
ได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกับผู้รู้ครับท่านใจดีมากให้คำแนะนำ + หนังสือ มาอ่านดูเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับทุกคนในเว็ป ครับเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่ออ่านจบแล้วผมคิดว่าหลายท่านของคงหายสงสัยลงไปในระดับหนึ่งครับ เกี่ยวกับการพกปืนที่ไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนตัวผมเห็นว่า อยู่ที่การปฏิบัติของแต่ละบุคคลครับ ไม่ใช่ทั้งหมดครับ

(ขอยำว่าไม่ใช่ทั้งหมดครับ)

ในทุกสังคม ทุกสาขาอาชีพ มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป

ปล. ผิดถูกประการใดรบกวนผู้รู้ช่วยแก้ไขเพิ่มให้ด้วนะครับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเนือจากกฎหมายต่างๆ แล้วยังมีระเบียบที่ควบคุมการการปฏิบัติหน้าที่อยู่ 2 อย่าง คือ
1.ระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดี (เกี่ยวกับการ ตรวจค้น ,จับกุม ฯลฯ)
2.ระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี (เครื่องแต่งกาย,ระเบียบวินัย,การพกพาอาวุธ ฯลฯ)
การพกพาอาวุธปืนของข้าราชการตำรวจนั้นมีระบุไว้ในประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี เล่ม 2 ตอน 1 ประเภทบริหาร ลักษณะที่ 22 การแต่งเครื่องแบบ

( ดูรายละเอียดกันเลยครับ )

*******************************************************************************************
บทที่ 13
การพกพาอาวุธปืน ดาบปลายปืน และตะบอง
ข้อ 1 ห้ามมิให้ข้าราชการตำรวจซึ่งแต่งเครื่องแบบก็ดี หรือมิได้แต่งเครื่องแบบก็ดี หรือที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการต่างๆ โดยทั่วไป พกหรือพาอาวุธปืนไปในถนนหลวง ทางหลวง หรือในที่สาธารณสถาน เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
1. หน่วยตำรวจรักษษการณืที่เตรียมตัวอยู่กับที่เป็นหมวดหมู่เพื่อป้องกันและปราบปรามเหตุการณ์โจรผู้ร้าย
2. ตำรวจสายตรวจ ตำรวจมราปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจร
3. หน่วยตำรวจซึ่งได้รับคำสั่งให้ไปตรวจ หรือรักษาเหตุการณ์แรมคืน
4. ตำรวจที่ประจำตู้ยามหรือด่านตรวจ
5. ตำรวจที่ทำหน้าที่อารักขาบุคคลหรือเป็นยามสถานที่สำคัญ ซึ่งทางราชการสั่งให้มีอาวุธปืนติดตัวได้
6. ตำรวจซึ่งทำหน้าที่ควบคุมเงิน
7. ตำรวจผู้ควบคุมผู้ต้องหา หรือจำเลย หรือผู้ต้องหา เดินทางไปส่ง ณ ที่ใดๆ ซึ่งเป็นทางไกลหรือทางเปลี่ยวอันจำเป็นต้องมีอาวุธควบคุมอย่างเข้มแข็ง และหัวหน้าหน่วยงานที่จัดตำรวจควบคุมไปนั้นสั่งให้ตำรวจผู้ควบคุมมีอาวุธปืนไปในการนั้น
8. เมื่อมีกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต้องปราบปรามเหตุการณ์ด้วยการใช้อาวุธให้ตำรวจพกอาวุธปืนเคลื่อนที่ไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ต้องมีหัวหน้าเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรคุมไป ถ้าไม่มีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรที่จะจัดให้ควบคุมไปได้ จึงให้จัดนายตำรวจชั้นประทวนถัดๆ ลงมาไปเป็นผู้ควบคุม
9. ตำรวจที่ทำการฝึกซึ่งต้องใช้อาวุธปืนตามระเบียบที่ว่าด้วยการฝึก
10. ตำรวจที่จัดเป็นกองหมวดหรือหมู่เกียรติยศตามระเบียบที่ว่าด้วยการจัดแถวเกียรติยศ
11. ตำรวจซึ่งทำหน้าที่นำอาวุธปืนของหลวงหรือของกลางส่งยังที่ต่างๆ ในกรณีนี้ต้องบรรจุอาวุธปืนนั้นในหีบหรือห่ออย่างเรียบร้อย
12. กรณีพิเศษอื่นๆ ที่ผู้บังคับบัญชาตำรวจตั้งแต่ชั้นผ็กำกับการขึ้นไป สั่งให้พกอาวุธปืนไปได้
ข้อยกเว้นเหล่านี้ เมื่อเสร็จกิจที่จำต้องพกหรือพาอาวุธปืนไปในการนั้นแล้วตำรวจที่มีอาวุธปืนเหล่านั้น ต้องรีบกลับหน่วยที่ตั้งโดยเร็ว ห้ามพกหรือพาอาวุธปืนแวะเวียนไปในที่อื่นใดอีก
ข้อ 2 ในเขตพระราชฐาน เขตทหาร ในศาล ห้ามมิให้พกอาวุธปืนเข้าไป
ข้อ 3 ตำรวจที่รักษาการณ์โดยทั่วไป นอกจากกรณีที่ยกเว้นไว้ตอนต้นนั้นให้ใช้อาวุธดังนี้
1. ตำรวจนครบาลให้ใช้ตะบองตามแบบของกรมตำรวจ
2. ตำรวจภูธร ให้ใช้ดาบปลายปืนของหลวง
ข้อ 4 ตำรวจที่เดินทางจากต่างจังหวัดหรือต่างท้องที่ โดยพกอาวุธปืนสำหรับตัวไปด้วย ให้รีบนำอาวุธปืนและกระสุนทั้งของหลวงและของส่วนตัวไปฝากไว้ที่สถานีตำรวจเจ้าของท้องที่นั้นๆ เว้นแต่การเดินทางผ่านโดยไม่พักค้างคืน
การฝากอาวุธตามวรรคต้นั้น ไม่บังคับแก่ตำรวจชั้นจ่าสิบตำรวจขึ้นไป
การฝากและรับอาวุธปืนคืน ให้ปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการนั้น
ข้อ 5 ตำรวจตั้งแต่ชั้นจ่าสิบตำรวจขึ้นไป ซึ่งแต่งเครื่องแบบและปฏิบัติราชการอื่นนอกจากกรณียกเว้นข้างต้น จะพกอาวุธปืนติดตัวไปด้วยก็ได้ แต่ต้องพกพาไปโดยมิดชิดจนผู้อื่นไม่อาจรู้ได้ง่ายว่ามีอาวุธปืนติดตัวอยู่ เช่น บรรจุไว้ในกระเป๋าเอกสาร เป็นต้น
ข้อ 6 ข้าราชการตำรวจที่มีความจำเป็นต้องพกอาวุธปืนติดตัวไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการไม่ว่าอาวุธปืนนั้นจะเป็นอาวุธปืนส่วนตัวหรือของทางราชการ จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาชั้นสารวัตร สารวัตรใหญ่ หรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไปก่อน การอนุญาตดังกล่าวต้องทำเป็นหนังสือตามแบบแนบท้ายระเบียบนี้ โดยมอบให้กับผู้รับอนุญาตนำพกติดตัวไป การอนุญาตให้อยู่ในดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา ผู้อนุญาตว่าควรจะให้พกภายในกำหนดกี่วันแต่ทั้งนี้การอนุญาตครั้งหนึ่งจะต้องไม่เกิน 6 เดือน
สำหรับตำรวจผู้มีอำนาจอนุญาตดังกล่าวมาแล้ว และตำรวจชั้นร้อยตำรวจเอกขึ้นไป ถ้าจะต้องปฏิบัติราชการและมีความจำเป็นต้องพกอาวุธปืนติดตัวไปด้วย ถือว่าอยู่ในภาวะรู้ควรมิควรเป็นอย่างดีแล้ว ไม่ต้องขออนุญาตผู้ใด เว้นแต่ให้นำบัตรประจำตัวติดตัวไปด้วยเพื่อแสดงเมื่อจำเป็นเท่านั้น
ข้อ 7 ในกรณีที่พกอาวุธปืนได้ตามระเบียบที่กล่าวแล้ว ให้ข้าราชการตำรวจถือปฏิบัติในการพกปืนดังกล่าวดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีแต่งเครื่องแบบตำรวจ
ก. ขณะอยู่ในแถว ควบคุมแถว ไปราชการ ให้พกโดยใช้ซองปืนหนังสีน้ำตาลร้อยเข็มขัดไว้ทางขวา
ข.ในโอกาสลำลอง ให้พกพาไปในลักษณะซ่อนเร้นอย่างมิดชิดจนไม่สามารถอาจสังเกตเห็นได้ง่าย
ค. ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่จราจร ตำรวจที่มียศตั้งแต่สิบตำรวจเอกลงให้พกโดยใช้ซองปืนหนังสีขาวร้อยเข็มขัดไว้ทางขวา ตามที่กองพลาธิการจัดหามาจ่ายให้ใช้ราชการ
(2) ในกรณีที่มิได้แต่งเครื่องแบ ให้พกพาไปโดยมิดชิด จนไม่อาจสังเกตเห็นได้ง่าย เช่น บรรจุไว้ในกระเป๋าเอกสาร เป็นต้น
ข้อควรระวังในการพกอาวุธปืนนั้นมีหลักอยู่ว่า ต้องให้มิดชิดและเรียบร้อยทั้งต้องให้เป็นการเหมาะสมกับกาลเทศะด้วย อย่าพกปืนในทำนองที่ทำให้ประชาชนได้รับความกระทบกระเทือนใจเมื่อได้พบเห็น เช่น ไม่สวมเครื่องแบบ แต่เหน็บปืนไว้ทีสะเอวบ้าง ข้างหลังบ้าง หรือใส่กระเป๋ากางเกงปล่อยด้ามปืนโผล่ออกมาให้เห็นบ้าง เป็นต้น
นอกจากที่กล่าวข้างต้น ข้าราชการตำรวจที่พกพาอาวุธปืน จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืนโดยเคร่งครัด หากฝ่าฝืนย่อมเป็นความผิดทางวินัย และอาจถูกดำเนินคดีได้
ข้อ 8 การใช้ดาบปลายปืนหรือตะบอง เมื่อแต่งเครื่องแบบตำรวจนั้น ให้ใส่ในซองดาบปลายปืน หรือซองตะบองที่ทางราชการจ่ายให้ โดยสอดซองนั้นไว้ในเข็มขัดบริเวณสะเอวข้างซ้าย
ข้อ 9 ตำรวจที่ได้รับจ่ายดาบปลายปืน ให้คาดดาบปลายปืนประกอบเครื่องแบบได้เฉพาะในโอกาสที่ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ชั้นสารวัตร สารวัตรใหญ่ หรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไปสั่งให้คาดเพื่อปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการปราบปรามโจรผู้ร้าย หรือในโอกาสอื่นที่ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ชั้นสารวัตร สารวัตรใหญ่ หรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไปสั่งให้คาดได้เท่านั้น นอกจากนี้ห้ามคาดดาบปลายปืน ยิ่งเป็นโอกาสที่มิได้แต่งเครื่องแบบแล้ว ห้ามคาดเด็ดขาด