ยายช่วยวิเคราะห์
เอาแบบเป็นเรื่องเป็นราวให้ฟังหน่อย ครับ
ผมละมึนตึ๊บ
สงสัยว่าเขาใช้นิ้วหัวแม่ตีนข้างไหนคิด
ถ้าโชติช่วงชัตวาลจริง ผมจะได้ตัดสินใน
โค่นยาง ตามที่ รม.(ช่วย)ตวย หัวคีเขาแนะนำ
แล้วหันมาปลูกกระท่อม ตามที่ท่านรัฐมนตวยฯแนะนำครับ
Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" ครูหมู อ่ะ ฮา
เรื่อง "กระท่อม" ปลายนา หลังนี้ยังคอยเจ้า ฮา
ยายเห็นตั้งแต่เด็ก ข้างบ้านไม่รู้ใครปลูกเอาไว้ อ่ะ ฮา
ที่บ้านทำโรงสี มีคนเอามาขายให้กรรมกร อ่ะ ฮา
เขาเรียงใบ สลับหัวท้าย 10 ใบ แล้วเอาหนังยางรัด อ่ะ ฮา
ขายมัดละ บาท หรือ หกสลึง แค่นั้น อ่ะ ฮา
วิธีการกิน เขากินใบสด โดย "รูด" เอาแต่ใบ ไม่เอาก้าน
ม้วนให้แน่น แล้วเคี้ยว กินกับ "กาแฟดำ" อ่ะ ฮา
พอกินใบกระท่อม กำลังวังชา มันวิ่ง แล่นปรู๊ดปร๊าด ไม่ปวด ไม่เมื่อย อ่ะ ฮา
ทนแดด ทำงานหนัก แบกกระสอบข้าวสาร หนัก 100 กิโลได้สบาย คล่องอ่ะ ฮา
ส่วนใบที่ขายไม่หมด เขาก็เอาไป "ตากแห้ง" ทำกระท่อมป่น อ่ะ ฮา
วิธีการกิน ก็ใส่เหล้าขาว ใส่น้ำร้อนกิน อ่ะ ฮา
ส่วนมันจะมี "สารเสพติด" อะไร ฮา
ยายว่า มันไม่รุนแรง เหมือนม้า เหมือนลา อ่ะ ฮา
กินแก้เมื่อย แก้ปวด กินเพื่อความสบายใจ อ่ะ ฮา
พอเลิกกิน ก็ไม่มีพิษ ไม่มีสารตกค้าง ไม่เมาฟุบ อ่ะ ฮา
การนำ "พืช" เสพติดชนิดนี้ ขึ้นมาให้ใช้ ให้กิน ฮา
ยายว่ามีประโยชน์ มากกว่าโทษ
ดีกว่ากิน "น้ำปรุงรส แต่งกลิ่น ใส่คาเฟอีน" ขายสิบบาท ของไอ้หอก เพื่อชีวิตกู อ่ะ ฮา
ส่วนถ้ากินแล้ว "ฟุ้ง" เว่อร์ ขวางโลก ขวางบาทา ฮา
กฎหมายเขาก็ยังเอา "ผิด" ได้ ถ้าเอาผิดไม่ได้ ก็ช่วยกัน หาม อ่ะ ฮา

ไอ้ของพวกนี้ ถ้าใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา มันเป็นยา มีผลดีมากกว่า อ่ะ ฮา
