ได้ใช้งานดอนเมืองวันสุดท้ายเช่นกันครับ
บรรยากาศช่วงเย็นดูเหงาๆ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะฝนตกหรือคิดไปเอง
ผมก็เช่นกันครับ ไปรับหลานที่กลับจากญี่ปุ่น ตีห้าวันที่ 27 แต่ไม่ได้สัมผัสบรรยากาศความเหงาอย่างคุณทัดมาลาครับ เพราะรถแท็กซี่จอดเต็มพรึดไปหมด เค้ารออยู่ช่วงต้นของอาคาร 1 แต่รถแท็กซี่เยอะมาก จอดซ้อนกันออกมาหลายชั้นจนเหลือให้รถวิ่งผ่านได้แค่เลนเดียว ผมต้องขับเลยไปถึงสุดอาคาร 1 แล้วให้คุณแม่กับหลานอีกคนเดินหา ตัวเองก็อยู่ที่รถด้วยอาจต้องเลื่อนรถ
ไหนๆคุณ AOT ก็เป็นคนของสนามบินเลยฝากข้อคิดเห็นอีกข้อครับ อาจจะไม่อยู่ในส่วนที่ท่านรับผิดชอบแต่เผื่อฝากต่อๆไปได้น่ะครับ
ก็คือเรื่องแท็กซี่น่ะครับ จากประสบการณ์ที่ดอนเมือง ทุกครั้งที่ผมกลับจากต่างประเทศ ถ้ากลับเองและเพื่อที่จะไม่ต้องเดินไกลก็มักจะเรียกแท็กซี่จากคิวหน้าอาคารเลย (แท็กซี่ธรรมดาที่จอดรอ ไม่ใช่ลีมูซีน) เราต้องซื้อคูปองที่เค้าเตอร์ก่อน ถ้าจำไม่ผิดก็ 50 บาท ประเด็นไม่ใช่จะบ่น 50 บาทนี้หรอกนะครับ เพราะถ้า 50 บาทนี้กลับเข้าไปในหน่วยงานก็จะใช้เป็นค่าบริหารจัดการในสนามบินได้ ยินดีเสียให้ครับ แต่มันมาอยู่ที่สภาพรถแต่ละคันสิครับ แต่ละคันวิ่งออกมาบนถนนนี่ชิ้นส่วนจะหลุดมีหลุดแหล่ เสียงดังแอ๊ดๆเอี๊ยดๆแคร้งๆๆๆ ส่วนแท็กซี่ที่สภาพดีๆ(ซึ่งไม่ได้เข้า ก. เค้า .. กลุ่มนะครับ อย่าเข้าใจเป็นอื่น ฮ่าๆๆ) ก็ไปจอดรออย่างผิดกฎจราจรสร้างความเดือดร้อนให้รถราติดขัดอยู่ด้านนอก 50 บาทที่เราจ่ายไป ส่วนหนึ่งน่าจะสะท้อนกลับมาให้ผู้โดยสารให้รูปแบบของการคัดเฟ้นหรือแม้แต่ตรวจประวัติคนขับรถให้ผู้โดยสารได้รถและพลขับที่ดี อีกอันหนึ่งคือรัฐบาลพูดนักพูดหนาว่าสนามบินเป็นประตูบานแรกของประเทศสำหรับนักท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวมาเจอแบบนี้จะลดทอนชื่อเสียงของเราลงนะครับ ผมเคยฝากบอกญาติที่รู้จักกับนักการเมืองของกระทรวงคมนาคม ญาติบอกว่า บอกพี่เค้าคงไม่เกี่ยว เพราะเค้าไม่ได้ดูสนามบิน อ้าววววว งั้นผมฝากไว้ที่พี่ AOT แทนแล้วกันครับ เนื้อหาเหมือนบ่น แต่ไม่ได้ว่าพี่นะครับ ฮ่าๆๆ
พี่ AOT ครับ ตราบใดที่ ITALIAN THAI ยังดูแลงานสนามบินอยู่และถ้ามีปัญหาด้านไฟฟ้า หากพี่ต้องการเรียกใช้แบบลัดด่วน ไม่ต้องผ่านขั้นตอนให้เสียเวลา พี่โทรหาเพื่อนผมได้เลยครับ นายคนนี้แหละครับที่โดนตามตัวตอนตีห้าให้ไปจัดการเรื่องที่มีคนไปสับเบรคเกอร์จนเป็นข่าวครึกโครมนั่นแหละครับ เห็นมันบอกสงสารวิศวกรคนนั้นเอามากๆ ผมจะPMเบอร์มือถือเค้าไปให้ครับ