ไอ้แค่3000ต้น นี่ก็ปวดหัวแล้ว ยังมีอีกแปลง ประมาณ 5000 ต้น จะทำยังไงกันดีล่ะทีนี้ เวลาปลูกล่ะฝันหวานว่าจะรวย ถึงเวลาขายกลับไม่ได้ราคา เฮ้อ...
หล่มหลุมของงานทุกอย่างมีอยู่ครับ
สำหรับผมมองว่า ท่านมนตรีวางแผนแบบปลูกขาย และแน่นอนเมื่อต้องการขายต้องขายได้ หากสะดุดก็พาลท้อ
จริงๆ ไม้มันแค่ทรัพย์สินที่สภาพคล่องต่ำ ไม่ใช่ทอง ขายเมื่อไหร่ก็ได้
ระหว่างรอฤดูกาลก่อสร้างถัดไป ลองอ่านเล่นๆ
ไม้โตเร็ว เช่น ไม้ยูคาลิปตัส ไม้สะเดาเทียม การเจริญเติบโตที่รวดเร็วของไม้ทำให้เกิดแรงเค้นขึ้นในเนื้อไม้ โดยไม้ที่มีอายุน้อย
แรงเค้นจากาการเจริญเติบโต ( growth stress ) ค่อนข้างรุนแรงทำให้เกิดอาการแตกที่ปลายไม้ได้ง่าย ดังนั้น ในการอบแห้ง
จำเป็นต้องทาสีที่หัว-ท้ายของไม้ เพื่อลดการคายความชื้นในไม้เร็วเกินไป ขณะเดียวกันปลายไม้ทั้งสองด้านต้องใช้ไม้คั่นวาง
ทั้งสองด้านให้พอดีกับหัวและปลายไม้และบนสุดของกองไม้ ควรวางน้ำหนักกดทับกองไม้ด้วย เนื่องจากไม้โตเร็วเมื่อศูนย์เสีย
ความชื้นในไม้ แรงเค้นจากการเจริญเติบโตจะโดนปล่อยออกมาด้วย อาจทำให้ไม้เกิดตำหนิ โก่ง หรือโค่งได้ เพื่อป้องกันและลด
อาการดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเอาน้ำหนักทับกองไม้ไว้ขณะทำการอบแห้งหรือผึ่งในกระแสอากาศ ดังนั้นรูปแบบในการแก้ไข
ปัญหาเกี่ยวกับไม้โตเร็วจำเป็นต้องสังเกตุอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับไม้ จากที่กล่าวมาข้างต้นมิได้เป็นข้อปฏิบัติตายตัวจำเป็นที่ผู้
ปฏิบัติต้องบันทึกจดไว้ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการอบหรือการผึ่งแห้ง
อีกอัน
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=24929.64แบบบ้านไม้ยูคาอีกแบบ
