าง
ทั้งนี้ เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และเพื่อให้ประชาชนได้ดำเนินชีวิตให้เป็นไปตามปกติสุขตามที่เคยปฏิบัติมา โดยจะดำเนินการให้มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุด
จากสถานการณ์บ้านเมือง และเหตุผลความจำเป็นของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตตริย์ทรงเป็นประมุข กองทัพภาคที่ 2 และกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 จึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนง ได้ช่วยประชาสัมพันธ์ และนำเสนอข่าวให้ตรงกับข้อเท็จจริง ถูกต้อง สร้างสรรค์ เป็นกลาง ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างกว้างขวาง
โดยยึดถือผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นสำคัญ รวมทั้งขอให้ติดตามข่าวสาร ประกาศและแถลงการณ์ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อนำเสนอข่าวสารในลักษณะสร้างสรรค์และเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองต่อไป สำหรับการนำเสนอข้อความในลักษณะที่เป็นข้อคิดเห็นข่าวลือหรือทั้งที่ไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน ขอให้หลีกเลี่ยงการนำเสนอด้วย
รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่มีกระแสข่าวเมื่อคืนนี้ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา มีกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 ได้เคลื่อนพลเข้าไปกรุงเทพฯ เพื่อร่วมปฏิวัตินั้นว่า ตนขอยืนยัน และไม่เคยบิดเบือนทุกเรื่องที่กล่าวมา โดยกำลังพลทหารที่เดินทางเมื่อคืนนี้ เป็นกำลังพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้กลับมาพักก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ปฏิรูปการปกครองฯ
ขณะเดียวกันก็เป็นวันครบกำหนดที่กำลังทหารจะต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่อที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยเป็นกำลังพลทหารของ ร.16 พัน 2 ค่ายบดินทร์เดชา จ.ยโสธร และ ระหว่างที่ทหารดังกล่าวได้เช่าเหมารถเดินทางมาถึงด่านตรวจที่ จ.นครราชสีมา กองทัพภาคที่ 2 เกรงว่าจะเกิดข่าวไม่ดีขึ้น จึงได้สั่งให้ทหารดังกล่าวเข้ามาพักภายในกองทัพภาคที่ 2 ก่อนและให้เดินทางต่อเมื่อเช้านี้ (22 ก.ย.) ในเวลา 05.00 น.
" ยืนยันว่าไม่ใช่กำลังพลที่จะเดินทางไปร่วมก่อการปฏิวัติที่กรุงเทพฯ แต่อย่างใด "
ส่วนกระแสข่าวลือที่ว่า กองทัพภาคที่ 2 มีความขัดแย้งและ แบ่งเป็น 2 ฝ่ายนั้นขอยืนยันอีกว่า กองทัพภาคที่ 2 มีความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีความแตกแยก ปฏิบัติหน้าที่อย่างสง่างาม และ ข่าวลือเรื่องการปฏิวัติซ้อนนั้น ตนก็ขอยืนยันอีกว่าไม่เป็นความจริง กองทัพภาคที่ 2 มีแต่ความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวและเป็นกองทัพแรกของโลกที่สามารถเอาชนะคอมมิวนิสต์ได้ และจะไม่มีการปฏิวัติซ้อนอย่างเด็ดขาด
"การปฏิวัติเมื่อครั้งก่อน ทหารจากกองทัพภาคที่ 2 ได้เข้าไปสมทบ เนื่องจากว่าการปฏิวัติครั้งแรกในครั้งนั้นไม่สำเร็จจึงต้องให้กองทัพภาคที่ 2 เข้าไปสนับสนุน แต่ครั้งนี้การเข้ายึดอำนาจของรัฐบาลของคณะปฏิรูปการปกครองฯ ทำได้สำเร็จจึงไม่มีความจำเป็นที่กองทัพภาคที่ 2 จะต้องนำกำลังพลหรือรถถัง และอาวุธยุทธโธปกรณ์เข้าไปสนับสนุนแต่อย่างใด ขอให้ทราบโดยทั่วกัน และทหารของกองทัพภาคที่ 2 จะไม่มีแนวคิดที่แตกแยกจาก ผบ.ทบ.และ คณะปฏิรูปการปกครองฯแต่อย่างใด" รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com/2006/09/22/w001_139999_report.php?news_id=139999