เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 15, 2025, 09:08:49 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: .22 LR หัวระเบิด  (อ่าน 10044 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
บอย 14
Sr. Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 906


อ่อนโยนได้แต่อย่าอ่อนแอ


« ตอบ #15 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2006, 11:07:43 PM »

..ขอบคุณมากครับ  ได้ความรู้เยอะเลยครับ...
บันทึกการเข้า

                            
อย่ามองแต่ฟ้า...ที่สูงเกินตาประจักษ์
ความสุขข้างล่าง...มีได้ไม่ยากเย็นนัก
เมื่อรู้แล้ว...จัก....ภาคภูมิชีวิตแห่งตน...
saranrom41
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 158


« ตอบ #16 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2006, 11:43:23 PM »

เรียน ท่านอาจารย์ผณิศวรและทุกๆ ท่าน ด้วยความเคารพครับ
ข้อมูลที่ผมนำมากล่าวอ้างนี้ เป็นข้อมูลที่ผมได้จากการเข้ารับการฝึกอบรมเรื่อง VIP Protection โดยผู้ที่ให้การอบรมเป็นเจ้าหน้าที่ Secret Service และหนึ่งในเจ้าหน้าที่ Secret Service ที่มาให้การอบรมนั้นเป็น ๑ ในทีมที่ให้การอารักขาประธานาธิบดีเรแกนและเป็นผลัดที่กำลังจะไปรับหน้าที่ต่อจากผลัดที่ให้การอารักขา ปธน. เรแกน ขณะเกิดเหตุ ซึ่งตัวเขาเองก็อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุด้วย
ได้บรรยายให้ฟังพร้อมทั้งการฉายภาพวีดีโอให้ดูด้วย ซึ่งหากผมจำไม่ผิด "ปืนที่ใช้เป็น Charter Arm ขนาด .๒๒ ลูกกระสุนที่ใช้
เป็นยี่ห้อ Mag Safe"  ซึ่งเป็นลูกกระสุนแบบเดียวกับยี่ห้อ Glaser Slug (ไม่มั่นใจว่าพิมพ์ Glaser Slug ถูกหรือไม่) ที่ได้ชมภาพจาก
วีดีโอนั้นผมแทบจะไม่เชื่อสายตาว่าเจ้าหน้าที่ Secret Service ซึ่งตัวใหญ่มากที่ถูกยิงด้วยกระสุนขนาด .๒๒ จากปืนลูกโม่กระบอก
ไม่ใหญ่ จะถึงกับกระเด็นตัวลอยล้มหงายหลังลงได้  ส่วนตัว ปธน. เรแกน นั้น ถูกแค่สะเก็ดของหัวลูกกระสุน ซึ่งกระสุนนัดนั้นได้
กระทบกับบานประตูรถยนต์หุ้มเกราะและหัวกระสุนที่แตกออกหลังจากกระทบกับบานประตูได้แฉลบพุ่งเข้าไประหว่างบานประตูกับ
บานพับที่ยึดประตูของรถยนต์ที่กำลังจะปิด ซึ่งนับว่าโชคดีมากที่ในวันนั้นรถยนต์หุ้มเกราะคันที่ใช้นั้นเป็นคันที่บานประตูหลัง
แตกต่างจากรถยนต์คันอื่นๆ คือ เปิดออกจากตัวรถยนต์แล้วบังตัว ปธน. เรแกนไว้ ไม่เช่นนั้นวันนั้น อาจจะได้รับกระสุนปืนเข้าไป
เต็มๆ คนร้ายที่ยิงยืนอยู่เฉียงไปทางท้ายรถยนต์ (ขออธิบายเพิ่มเติม รถยนต์คันนั้นประตูเปิดปิดมีลักษณะแบบรถยนต์โบราณ ไม่ทราบว่าพอจะนึกออกหรือไม่ครับ เคยมีรถเฟียตรุนหนึ่งที่เข้ามาบ้านเราประตูจะเปิดในลักษณะนั้น คือหากเราหันหน้าเข้าหาประตูรถด้านหลัง ปรกติเสากลางของตัวรถจะมีบานพับยึดประตูไว้คือด้านขวามือของเราส่วนมือจับที่เปิดประตูรถจะอยู่ไปทางท้ายรถคือด้านซ้ายมือของเรา  แต่รถคันที่ว่านี้จะกลับกันคือบานพับยึดประตูรถจะอยู่ด้านซ้ายมือของเราคือไปทางท้ายรถ ส่วนมือจับที่เปิดประตูรถจะอยู่ตรงกลางรถยนต์คือด้านขวามือของเรา)
ขอเรียนเพิ่มเติมเล่าสู่กันฟังว่า หลังจากที่รถยนต์หุ้มเกราะที่ ปธน. เรแกน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ Secret Service ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชุด หรือ Detail Leader ซึ่งเป็นผู้ที่ได้จับตัว ปธน. เรแกน เหวี่ยงเข้าไปในตัวรถยนต์และตัวเองก็กระโดดทับลงไปบนตัว ปธน. เรแกน เพื่อเป็นเกราะกำบังอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามหลักการอารักขาแล้ว รถยนต์ได้เคลื่อนออกจากที่เกิดเหตุทันที ต่อจากนั้น ตัว DL ได้สอบถาม ปธน. เรแกน ว่าเป็นอะไรหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่าไม่เป็นไรและให้รถแล่นกลับไปยังทำเนียบ ปธน. ซึ่งถือว่าเป็นที่ๆ ปลอดภัยที่สุดและไม่ไกลจากที่เกิดเหตุเท่าไร  ซึ่งตอนแรกก็จะปฏิบัติตามเช่นนั้น แต่ด้วยความที่ DL ถูกฝึกมาให้เป็นคนช่างสังเกตุ ได้มองสำรวจตามร่างกายของ ปธน. เรแกน อีกครั้งหนึ่งได้พบว่ามีเลือดออกมาจากริมฝีปากของ ปธน. เรแกน ตัว DL จึงออกคำสั่งให้นำรถยนต์ตรงไปโรงพยาบาลทันที ซึ่งตัว ปธน. เรแกนก็ยังยืนยันว่าไม่เป็นไรไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อรถยนต์นำ ปธน. เรแกน ไปถึงโรงพยาบาลแล้ว ตัวปธน. ก็ยังยืนยันว่าไม่เป็นไร เดินลงจารถด้วยตัวเอง แต่ว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ทรุดล้มลง  ภายหลังเมื่อได้ทำการตรวจตามร่างกายแล้วก็ได้พบบาดแผลที่ด้านข้างเป็นสะเก็ดกระสุนปืนที่มีความคมบาดเข้าไปในตัว (ผมจำไม่ได้ว่าเข้าไปถึงปอดหรืออย่างไรไม่ทราบจึงทำให้มีเลือดออกมาทางปาก)   
ก็ขอเรียนเล่าสู่กันฟังครับ ข้อมูลของผมนั้น ผมไม่ได้ยืนยันนะครับว่าจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ๑๐๐ % เป็นแต่เพียงสิ่งที่ผมได้พบได้รับมาก็นำมาบอกกล่าวต่อเท่านั้นครับซึ่งเป็นเหตุที่ผมต้องกล่าวอ้างถึงที่มาข้างต้นครับ  ท่านอื่นอาจจะมีข้อมูลที่ถูกต้องกว่าผมก็ได้ครับก็มาแบ่งปันกันให้ทราบบ้างนะครับ  ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
Charoon รักในหลวงครับ
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1044
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12332


เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือคนรักกัน


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2006, 05:40:30 AM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

"สิ่งที่ควรทำคือความดี สิ่งที่ควรมีคื่อคุณธรรม สิ่งที่ควรจำคือผู้มีrระคุณ"
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2006, 06:08:27 AM »

ไม่ใช่ .22 แต่ก็เป็น Devastator bullets เหมือนกัน



เมื่อหัวกระสุนถูกยิงและวิ่งไปกระทบเป้าหมาย

หัวรูจากภาพที่แสดงด้านบน  มันจะบานมากกว่าปกติหรือเปล่าครับ
บานออกมาครับ ลองดูที่เค้าเขียนไว้ที่นี่ครับ http://www.lasc.us/LymanDevastator.htm
บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2006, 06:10:53 AM »

ลองอ่านเพิ่มเติมที่นี่เกี่ยวกับกระสุนที่ยิง Regan
True exploding bullets were ....... http://jcp.bmjjournals.com/cgi/eletters/56/4/254
บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #20 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2006, 06:14:00 AM »

ไม่ใช่ .22 แต่ก็เป็น Devastator bullets เหมือนกัน


หัวกระสุนแบบนี้ ที่เมกา ขายแพงไหมครับ
ไม่มีขายครับ แต่มี mold ให้หล่อลูกเองได้ Wink
บันทึกการเข้า
ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 1428
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6023



« ตอบ #21 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2006, 07:43:45 AM »

ขอบคุณคุณสราญรมย์ที่ให้รายละเอียดครับ ช่วงที่รีแกนโดนยิงข่าวทีวีให้ดูภาพ "หัวกระสุน" เกือบถึงหัวใจ  ที่จริงเป็นแค่สะเก็ด

สงสัยนิดหน่อยว่า จนท. ที่โดนเต็มๆ นั้น เสียชีวิตหรือไม่ครับ

จากเว็ปที่คุณ USP40 ลิงค์ให้มานะครับ
True exploding bullets were first described over a century ago, and, though not actually in use at that time, were prohibited under the St. Petersburg Declaration of 1868, which states that explosive or inflammable projectiles, with a weight of less than 400 grams, should never be used in the time of war.....
....The most infamous use of such bullets was the attempted assassination of President Reagan in 1981 by John Hinckley, who used “Devastator” bullets (Bingham Limited, USA) composed of a lacquer-sealed aluminium tip with a lead azide centre designed to explode on impact....
.....
Finally, it is interesting to note that the Devastator bullet was developed in the 1970s for use by sky marshals, to minimise the risk of penetration of the plane fuselage when incapacitating a hijacker; a concept that appears to be return in light of recent world events.

ผู้ออกแบบกระสุน Devastator ตั้งใจจะให้เจ้าหน้าที่ใช้ในเครื่องบิน  ยิงถูกคนจะระเบิดหรือไม่ระเบิดก็ไม่ต่างกัน (คือไม่น่ารอด) แต่ถ้ายิงผิดหรือทะลุออกไปกระทบตัวถังเครื่องบินแล้วจะระเบิดค่อนข้างแน่  จุดประสงค์เพื่อไม่ให้ตัวเครื่องบินทะลุครับ
บันทึกการเข้า

ผมเป็นลูกหลานจีนอพยพ  ทวดแซ่อิ๊ว ตาแซ่เล้า ปู่แซ่อึ๊ง   
เมืองไทยให้โอกาสทุกอย่าง  ไม่มีข้ออ้างเรื่องชนชั้น
ผมได้กราบแทบพระบาทในหลวงเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต
Rz' club
เฮา..ว่าแล้ว..
Full Member
***

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 423

Non-commissioned Officer


« ตอบ #22 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2006, 11:55:29 AM »

 เยาะเย้ย เยาะเย้ยสุดยอดของข้อมูลเลยครับ เยาะเย้ย เยาะเย้ย
บันทึกการเข้า

saranrom41
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 158


« ตอบ #23 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2006, 06:16:49 PM »

ขอขอบคุณท่านอาจารย์ผณิศวรและท่าน USP40 ครับ ที่ได้ให้ความรู้เพิ่มเติมครับ  ผมเองก็จำไม่ได้ว่า จนท. คนนั้นเสียชีวิตหรือไม่ (อาจจะไม่ทันฟังผู้บรรยาย เพราะมัวแต่สนใจภาพเตการณ์อื่นๆ อยู่) แต่เข้าใจเอาเองว่าไม่น่าจะเสียชีวิตเพราะปรกติพวกนี้จะใส่เสื้อเกราะกันกระสุนอยู่ตลอดเวลา  ต้องขอโทษด้วยครับที่จำไม่ได้จริงๆ
บันทึกการเข้า
แจ็ค
"กำบ่มีอย่าไปอู้...กำบ่ฮู้อย่าได้จ๋า"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 461
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7529


« ตอบ #24 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2006, 08:12:52 PM »


......เข้ามาเก็บข้อมูล  โดยไม่มีอะไรมาแลกเปลี่ยน  ขอบพระคุณครับผม ........
บันทึกการเข้า

... เมื่อความกลัวถึงขีดสุด  มันจะเกิดเป็นความกล้าที่บ้าบิ่น ...
bow_54
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 44


« ตอบ #25 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2006, 10:28:02 PM »

armscore HC ครับ.................


บันทึกการเข้า
Padang
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 6061



« ตอบ #26 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2006, 12:36:07 AM »

จนท. ที่โดนเต็มๆ นั้น เสียชีวิตหรือไม่ครับ
มีผู้โดนยิง 4 คน คนแรกตำรวจในเครื่องแบบดิลาแฮนตี้ถูกยิงที่ก้านคอหลังกรามด้านซ้าย กระสุนไม่ระเบิด
เจ้าหน้าที่ราชการลับทิโมธี เม็คคาธี่ ถูกที่พุงหัวกระสุนไม่ระเบิด
โฆษกทำเนียบขาว เจมส์ เบรดี้ โดนหน้าผากเหนือคิ้วซ้าย หัวกระสุนระเบิด สมองเสียหายมาก เป็นอัมพาตอยู่หลายปี แล้วก็เสียชีวิต เท่าที่อ่านมาก็ไม่บอกว่าอีกสองคนที่โดนยิงเสียชีวิตทันทีไหม แต่เรแกนโดนนั้นเพราะกระสุนไม่ระเบิด
โดนรถหุ้มเกราะและแฉลบ ถ้าไม่หุ้มเกราะคงทะลุเข้าไป ก็เลยสงสัยว่ากระสุนนั้นเป็นหัวระเบิดจริงๆหรือ? Smiley Smiley Smiley
บันทึกการเข้า


พวกเราอยูได้ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ
ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 1428
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6023



« ตอบ #27 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2006, 03:57:40 PM »

เรื่องยิงรีแกน จะออกทีวีช่อง Discovery วันที่ 12 พ.ย. นี้ครับ ลองติดตามดูครับ
บันทึกการเข้า

ผมเป็นลูกหลานจีนอพยพ  ทวดแซ่อิ๊ว ตาแซ่เล้า ปู่แซ่อึ๊ง   
เมืองไทยให้โอกาสทุกอย่าง  ไม่มีข้ออ้างเรื่องชนชั้น
ผมได้กราบแทบพระบาทในหลวงเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #28 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2006, 04:50:08 PM »

ขอบคุณทุกท่านคับ...

เยี่ยมมากคับ...Grin
บันทึกการเข้า
nopparat ( กาฬสินธุ์ )
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 88
ออฟไลน์

กระทู้: 615



« ตอบ #29 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2006, 10:12:58 PM »

สวัสดีครับทุกท่าน ผมเป็นอีคนที่ชอบกระสุนจุด 22 คือผมอยู่ต่างจังหวัดครับในช่วงวันหยุดก็จะ
ชวนท่านๆ ไปชมป่ากัน ปืนที่ติดตัวไปด้วยคือ CZ 452 .22 ซึ่งบางทีกระสุนจุด 22 มีอำนาจสังหารแต่ไม่มีอำนาจหยุดหยั้ง ซึ่งบางทีในการป้องกันตัวจากสัตว์ ก็ไม่สามารถจะหยุดหยั้งได้ทันที หรือในการยังชีพเช่นในการจับไก่ป่า
ก็ไม่สามารถหยุดสัตว์ได้ทันที นอกจากยิงเข้าจุดตายเช่นหัว ด้วยเหตุนี้เองทางทีมงานจึงดัดแปลงหัวกระสุน.22 ที่มีอำนาจสังหารที่สูงขึ้น
ถ้าท่านเจ้าของกระทู้ไม่ว่าอะไรกระผมก็จะส่งภาพมาให้ทุกท่านได้ชมกัน รับรองไม่ผิดหวังครับของนอกชิดซายของไทยครับ
 
บันทึกการเข้า

นักะติ๊ Club ขยับจะยิงแต่รักจริงนะจ๊ะจุ๊บๆ
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.131 วินาที กับ 21 คำสั่ง