จำนวนคนอ่านล่าสุด 130 คน
วันที่ 07 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8592 ข่าวสดรายวัน
มีสติ ทุกก้าวเดิน
หน้าต่างศาสนา
พระอาจารย์ศุภชัย สีลสังวโร สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ
การเดินทางของชีวิตควรต้องมีเป้าหมาย เมื่อรู้เป้าหมายแล้วเราก็จะไม่เหนื่อยหรือเสียเวลาไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่กว่าเราจะเข้าใจว่าเป้าหมายของชีวิตคืออะไรก็อาจต้องอาศัยเวลาศึกษากันเสียหน่อย และเมื่อเรารู้แล้วก็ต้องหาวิธีการเพื่อจะไปสู่เป้าหมายนั้น
หลายคนอาจเลือกวิธีไปสู่เป้าหมายให้เร็วที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะมาชื่นชม จนลืมเรียนรู้วิถีความงามสองฝั่งทางที่ก้าวเดินไป คงน่าเสียดายไม่น้อยหากเป้าหมายไม่หวานชื่นดังตั้งใจ แถมยังพลาดความงามตามรายทางอีกด้วย ขณะที่อีกหลายคนอาจไม่คิดแบบนั้น เขาเลือกเดินไปอย่างช้าๆ แล้วชื่นชมสองข้างทางอย่างมีความสุข
ในงานมหกรรมวิ่งมาราธอนระยะความไกลไม่ต่ำกว่าสี่สิบกิโลเมตร มีนักข่าวคนหนึ่งไปสุ่มถามนักวิ่งหลายคนโดยใช้คำถามชุดเดียวกันคือ
"เป้าหมายคุณคืออะไร?"ทุกคนต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
"เป้าหมาย คือ เส้นชัย"หลังจากเสียงปืนดังขึ้นบ่งบอกสัญญาณแห่งการเริ่มต้น ทุกคนพากันออกตัววิ่งเพื่อไปสู่เส้นชัย ขณะที่นักข่าวคนเดิมก็สังเกตดูอย่างใจจดใจจ่อว่า ตลอดระยะทางที่ไกลพอควร ใครจะเป็นผู้วิ่งมาเป็นคนแรก จะใช้เวลาเท่าไหร่ เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ นักวิ่งคนแรกก็เริ่มปรากฏตัวขึ้นเป็นชายวัยยี่สิบเจ็ดปี เขาวิ่งนำมาเป็นคนแรกและวิ่งเข้าเส้นชัยไปในที่สุด ตามมาด้วยนักวิ่งที่สองที่ห่างกันพอควร
นักข่าวเริ่มทำงานอีกครั้ง โดยเข้าไปสัมภาษณ์ผู้ชนะและ นักวิ่งอีกหลายๆ คน
"คุณรู้สึกยังไงที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก และตอนกำลังวิ่งคุณคิดอะไร" นักข่าวถาม ผู้ชนะตอบ
"ผมรู้สึกดีใจมากแม้มันจะเหนื่อยเอาการทีเดียว และตอนที่วิ่งผมคิดอย่างเดียวคือเส้นชัย เส้นชัย"
พอสัมภาษณ์ไปเรื่อยๆ จนถึงนักวิ่งคนสุดท้าย
"คุณรู้สึกยังไงที่เข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้ายในการแข่งขัน และตอนที่วิ่งคุณคิดอะไรอยู่?"
"ผมรู้สึกมีความสุขกับการวิ่งครั้งนี้มาก ผมเห็นผู้คนที่เชียร์สองฝั่งทางอย่างสนุกสนานพร้อมรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า เห็นดอกไม้ที่โผล่จากซอกคอนกรีต แม้ผมจะไม่ได้เป็นที่หนึ่งในการแข่งขัน แต่ผมได้เรียนรู้ความงามตามรายทาง และบอกกับตัวเองค่อยๆ วิ่งไปทีละก้าว เป้าหมายเรามีแต่การก้าวไปต้องรู้สึกตัวและมีความสุขด้วย"
แม้ชายคนแรกกับคนสุดท้ายจะมีเป้าหมายเหมือนกันคือเส้นชัย แต่ความแตกต่างระหว่างการเดินทางคือความสุขที่ใจได้สัมผัส พร้อมได้เรียนรู้จากสิ่งที่อยู่ริมสองข้างทาง
หากเราเข้าใจความหมายของการเดินให้ช้าลง ไม่ใช่หมายถึงให้เราลืมคุณค่าของเวลาไปเสีย เพราะทุกเวลานั้นมีค่า แต่เวลาของชีวิตนั้นควรจะเต็มไปด้วยสติทุกย่างก้าว เพียงแค่มีสติแล้วเดินไปข้างหน้าจะไม่มีคำว่าช้าหรือเร็ว แล้วขณะที่ก้าวเดินไปสู่จุดหมาย
เราจะพบเจอความสุขทุกก้าวเดินหน้า 23
คัดลอกจาก http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOekEzTURZMU53PT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE5DMHdOaTB3Tnc9PQ==