สวัสดีค่ะ
ขอโทษนะคะคุณ Jeff cooper เป็นใครหรือคะ
ขอรับกระผม...กระผมเต๋า บางเขน จะขอเล่าให้ฟังครับ ....เอาย่อๆ แล้วกันนะครับ
เขาเกิดในปี1920 เป็นอเมริกันเต็มตัว ..... ตามที่ภาพข้างบนกระทู้เล่าให้ฟัง ประวัติทั่วไปตอนเด็กๆ ไม่ทราบ ทราบแต่ว่าเขาก็ชอบปืนตามปกติเหมือนพวกเรากระมัง
...ช่วง 1942-1945 เป็นช่วงมหาสงครามโลกครั้งที่สอง เจฟ คูเปอร์ ได้มีโอกาสเข้ารับใช้
ชาติของเขาด้วยการเข้าเป็นทหารนาวิกโยธินสหรัฐ (มารีน) ในช่วงเข้าสงครามใหม่ๆ เขาก็เหมือนนักเล่นปืนที่เข้าเป็นทหารทั่วไป เขาก็เชื่อนักเขียนระดับอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล
แห่งอเมริกาคือ เอเมอร์ คีน ที่บอกว่า ปืนคาวบอย เป็นปืนที่ยิงนัดแรกได้เร็วที่สุด
เขาก็พกปืนคาวบอย ไปรบด้วย
....เจฟ คูเปอร์ ถูกส่งไปรบในสงครามแถบเอเซียแปซิฟิก ก็คือรบกับ พี่โกโบริ ที่คนไทยว่าดีหนักหนา เป็นลูกผู้ชายเต็มตัว สุภาพบุรุษ ..แต่ลองไปถามสาวเกาหลีที่ถูกจับอยู่ในค่ายพี่โกโบริที่เกาหลีตอนสงครามโลกครั้งที่สองดูซิครับ.....เธอเล่าว่า ...เธอต้องรับผิดชอบพี่โกโบริ วันละ 30 นายต่อวัน......อย่าพูดต่อเลย
....เจฟ คูเปอร์ ได้เอาปืนคาวบอย ยิงพี่โกโบริ ตายไปเหมือนกัน แต่จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตาเจฟ คูเปอร์แกบอกว่า ไอ้ปืน เอ็ม 1911 .45 ออโต ที่หลวง(สหรัฐ)แจกมาเนี่ย มันยิงทหารโกโบริ ตายได้ดีกว่า แกก็ใช้ไปเรื่อยจนสิ้นสงคราม ....รอดตายจากพี่โกโบริ ก็กลับไปสู่มาตุภูมิ ยูเอสเอ......
....ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มาซักหน่อย ช่วงที่มีสงครามน้ำแข็ง(เย็น)ในภูมิภาคเอเชีย เกี่ยวกับค่ายโลกเสรี กับ คอมมิวนิตส์ คุณปู่ คูเปอร์ ได้มีโอกาสมารับใช้ พวก ซีไอเอ ในสยามประเทศของเราด้วย เคยมายิงคนตายในแถบทางเหนือของสยามเราด้วย ...แต่แกไม่เขียนเล่าเรื่องด้วยตนเอง แกเล่าให้ลูกสาวแกฟัง แล้วลูกสาวแกเอามาเล่าต่อว่า คุณพ่อเคยมาเมืองไทย แล้วมาทำงาน แล้วมายิงคนตาย(ในหน้าที่ของราชการสหรัฐ) แล้วก็ใช้เจ้า เอ็ม 1911 นี่แหละในการปฏิบัติการ
....หลังจากนั้น ก็กลับไปยูเอสเอ ....ไม่รู้แกไปทำอะไรต่อ
....รู้แต่ว่า แกได้เอาประสบการณ์ในการรบของแก ไปถ่ายทอด เป็นครูสอนยิงปืนแบบคอมแบ็ท คือ การยิงแบบการยิงกันจริงๆ ในสงคราม ไม่ใช้เข้าช่องยิง ยกปืนขึ้น หลับตาซ้าย ลืมตาขวา กลั้นหายใจ บีบไกปืนช้าๆ ....อะไรทำนองนั้น แกเป็นต้นตำหรับ เปิดโรงเรียนแบบ วิ่งไป ยิงไป กระโดดไป หมุดไปยิงไป กลิ้งไป ยิงไป นอนไปยิงไป ยิงๆไป ให้มันถูกเป็นใช้ได้
...แกสอนอยู่หลายปี และปืนที่แก แนะนำให้ใช้ในสถาบันฝึกของแกก็คือ ปืน สิบเอ็ด มม.
สิบเบ็ด มม. .45 ออโต .45 เอซีพี(ที่กล่าวมาคือกระสุนขนาดเดียวกันหมด) ของรุ่น เอ็ม 1911 นี่แหละครับ
....ในวงการปืนในสหรัฐ เขายอมรับว่า คุณปู่ คูเปอร์นี่แหละ เป็นตัวเชียร์ลีดเดอร์ มี่ส่วนช่วยให้ ปืน เอ็ม 1911 โด่งดังขึ้นในวงการอาวุธปืนของสหรัฐ มีการเอาปืนออโต มาใช้แทนปืนลูกโม่ในกิจการตำรวจ ....ซึ่งสมัยก่อน อเมริกัน ก็ฝังหัวเหมือนคนไทยในยุคหนึ่งนั่นแหละว่า ถ้าจะยิงกันจริงๆ ละก็ ลูกโม่เจ๋งกว่า
....แต่คุณปู่ คูเปอร์นี่แหละ เป็นตัวเชียร์ ให้ 1911 ดังขึ้นมา ในฐานะปืนใช้งาน ต่อสู้ได้ด้วยนอกเหนือจาก เป็นปืนในกิจการทหารแล้ว...... คุณปู่สามารถแสดงให้เห็นว่า 1911 ยิงได้ดี เร็ว แจ๋ว ไม่แพ้ลูกโม่เลย ..
......มาถึงวันนี้ คุณปู่เสียชีวิตแล้ว ในฐานะผม คนบ้า 1911 ขอไว้อาลัยแด่คุณปู่ด้วยครับ
......เล่าให้ฟังเป็นภาษาไทยคร่าวๆ แบบนี้ คงพอเข้าใจนะครับ ว่า ทำไม เราต้องไปไว้อาลัยกับตาแก่อเมริกันคนนี้ด้วย ........