มันดูแปลกและผิดวิสัย ที่คนดีๆต้องการทำตามกฎหมาย กลับต้องจ่ายสินบน
เป็นเรื่องน่าอนาถใจ ที่สังคมกลับยอมรับการจ่ายเบี้ยบ้ายรายทาง ว่าเป็นเรื่องปกติ
ทั้งยังหาเหตุผลสนับสนุน ชักจูงให้เห็นดีเห็นงามไปตามกัน
ในอำเภอใหญ่ๆมีการกำหนดราคากันไปเลยว่า 22 เท่านี้ 38/9 เท่านี้ 40/45 เท่านี้
เรียกรับกันหน้าตาเฉย อ้างว่าเป็นค่าบำรุงสนับสนุนราชการบ้าง ต้องให้นายบ้าง
ใครไม่ให้ ไม่จ่ายก็เตะถ่วง อ้างคิวยาว นายไม่อยู่ ไม่ว่าง ขอหลักฐานโน่นนี่
พันไปถึงสนามยิงปืนก็มีค่าหนังสือรับรอง กำนันผู้ใหญ่ก็ต้องมีสินน้ำใจเซ็นแบบปค.
กรมการปกครองก็รู้เส้นเห็นใส้ เคยมีหนังสือสั่งการ สั่งห้าม กำกับกำชับไว้ .... แต่ไร้ผล
เพราะอะไร ..... ก็เพราะเชื้อชั่วมันฝังรากลึก
เป็นเรื่องปกติของจนท.ปกครองที่ต้องนำเงินส่งนาย
นายไม่ต้องสั่งสักแอะ เพราะมันตกทอดทำกันมามาเป็นสมบัติเจ้าคุณปู่
นับไปเลยว่าเดือนนี้ออกป.3 ป.4 ขนาดใด กี่ใบ เป็นเงินเท่าไร
ต้องครบถ้วนไม่ตกหล่น ขาด บ/ช ถือว่าอม ต้องชี้แจง
ถามจนท.ว่าใครสั่งกันหรือ เขาบอกไม่มีใครสั่งหรอก
ทำตรงนี้มากว่า10ปีก็เป็นอย่างนี้
นายเก่าไปนายใหม่มา เขารู้กันเองว่าที่นี่ต้องได้เท่าไร
ส่วนของการกุศล กิจกรรมของกรมฯ
ต้องมีบัญชีร้านค้าผู้ประกอบการไว้รีดส่งส่วนกลาง
งานอวป.ถือเป็นขาจร แต่ก็ต้องครบถ้วนตามป.ตามขนาดที่ออกไป
จนท.เขาจึงต้องยื้อดองเรื่องคนไม่จ่ายทางด่วน
เป็นเรื่องให้เกิดโต้คารมเวลาไปตามเรื่อง
คนขอฯเคี่ยวนัก ทำหนังสือทวงถาม จนท.ก็แทงเรื่อง เพื่อโปรดพิจารณา ให้
มันต่างกับการแทงว่า เพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ
นี่แค่ตัวอย่าง.........
ความต่างตรงคำว่าอนุมัติ ซึ่งเป็นซิกแนลที่เข้าใจกัน ว่าจ่ายแล้ว
หรือง่ายกว่าคือเขียนตัวดินสอมุมป.1 ว่า จ่ายแล้ว ซะเลยก็มี ไม่ฮา
จะอย่างไร ซิกแนลนี้ยังใช้เป็นหลักฐานมัดตัวไม่ได้
แม้ฟ้องศาลปกครอง แล้วเอาผลคดีมาฟ้องอาญาต่อ
ก็ไม่ได้ปลาใหญ่ ปลาตัวใหญ่จะหลุด157ไป
เพราะ ไม่มีหลักฐานแสดงเหตุจูงใจในการละเว้นฯ
ก็อธิบายได้จากที่เล่ามาข้างต้นว่านายเขาไม่ต้องพูด
ต่อให้เอาหลักฐานจากคลิปจากเสียงก็ได้เพียงปลาซิวปลาสร้อย
ที่เป็นเพียงตัวประกอบอดทน
การเรียกรับในเรื่องขออนุญาตฯอาวุธปืน
เป็นเรื่องราวของต้นฉ้อราษฎร์ต้นเล็กๆ
ที่จะช่วยส่งนายให้เติบโตต่อไปเป็นต้นบังหลวง
เป็นกาฝากของประเทศชาติต่อไป
ชาวปืนเห็นอย่างไรกันครับ

Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ธำรง อ่ะ ฮา
เขียนมาแบบ เต็มเหนี่ยว ไม่กั๊ก ไม่แบน เลยอ่ะ ฮา
เรื่องนี้ มันเป็นปัญหาใหญ่ ระดับ สามโลก เลยอ่ะ ฮา
ใหญ่ขนาด นั่งยาน ชาเลนเจอร์ สามรอบ
กลับมาโลก ยังไม่เห็นผล ยังไม่รู้เรื่อง เลยอ่ะ ฮา

เรื่อง "งานอาวุธปืน" คนที่ขอ คนที่อยากได้ เขามีเหตุผลเพียงพอว่า
ต้องการเอาไปป้องกันตัว คุ้มครองสิทธิ์ของเขาที่มีตามกฎหมาย อ่ะ
แต่พอมาเจอระบบ "ดุลยพินิจ" อันแสนพิศดาร ของนายทะเบียน ฮา
มันขัดต่อหลัก " สิทธิ์ และความ เสมอภาค" ความเป็นพลเมือง อ่ะ ฮา
เรื่องดุลยพินิจ อนุญาต หรือ ไม่อนุญาต เนี่ยะฮา
มันมีเรื่อง "เงิน" ทรัพย์สิน เข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกที่ ทุกแห่งไป อ่ะ ฮา
(ยายชมน๊า ปัจจุบัน นายทะเบียนอาวุธปืน เขตกรุงเทพ ยายเชื่อว่าดีขึ้นมาก
ชึ่งแตกต่างจากชนบท อีก เจ็ด เกือบแปดร้อยแห่ง อ่ะ ฮา)
ยายขัดข้องประเด็นเดียว อ่ะ ฮา
ทำมัยต้องให้ "บุคคล" ที่มีอาชีพรับราชการ มารับรองเรื่อง "ความดี" ฮา
ทำมัยต้องให้ ซีโน้น ซีนี้ ผู้ใหญ่ กำนัน มารับรอง เรื่องไร้สาระ ความเป็น "คนดี" ฮา
แล้วยิ่งมาพูดว่า ยกเหตุผลว่า ตอนรับรอง ไอ้หมอนี่ เป็น คนดี
หลังจากนั้นฉัน "ไม่รู้เรื่องด้วย" คนที่คิดอย่างนี้ ฮา

ยายว่าต้องใช้ จินตนาการ แบบเข้มข้น เลยอ่ะ ฮา
แล้วจะเอา เศษกระดาษ ใบเดียวมาทำมั้ย
เช็ดก้นก็ยังแสบ ยังเจ็บเลยอ่ะ ฮา

สู้ส่งให้หมอ หรือ "จิตแพทย์" เขาตรวจ ออกใบรับรองดีกว่า อ่ะ
ว่าสติ สัมปัญชัญญะ ดี ไม่บกพร่อง ไม่ขัดต่อคุณสมบัติตามพรบ. อาวุธปืนอ่ะ ฮา

ยายมีคำเสนอแนะ อ่ะ ฮา
ออกวิธี หรือมาตราการ มาเลย เอาใ้ห้ "เข้มข้น" แค่ไหนก็ได้ อ่ะ ฮา
ยายเชื่อว่า "พลเมืองดี" เขายอมรับกติกา ยอมรับวิธีอ่ะ ฮา
ไม่ใช่ ใช้ "ดุ้น" พินิจ อย่างเดียว อ่ะ ฮา
