เมื่อก่อนๆนานมาแล้ว
บรรพบุรุษของเรา มีแนวความคิดและวิธีการดีๆที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
เพราะท่านไม่ฝืนธรรมชาติ
ท่านรู้ว่าบ้านเมืองเราอยู่ในเขตมรสุม และเป็นที่ลุ่ม เมื่อถึงเวลา(ฤดูฝน) น้ำก็จะมา
บรรพบุรุษเราเตรียมการณ์อย่างไรบ้าง
ท่านสร้างบ้านเรือนแบบเสาสูง หรือใต้ทุนสูง เพราะอย่างไรน้ำจะต้องมาอยู่แล้ว ท่วมได้ท่วมไป ก็อยู่บนบ้านถึงเวลามันก็ลดของมันเอง ท่านมีเรือไว้เดินทาง
มาปัจจุบัน ลูกหลานของท่าน ถมทางน้ำธรรมชาติ สร้างบ้านอยู่กับพื้น บางที่ไม่ต้องถึงฤดูฝน แค่ฝนตกเฉยๆ น้ำก็เข้าบ้านแล้ว
(แล้วมาร้องโวยวาย ให้คนอื่นมาช่วยเหลือ ว่าลำบากน้ำท่วม
อาหาร เมื่อถึงเวลาก่อนที่จะถึงฤดูน้ำหลาก บรรพบุรุษเราเขาจะเตรียมอาหารที่จำเป็นจริงๆ พวกข้าวสาร พริกเกลือ เชื้อเพลิง พร้อมที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอให้คนอื่นมาช่วย
ลูกหลานท่านเดี๋ยวนี้ กูไม่สนใจ น้ำท่วมขึ้นมา กูโวยวายลูกเดียว มาช่วยกูด้วยโว้ย (แม่งไปใหนกันหมดถึงไม่มาช่วยกู กูไม่มีอะไรจะกิน กูลำบาก แม่งไอ้ผู้แทนไปอยู่ใหน ผู้ว่าทำไมไม่มา อื่นๆฯลฯ อีกมากมายที่จะขุดขึ้นมาด่า)
ต้องขอโทษ (วมต.)ที่ใช้คำหยาบ แต่จริงๆคนพูดคงจะหยาบกว่านี้แน่
เขาคงจะลืมคิดไปว่า ตัวเองออกไปใหนไม่ได้ แล้วคนอื่นที่จะเข้ามา เขาก็เข้ามาลำบาก
เตรียมไว้ครับ อย่าไปหวังที่จะรอให้คนอื่นเขามาช่วย ช่วยตัวเองไว้ก่อน แล้วเราจะปลอดภัย ระดับหนึ่ง

