เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 09, 2025, 01:51:37 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วันสุดท้ายก่อน “แปลงร่าง” วันดีที่สุดของคณะปฏิรูปฯ  (อ่าน 2298 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 12:50:47 PM »

วันสุดท้ายก่อน “แปลงร่าง” วันดีที่สุดของคณะปฏิรูปฯ
 
โดย เซี่ยงเส้าหลง 1 ตุลาคม 2549 19:34 น.
 
 
  
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ - ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ
  
 
       •• ซี้ดปากกันสุดๆ เมื่อ วันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2549 ช่วงเช้ามี แท็กซี่พลีชีพชนรถถัง แต่ช่วงบ่ายแก่ๆ ไปจนถึงช่วงค่ำมี ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ออกมาต่อเนื่อง หลายฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉบับที่ 28, ฉบับที่ 29 และ ฉบับที่ 30 ที่สะท้อนให้เห็นว่าได้เกิดกระบวนการ เปลี่ยนแปลง, ปรับตัว ไปในเชิง สร้างสรรค์ ภายในคณะปฏิรูป “เซี่ยงเส้าหลง” จับยามสามตาดูก็รู้ว่าคนร่างไม่ใช่ มีชัย ฤชุพันธุ์ (ที่ล่าสุด ถอนตัว – บินไปพักผ่อนต่างประเทศแล้ว) แต่เป็น ทีมงานนักกฎหมายมหาชนรุ่นหนุ่ม ที่ทั้งมีความเข้าใจในสถานการณ์วิกฤตของประเทศและ ร่วมส่วนมากับขบวนโค่นล้มระบอบทักษิณ ซึ่ง สแตนด์บาย รออยู่ตั้งแต่เมื่อวันยึดอำนาจแล้วแต่ถูก ตัดหน้า พิจารณาแล้วเชื่อโดยส่วนตัวเชื่อว่าจะนำทีมโดย บรรเจิด สิงคะเนติ ด็อกเตอร์ทางกฎหมายมหาชนจาก เยอรมัน หนึ่งในผู้ได้รับแต่งตั้งเป็น คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินชุดใหม่ และเชื่ออีกเช่นกันว่าน่าจะได้รับการสนับสนุนจาก 2 ผู้อาวุโสอย่าง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และ พล.อ.ปานเทพ ภูวนาถนุรักษ์ ที่ไม่ประสงค์จะเห็น ผลลัพธ์แห่งการเสี่ยงตายถูกปล้นกลางแดด ไปดื้อๆ
      
       •• สรุปกันสั้นๆ ว่า ประกาศฉบับที่ 28 ก็คือ ยึดอำนาจบริการกิจการตำรวจเบ็ดเสร็จคืน จากคนที่ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพออย่าง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ภายใน 60 วันนับตั้งแต่เมื่อวานซืนนี้จะมี ก.ตร.ชุดใหม่ มาแทนที่ ก.ตร.ชุดนรต. 22 เพื่อนโกวิท และ “เซี่ยงเส้าหลง” จับยามสามตาดูอีกรอบก็พบว่าเมื่อมีรัฐบาลใหม่ ตำแหน่ง ผบ.ตร.อาจเปลี่ยนแปลง คอยดูกันต่อไป ตำรวจที่เพิ่งได้ดีใหม่จากระบอบโกวิท ก็อย่าเพิ่งด่วน เลี้ยงฉลอง การเปลี่ยนแปลงยังจะมีอีกรอบ
      
       •• ส่วน ประกาศฉบับที่ 29 ก็คือ สร้างความมั่นคงและมั่นใจในการทำงาน ให้กับ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา โดยประกาศฉบับนี้เป็นอันว่าท่านจะใช้อำนาจหน้าที่เต็มในตำแหน่ง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน + คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ไปจนถึง วันที่ 30 กันยายน 2550 ไม่ต้องห่วงว่าช่วง 1 ปีจากนี้ไปจะ ถูกปลด หรือ ถูกแทรกแซงโดยคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินที่อาจจะตั้งขึ้นมาใหม่ สบายใจได้
      
       •• และที่สุดยอดจริงๆ ก็คือ ประกาศฉบับที่ 30 ว่าด้วยกระบวนการ ยกเครื่องคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ทั้ง 2 ส่วน ตัวบุคคล และ กรอบอำนาจหน้าที่ ในส่วนแรกนั้นถ้ายกเว้นที่ยังคง ให้เกียรติ แก่ สวัสดิ์ โชติพานิช ที่เหลืออีก 11 คน คือ กล้านรงค์ จันทิก, แก้วสรร อติโพธิ, คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา, จิรนิติ หะวานนท์, นาม ยิ้มแย้ม, บรรเจิด สิงคะเนติ, วิโรจน์ เลาหะพันธุ์, สัก กอแสงเรือง, เสาวนีย์ อัศวโรจน์, อุดม เฟื่องฟุ้ง และ อำนวย ธันธรา ต้องขอพูดด้วยภาษาของ “เซี่ยงเส้าหลง” ว่า นี่คือเพชฌฆาตระบอบทักษิณตัวจริง ที่มี ดาบเพชฌฆาตทรงพลานุภาพ คือกรอบอำนาจหน้าที่ใหม่ตามประกาศฉบับนี้ 4 ข้อ ที่ เกินร้อย เพราะกินความกว้างขวางสามารถดำเนินการตรวจสอบได้ทั้ง โครงการที่ผ่านการอนุมัติจาก ครม., สัญญา-สัมปทาน, เจ้าหน้าที่ของรัฐ และ บุคคลที่มีพฤติกรรมเลี่ยงกฎหมายภาษีอากร มีอำนาจหน้าที่เสมือนเป็นเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ปปง., ป.ป.ช. และ ประมวลรัษฎากร และมีเขียนระบุไว้ชัดเจนท้ายข้อ 5 ว่า “...ในกรณีที่เห็นว่าการดำเนินการในเรื่องที่ตรวจสอบมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ และมีพฤติการณ์ว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจสั่งยึดหรือายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องของผู้นั้น คู่สมรส และบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ ของผู้นั้นไว้ก่อนได้.” โปรดติดตามกระบวนท่า พิฆาตคนโกงชาติปล้นแผ่นดิน ได้ในเร็ววัน
      
       •• นอกจาก 3 ฉบับนี้แล้วที่ ดูดี อีกฉบับหนึ่งแม้จะยังไม่เห็นผลในทันทีก็คือ ประกาศฉบับที่ 27 แก้ไขเพิ่มเติมประกาศฉบับที่ 15 ว่าด้วย พ.ร.บ.พรรคการเมือง ข้อที่ต้องพิจารณาคือ ข้อ 3 ที่บัญญัติไว้ว่า “...ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอื่นที่ทำหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองใดเพราะเหตุกระทำตามต้องห้ามตามราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พุทธศักราช 2541 ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นมีกำหนด 5 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งให้ยุบพรรค.” เดิมทีนั้น พ.ร.บ.พรรคการเมืองกำหนด โทษ ของกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกยุบไว้เพียง ห้ามจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือดำรงตำแหน่งบริหารในพรรคการเมือง แต่ไม่ได้ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งหมายความว่า ยังสมัคร ส.ส.และเป็นรัฐมนตรีได้ การแก้ไขเช่นนี้จะกระทบกระเทือนแก่ พรรคไทยรักไทย (และ พรรคประชาธิปัตย์) ซึ่งยังมี คดียุบพรรค ค้างคาอยู่ใน ศาลรัฐธรรมนูญ โดยรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เพิ่งประกาศใช่เมื่อวานนี้กำหนดให้มี คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ มีองค์คณะ 9 คน ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา 1, ประธานศาลปกครองสูงสุด 1, ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา 5 และ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด 2 คณะตุลาการรัฐธรรมนูญชุดใหม่จะดำเนินการ พิจารณาคดียุบพรรคต่อไป หากพรรคใดถูกยุบ กรรมการบริหารพรรคนั้นจะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี หมายความว่า ขาดคุณสมบัติในการสมัคร ส.ส.และเป็นรัฐมนตรี คนใหญ่คนโตของ พรรคไทยรักไทย ไม่ว่า หัวหน้าใหญ่, หัวหน้ามุ้ง ณ นาทีนี้เห็นทีจะเริ่ม หนาว แล้วละ
      
       •• ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ วันสุดท้าย – ก่อนแปลงร่าง ไปเป็น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ได้อย่าง งดงาม ถือเป็นคณะรัฐประหารที่ รับฟังเสียงประชาชน, ยอมแก้ไขการกระทำของตนเองที่ไม่สมบูรณ์ ขอปรบมือให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน มา ณ โอกาสนี้
      
       •• ลักษณะพิเศษของคณะรัฐประหารชุดนี้เมื่อ แปลงร่าง แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมา ครอบงำรัฐบาล หรือบำเพ็ญตนเป็น เปลือกหอย เพราะบังเอิญว่า นายกรัฐมนตรีคนที่ 24 ชื่อ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ซึ่งเท่ากับว่าเป็น หัวหน้าเก่า, นายเก่า หรือ อดีตผู้บังคับบัญชา ของหัวหน้าคณะรัฐประหาร พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ คนนี้ยังไม่ใช่ คนนอก, คนกลาง แต่เป็นคนที่ รู้เห็นและเข้าใจวิกฤตร้ายแรงที่สุดของบ้านเมืองมาโดยตลอด อย่างน้อยที่สุดท่านก็ ได้รับผลกระทบโดยตรง เมื่อ ปี 2545 ถูกปลดจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. หลังจากปฏิบัติหน้าที่แข็งขันในการปกป้องอธิปไตย ชายแดนไทย-พม่า บริเวณ ดอยลาง สรุปแล้วโดยฐานภาพทั้งในอดีตและปัจจุบันทั้งส่วนรวมและส่วนตัวจะทำให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีอำนาจมากที่สุด ทำให้เกิดความหวังขึ้นมาว่า 1 ปีนับจากนี้ไป ประเทศไทยจะเกิด การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ขึ้นมาได้ให้คุ้มค่ากับ ต้นทุน ที่จำเป็นต้องทุ่มลงไปใน การตัดสินใจรัฐประหาร เพื่อให้ไปเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่บัญญัติไว้ชัดเจนใน คำปรารภ ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวอย่างตรงไปตรงมาว่า “...ก็โดยปรารถนาที่จะแก้ไขความเสื่อมศรัทธาในการบริหารราชการแผ่นดิน ความไร้ประสิทธิภาพในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ทำให้เกิดการทุจริตและประพฤติมิชอบขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยไม่อาจหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ อันเป็นวิกฤตการณ์ร้ายแรงทางการเมืองการปกครอง.” บอกตามตรงประสา “เซี่ยงเส้าหลง” ว่า วันสุดท้าย – ก่อนแปลงร่าง เป็น วันดีที่สุด ของคณะรัฐประหารชุดนี้
      
       •• เริ่มต้นอย่าง กระท่อนกระแท่น แต่จบลงอย่าง งดงาม ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้ของ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอให้ทุกท่านไปดี
 
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 01:42:11 PM »

เหมือนนั่งเชียร์บอลแล้วนักบอลเชียร์ขึ้นครับ...

แต่ขอกระตุกๆ ชายเสื้อนิดๆ ว่าเวลาฟันฉั่ว... ต้องมีเหตุผลรองรับให้ดีครับ...

เพราะยังไงก็ต้องไปขึ้นศาลสถิตยุติธรรม... นายสมชายยังคิดถึงท่านสวัสดิ์ฯ อยู่... ถึงแม้จะมีมือกฏหมายระดับศาลฏีกาท่านอื่นก็ตาม หลายๆ ท่านช่วยกันน่าจะดีกว่า...
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 02:55:53 PM »

Smiley ขอบคุณมากครับ คุณChayanin.  Smiley.

    ผมได้อ่านแล้ว เมื่อคืน ราว ๒๐.๐๐ น.
    ทำให้นอนหลับสบาย อย่างมาก.  Smiley..

    เป็นชั้น สืบสวนสอบสวน และมีอำนาจในการอายัด หรือยึดทรัพย์.. เพื่อป้องกันการถ่ายโอนทรัพย์สิน.
    ก่อนที่จะสรุปสำนวน ส่งให้สำนักงาน อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาสั่ง และยื่นฟ้องศาล..
    ที่มีอำนาจในการพิจารณาคดีนั้นต่อไป.

    ณ วันนั้น คนที่เคยมีอำนาจล้น เพียงเท้าแตะพื้น .. ก็มีเจ้าพนักงานฯ ไปอารักขา อุ้มเข้าสู่กระบวนการ..

    เพียงคิด อยากกลับบ้านเกิด .. ก็เป็นความฝัน.

    พลาสปอร์ต ของลิ่วล้อบางคน คงต้องถูกอายัด เพื่อการนี้ด้วย..  Smiley


   

บันทึกการเข้า

Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 03:38:18 PM »

เพิ่มครับ
ทรท.รอล่มสลาย!"สมศักดิ์-สุรเกียรติ์-สุรนันทน์-วัฒนา"นำทีมโดดหนีตายแล้ว
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2549 15:07 น.
 
 
 
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
 
สมศักดิ์ เทพสุทิน

 
สุรนันท์ เวชชาชีวะ

 
สุรเกียรติ์ เสถียรไทย

 
 
 
  "ทักษิณ" ส่อเค้าหัวเดียวกระเทียมลีบ ขณะที่ไทยรักไทยนับถอยหลังล่มสลายหลังลูกพรรคกลุ่มแก๊งก๊วนโดดหนีเรือผุพิสูจน์สัจจธรรมการเมือง"ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวรหรือหมาตายเห็บโดดหนี ล่าสุด "สมศักดิ์"เตรียมนำทีมสมุนหอบผ้าหนีตายดาบหน้า หลังคปค.ออกกฎเหล็กส่อยุบพรรค ด้าน"สุรเกียรติ์-วัฒนา-สุรนันทน์"ก็ลาแล้ว
       
       วันนี้ (2 ต.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคไทยรักไทยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา สมาชิกพรรคไทยรักไทยทยอยเดินทางการมายื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ณ ที่ทำการพรรคไทยรักไทย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ เป็นจำนวนมาก ภายหลังจากมีประกาศของคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) ที่ระบุถึงการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 5 ปี หากมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับรายชื่อของแกนนำพรรคไทยรักไทยที่ได้มีการยื่นหนังสือต่อผู้อำนวยการฝ่ายทะเบียนพรรคไทยรักไทยแล้วนั้น ได้แก่ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย โดยลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย รวมถึงนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึงไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แต่ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีนายศรัณย์ ศรัณย์เกตุ อดีต ส.ส.อุตรดิตถ์ นายประทวน เขียวฤทธิ์ อดีต ส.ส. สุโขทัย กลุ่มวังน้ำยม และนายรุ่งเรือง พิทยสิริ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ด้วย
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ล่าสุดมีรายงานข่าวจากกลุ่มวังน้ำยมของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยว่า กลุ่มวังน้ำยม นำโดยนายสมศักดิ์ พร้อมด้วยสมาชิกในกลุ่มประมาณ 20-30 คนที่เป็นกรรมการบริหารพรรค รวมถึง นายสุรนันทน์ เวชาชีวะ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมายื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ณ.ที่ทำการพรรคไทยรักไทยในช่วงบ่ายของวันนี้(2 ต.ค.)ด้วย
       
       นายโสภณ เพชรสว่าง อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ กลุ่มวังน้ำยม พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า แม้ขณะนี้จะมีอดีต ส.ส.ในกลุ่มวังน้ำยม ยื่นใบลาออกจากพรรคไปแล้ว แต่สมาชิกในกลุ่มส่วนใหญ่ขณะนี้ ยังรอการหารือกับแกนนำกลุ่มโดยเฉพาะนายสมศักดิ์ก่อน การตัดสินใจทางการเมืองนั้น หากจะไปก็ไปพร้อมกัน เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่าพรรคไทยรักไทยจะถูกยุบพรรคจริงหรือไม่ หากถูกยุบจริงก็ต้องย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น หรือไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสมาชิกพรรคยังรู้สึกสับสนกับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้
       
       ด้านนายวีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า หากมีการสั่งยุบพรรคไทยรักไทยจริง ตนคิดว่าสมาชิกพรรคที่ลาออกไปโดยเฉพาะในตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคนั้น คงไม่มีผลใดๆ เนื่องจากหากมีการกระทำความผิดจริง คงไม่สามารถไปลบล้างความผิดที่มีการกระทำไว้ได้ เพราะถือว่าความผิดนั้นสำเร็จแล้ว
       
       ขณะที่พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตส.ส.นครสวรรค์ กลุ่มวังน้ำยม พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า หลังจากที่คปค. มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงบทกำหนดโทษในคดียุบพรรคนั้น นายสมศักดิ์ ได้หารือกับสมาชิกกลุ่มวังน้ำยมถึงข้อกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีที่ว่า กรรมการบริหารพรรคหากลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว จะส่งผลให้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ เพราะในมาตรา 69 ของพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ระบุถึงกรรมการบริหารพรรค และผู้เคยดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย ดังนั้นเรื่องนี้จึงอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินว่า หากตัดสินใจลาออกเพื่อแสดงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว จะมีผลผูกพันหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว อาจส่งผลกระทบต่ออดีตรัฐมนตรีและแกนนำพรรคกว่า 100 คนที่ไม่สามารถลงสมัครส.ส.ได้
       
       “การออกคำสั่งเพิ่มโทษในพรบ.พรรคการเมือง เหมือนมีการเปลี่ยนธงไว้ล่วงหน้า เพราะจากเดิมมีโทษเพียงแค่ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคใหม่ แต่การเขียนเช่นนี้เท่ากับเป็นการเพิกถอนสิทธิ จึงเชื่อว่าอาจเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า จะต้องมีการยุบพรรคอย่างแน่นอน และที่ผ่านมาก็เคยมีคำสั่งยุบ 5 พรรคการเมืองมาก่อนหน้านี้แล้ว” นายบรรยิน กล่าว
 


 
 
 
 
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
ROCKFLOWER
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 6
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 184


« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 03:51:46 PM »

ตัวใครตัวมันละงานนี้.........
บันทึกการเข้า

หนาวเหน็บ.....แต่ไม่เจ็บปวด.....
xiehua dun
เรารักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 134
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6209


ปัจจุบันวัดความดีของคนที่ กม.


« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 04:48:38 PM »

เรือแตกแล้วนี่ครับ ต้องขอแจวไปก่อน
บันทึกการเข้า


เพราะฉันจะไป ด้วยหัวใจดวงนี้ สองขาที่มีจะปีนสู่ภูผา
เพราะฉันจะไป ให้เห็นความสุขแท้มันด้วยตา
เมื่อได้มองลงมาเห็นโลกในมุมอีกมุม     มันคงช่างงดงาม
C.J. - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 314
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5383


ขอ...นัดเดียว


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 06:47:28 PM »

""""เห็บกระโดด""""
บันทึกการเข้า

ธรรมของสัตบุรุษ

๑. ธัมมัญญุตา - รู้จักเหตุ ๒. อัตตัญญุตา - รู้จักผล ๓. อัตตัญญุตา - รู้จักตน ๔. มัตตัญญุตา - รู้ประมาณ ๕. กาลัญญุตา - รู้จักกาล ๖. ปริสัญญญุตา - รู้จักประชุมชน ๗. ปุคคลปโรปรัญญุตา - รู้จักเลือกบุคคล

http://www.dopaservice.com/eservice/content.do?ctm_id=gun&function=document&gro
T-รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 140
ออฟไลน์

กระทู้: 485


« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 06:59:06 PM »

""""เห็บกระโดด""""
เยาะเย้ย
บันทึกการเข้า
4arty
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 87


« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 08:39:43 PM »

แล้วกระบวนการตรวจสอบของคนพวกนี้ละครับ
หวังว่าควงไม่ลุแก่อำนาจก็แล้วกัน
บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 09:37:57 PM »

......ตีงูให้หลังหัก
มันจักมาทำร้ายในภายหลัง
จะเข้ใหญ่ถึงน้ำมีกำลัง
ถ้าเสือยังถึงดงก็คงร้าย...... :Smiley

บันทึกการเข้า
klonglan
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 242


« ตอบ #10 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 09:46:14 PM »

ต้องเอาให้อยู่หมัด อย่าให้เหลือเชื้อไม่ดี
บันทึกการเข้า

If you want peace ,prepare for war
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2006, 10:42:35 PM »

สงสัยข้อนี้ครับ

  •• สรุปกันสั้นๆ ว่า ประกาศฉบับที่ 28 ก็คือ ยึดอำนาจบริการกิจการตำรวจเบ็ดเสร็จคืน จากคนที่ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพออย่าง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ภายใน 60 วันนับตั้งแต่เมื่อวานซืนนี้จะมี ก.ตร.ชุดใหม่ มาแทนที่ ก.ตร.ชุดนรต. 22 เพื่อนโกวิท และ “เซี่ยงเส้าหลง” จับยามสามตาดูอีกรอบก็พบว่าเมื่อมีรัฐบาลใหม่ ตำแหน่ง ผบ.ตร.อาจเปลี่ยนแปลง คอยดูกันต่อไป ตำรวจที่เพิ่งได้ดีใหม่จากระบอบโกวิท ก็อย่าเพิ่งด่วน เลี้ยงฉลอง การเปลี่ยนแปลงยังจะมีอีกรอบ

ผมตามข้อมูลไม่ทัน ..... ใครรู้รบกวนช่วยอธิบายที่มาที่ไป/เหตุผลให้ทีครับ  Shocked
บันทึกการเข้า
SA-KE
เมื่อเดินผิด ย่อมมิใช่มนุษย์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 702
ออฟไลน์

กระทู้: 3612


เรารักในหลวง


« ตอบ #12 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2006, 09:17:49 AM »

    ในกรณีนี้ ถ้าคิดว่าลุง "เซี่ยงเส้าหลง " วิเคราะห์น่าเชื่อถือ และมีความเป็นไปได้
    ผมคิดว่า "คุณสนธิ"  คงคิดเช่นเดียวกัน....  Cheesy Cheesy

     ผมตอบ "คุณ E-Mail " ตามที่ผมเข้าใจนะครับ ( นำข้อมูลจากคนอื่นมาสรุปให้ครับ ) ....มีหลายคนหลายสำนักวิเคราะห์ไว้ดังนี้

     1. บางประกาศ ผิดพลาดเพราะไม่รู้เท่าทันคนบางคน ของ  คปค. แต่บางคนบอกว่า  "เซียนเหยียบเซียน"
     2.  บางประกาศเป็นการโยนหินถามทาง 
     3.  บางประกาศเป็นการตรวจสอบสายกำลังและหน่วยกำลังบางส่วน

      ดังนั่นการรัฐประหารครั้งนี้ จึงมีการแก้ไขประกาศ ออกมาค่อนข้างมาก

      อีกประการหนึ่ง "สตช" ไม่ใช่องค์กรอิสระ  แต่เป็นสายงานบังคับบัญชาที่ขึ้นโดยตรงกับ  "นายกฯ " ถ้าไม่ปลดล๊อคเรื่องอำนาจ หากมีรัฐบาลใหม่ ผมว่าคงปวดหัวตายเลย ... Cheesy
     
     ที่สำคัญ สำหรับ "สตช"  งานนี้ "คุณสนธิ " ..เล่นไม่เลิกแน่....ถ้าเป้าหมายไม่ได้...และโอกาสมีความเป็นไปได้สูงเสียด้วย...

    สำหรับความคิดเห็นผม ผมคิดว่า  "สตช" ควรต้องถูกล้างบางและปรับปรุงกันใหม่ได้แล้ว แต่ไม่ต้องถึง/เป็นไปไม่ได้ที่  นำ "ทหาร" มาเป็น " ผบ.สตช"  เหมือนในอดีตหรอกครับ......  Wink
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 03, 2006, 11:31:00 AM โดย SA-KE » บันทึกการเข้า

คนต่างกับสัตว์ที่ "ความคิด"  ,  คนต่างกับมนุษย์ที่ "ศีลธรรม"
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #13 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2006, 09:44:48 AM »

     ที่สำคัญ สำหรับ "สตช"  งานนี้ "คุณสนธิ " ..เล่นไม่เลิกแน่....ถ้าเป้าหมายไม่ได้...และโอกาสมีความเป็นไปได้สูงเสียด้วย...

    สำหรับความคิดเห็นผม ผมคิดว่า  "สตช" ควรต้องถูกล้างบางและปรับปรุงกันใหม่ได้แล้ว แต่ไม่ต้องถึง/เป็นไปไม่ได้ที่  นำ "ทหาร" มาเป็น " ผบ.สตช"  เหมือนในอดีตหรอกครับ...  ข้อความโดย: SA-KE



 Smiley..เห็นสอดคล้องกับ คุณ SA-KE  ..

      ด้วยความเคารพ และขออภัย เพื่อนคอปืนที่ อยู่ใน หน่วยงาน สตช.ทุกท่าน ครับ.  Smiley

     สตช. ที่ผ่านมาไม่เคยปลอดจาก การล้วงลูก ของนักการเมือง..
     ที่ประคองอยู่ได้อาจเพียงเพราะการต่อรอง. แลกเปลี่ยน ที่นักการเมืองพลอยเห็น เป็นประโยชน์ พอ พอกัน..
     แม้ไม่ใช่เด็กสร้างขอ .. ก็ยังถือว่า เขาคนนั้น.. เป็นแขน ขา ให้กับพรรคพวกของตนได้ อยู่ดี.

     ผมเชื่อ อย่างสนิทใจ เพื่อความสงบสุข และปลอดภัยในชีวิตของประชาชน .หน้าที่ของพลตะเวน ที่แต่เริ่มก่อตั้ง

     งานนี้ ต้องมีการล้างบาง สตช. ล้างบางทัศนะคติ และสร้าง เสริมหลักการใหม่
     ในกรอบ ภาระหน้าที่ เพื่อพิทักษ์สันติราษฎร์  อย่างแท้จริง. ขึ้นมาให้แข็งแกร่ง อีกครั้ง.

     ภาระหน้าที่นี้ แม้หนักหนา.. และต้องมีคนไม่เห็นด้วย.
     คงได้คิดดัง ดัง. แต่ในใจ เท่านั้น.
     โอกาสเปิด มากอย่างนี้ ถ้ายังละไว้ .. ผ่านเลยแล้ว อาจจะเป็นฝันร้ายต่อไปอีก. Smiley
     
บันทึกการเข้า

E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: ตุลาคม 03, 2006, 09:53:59 AM »

ขอบคุณครับ  Smiley
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 21 คำสั่ง