Ha Ha Ha ฮา " Oh yes " จ๊านโฉมชาย (ฮา) อ่ะ 55555
สลิ่ม "เงิบ" อีกแล้ว ฮา
555 "มติ" ที่จ่าย มันออกสมัย นายมาร์ค มอ7 อ่ะ ฮา 55555555555555555
ไม่เคยเห็นนักกินเมืองยุคไหน จะเป็นเปรตเท่ายุคนี้เลยจริง ๆ
เปรตอย่างเดียวไม่พอครับ อุบาทว์ด้วย
ลองไปทบทวนกันดีๆนะ ใครอนุมัติยุคไหน เพื่อความยุติธรรม
ยายบ๊าบมั่วอีกแล้ว...
https://www.facebook.com/SaiTrongPhakSanam/posts/587011101327309 ...
สรุปว่า... ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาฯ ผ่านสภาฯ เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2556 ครับ...
ส่วนที่ว่าเคยก่อตั้งสมัยรัฐบาลหน่อมแน้ม ม.7 นั่นคือ กองทุนการออมแห่งชาติ โดยสาระสำคัญข้างในคือประยุกต์มาจาก"รัฐสวัสดิการ"แถบสแกนดิเนเวียนครับ... โดยรัฐบาลนี้ไม่ได้ใส่ใจ ก็เป็นเพราะรู้ดีว่าตังค์ไม่พอใช้, เลยต้องเอาตังค์ไปโปะกับสิ่งที่เป็นประโยชน์มากกว่า"ในมุมมองของตนเอง"ครับ(เช่นจำนำข้าวฯ)... โห...
จากเพจสมจิตต์ นวเครือสุนทร
เรื่องที่คนไทยต้องรู้
รัฐบาล ไพร่ ดองบำนาญประชาชน
ดัน สวัสดิการ ผู้ทรงเกียรติ !
กองทุนการออมแห่งชาติ เริ่มต้นสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.54 ที่ผ่านมาและกำหนดไว้ในกฎหมายว่าภายใน 1 ปีนับจากกฎหมายมีผลบังคับใช้จะต้องดำเนินการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลอภิสิทธิ์กำหนดทุนประเดิมกองทุนไว้ที่ 1 พันล้านบาท แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ยิ่งลักษณ์เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี กลับมีการจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้เพียงแค่ 225 ล้านบาทเท่านั้น ที่สำคัญคือ กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เคยยอมรับอย่างชัดเจนว่า นโยบายกองทุนการออมแห่งชาติจะเป็นเรื่องที่ดี แต่รัฐบาลนี้จะไม่ทำเพราะเป็นนโยบายของรัฐบาลประชาธิปัตย์
สิ่งที่คนไทยเสียประโยชน์จากการที่รัฐบาลไม่สานต่อ กองทุนการออมแห่งชาติ
1 แรงงานนอกระบบเกือบ 30 ล้านราย ที่ไม่อยู่ในระบบกองทุนสวัสดิการอื่น ๆ ไร้หลักประกันรายได้ต่อไป
2 รัฐบาลจะต้องแบกรับภาระการเป็นสังคมผู้สูงอายุในอนาคตมากขึ้น หากไม่มีมาตรการการออมที่ประชาชนร่วมกับรัฐมารองรับล่วงหน้า
3 ประชาชนพลาดโอกาสที่จะได้รับสวัสดิการจากกองทุนนี้ซึ่งจะมีผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยของธนาคาร ซึ่งรัฐบาลรับประกันว่าจะไม่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน (เฉลี่ยจาก ธ.ออมสิน ธกส. ธ.พาณิชย์ 5 แห่งใหญ่)
4 หมดโอกาสได้รับเงินสะสมของประชาชนที่รัฐบาลจะรับประกันผลตอบแทนให้ 50-1,100 บาทต่อเดือน หลังรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดองเรื่องไร้ความคืบหน้า
5 หมดโอกาสได้รับเงินบำนาญประชาชน ซึ่งหากคำนวณว่าสะสมเดือนละ 1,100 บาทตั้งแต่อายุ 15 ปี จะได้รับเงินบำนาญประมาณ 10,795 บาทต่อเดือน
6 หมดโอกาสที่ทายาทจะได้รับเงินคงเหลือจากผู้เข้าร่วมกองทุนหากบุคคลดังกล่าวเสียชีวิต
ในขณะที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่ผลักดันกองทุนการออมแห่งชาติเพื่อสร้างบำนาญให้กับประชาชน กลับผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา พ.ศ..... ซึ่งล่าสุดผ่านความเห็นชอบของสมาชิกวุฒิสภาแล้วด้วยคะแนนเห็นด้วย 49 ต่อ 27 เสียง และงดออกเสียง 23 เสียง เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา
สำหรับกองทุนดังกล่าวอดีตสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดจะได้รับประโยชน์ ยกเว้นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. แม้ว่ากฎหมายฉบับนี้จะยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่คณะกรรมการเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับพ.ร.บ.กองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา ซึ่งมีนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนมพรรคเพื่อไทยเป็นประธาน กลับมีการประชุมเพื่อกำหนดวงเงินเดินหน้ากองทุนดังกล่าวแล้ว
ผู้ที่เป็นอดีตสมาชิกรัฐสภาจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม ดังนี้
กลุ่มแรกคือ ผู้ที่เป็นสมาชิกรัฐสภาก่อนปี 2543 ซึ่งไม่เคยส่งเงินเข้ากองทุนจะได้เบี้ยยังชีพเดือนละ 15,000 บาท จนกว่าจะเสียชีวิต โดยมีผู้ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ 3,300 คน
กลุ่มที่สองคือ กลุ่มที่ส่งเงินเข้ากองทุนตั้งแต่ปี 2543- ปัจจุบัน ซึ่งเดิมหักเดือนละ 500 บาท แต่เมื่อกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้คาดว่าจะมีการหักเงินเดือนเข้ากองทุนคนละ 5 % ของเงินเดือน โดยเฉลี่ยประมาณ 3,550 บาทต่อเดือน โดยปัจจุบันมีสมาชิกรัฐสภา 650 คน ก็จะมีเงินเข้ากองทุนประมาณ 2 ล้านบาทต่อเดือน เท่ากับปีละ 24 ล้าน ขณะเดียวกันจะมีเงินตั้งต้นจากรัฐบาล 500 ล้านเข้ากองทุนดังกล่าวด้วย และรัฐต้องจัดงบประมาณสมทบทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มที่สองนี้จะได้รับเบี้ยยังชีพตามอายุของการดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภา จะได้เบี้ยยังชีพประมาณ 20-50 % ของเงินเดือนสุดท้าย โดยจะคิดเป็นขั้นบันไดตามอายุที่ดำรงตำแหน่งสะสม เช่นถ้าเคยเป็นสมาชิกรัฐสภายาวนานถึง 21 ปี ก็จะได้ 50 % ของเงินเดือนสุดท้ายเป็นต้น ซึ่งหากคิดตามอัตตราเงินเดือนล่าสุดจะได้เบี้ยยังชีพเดือนละ 35,500 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าหากกลับมาเป็นสมาชิกรัฐสภาอีกก็ไม่ถือว่าเป็นอดีตสมาชิกรัฐสภาจะหมดสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพ โดยสามารถสะสมอายุต่อไปจนกว่าจะเป็นอดีตสมาชิกรัฐสภาอย่างแท้จริงจึงจะได้รับเบี้ยยังชีพอีกครั้ง
นอกจากนี้อดีตสมาชิกรัฐสภาจะได้รับประโยชน์จากกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาอีกสาม ประการคือ เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามความจริง ค่าทุพลภาพเดือนละ 5 พันบาท และให้สวัสดิการกับผู้ที่มีบุตรไม่เกิน 2 คน อายุไม่เกิน 18 ปี คนละ 2 หมื่นบาทต่อปี
ผลงานรัฐบาลประชาธิปไตย 15 ล้านเสียง อำมาตย์ต้องมาก่อน
็Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" จ๊านโฉมชาย(ฮา) อ่ะ ฮา
555 ยายโพสต์ ไปแล้วสองวัน เพิ่งจับได้ ว่า "เต้า" ฮา
อย่างกรณี "บุญยอด" ยายไม่ต้อง หาข้อมูลเลยอ่ะ ฮา
เพราะ มัน "ค้านทุกเรื่อง" ค้านทุกเม็ด อ่ะ ฮา
แล้วกรณีอย่างนี้ ทำมัย มัน "ไม่ค้าน" บ้างอ่ะ ฮา
ยายเคยเขียน เรื่อง "รถสปอร์ตหรู" ไฟไหม้ ปากช่อง ฮา
ยายบอกว่า "แบต"มันมีสามขั้ว เหมือน เครื่อง A -380 อ่ะ ฮา
55555 มีคนเชื่อ ไม่มีใคร " Re - check" ยาย อ่ะ ฮา
ประเด็นนี้ ถ้าเป็นเรื่องการเมือง ยายอยากให้ช่วยกันหาข้อมูล อ่ะ ฮา
ไม่ใช่ เชื่อแบบหลับตา ปิดหู นั่นพวกมึง นึ่พวกกูอ่ะ ฮา
55555 ยายทำให้จานโฉมชาย "กระวนใจ" อ่ะ ฮา
