เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 09, 2025, 10:45:55 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาตราฐาน 2 ระดับ  (อ่าน 2034 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kwan -รักในหลวง-
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 11
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 260


BU14 (9โมง)


« เมื่อ: ตุลาคม 16, 2006, 07:50:17 AM »

เจาะปมไม่โปร่งใส-เลือกปฏิบัติ ใบอนุญาตซื้อปืน ดุลพินิจแบบไทยๆ

รายงาน

กาลครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานนี้ ลูกนักการเมืองใหญ่ระดับอภิรัฐมนตรี ยื่นขอใบอนุญาตซื้อปืน 5 กระบอก รวมป—นไรเฟ”ล เจ้าหน้าที่ของรัฐในยุคระบอบทักษิณ เรืองอำนาจ ใช้ดุลพินิจเซ็นอนุญาตรวดเร็ว ราวกับฟ้าแลบ

ในขณะที่นักกีฬายิงปืนสมัครเล่นคนธรรมดาๆ ไม่มีเส้น ไม่มีสาย ยื่นขอแบบเดียวกัน แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ดุลพินิจปฏิเสธ แบบสองมาตรฐาน ทั้งๆ ที่คุณสมบัติ ไม่แตกต่างจากลูกชายนักการเมืองใหญ่ (มาก)

ผู้ที่ถูกปฎิเสธการออกใบอนุญาต ลุกขึ้นสู้ปกป้องสิทธิตามกฎหมายของตนเอง ใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับการอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน (แบบ ป.3) ในเดือนมีนาคม-เมษายน 2549

เมื่อกรณีดังกล่าวขึ้นสู่การพิจารณาของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สมุนนักการเมืองใหญ่ จึงรีบเข้ามาเคลียร์ในทันควัน ล็อบบี้เจ้าหน้าที่ของรัฐให้อนุญาตการออกใบอนุญาตซื้อปืนภายในเวลาอันรวดเร็ว แล้วขอให้ผู้เสียหายไปถอนเรื่องออกจากคณะกรรมการ เพื่อให้เรื่องจบไป..

แต่ประเด็นปัญหาคือ ยังมีคนที่ยื่นใบอนุญาตซื้อปืนแบบเดียวกันอีกหลายราย ที่ถูกเลือกปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน และที่ไม่ถูกต้องยิ่งกว่านั้น คนในวงการแฉว่า ไม่ใช่แค่เรื่องดับเบิลสแตน ดาร์ด แต่ยังมีเรื่องเงินใต้โต๊ะอีกต่างหาก นี่คือ เรื่องใหญ่ที่นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ต้องเข้าไปสะสาง ขยะใต้พรมในยุคทักษิณ

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" สำรวจร้านค้าปืน ย่านวังบูรพา กทม. เจ้าของร้านปืนรายหนึ่งเปิดเผยว่า การครอบครองอาวุธปืน ว่า ควรจะไปขอแบบ ป.3 ที่กรมการปกครอง (วังไชยา) โดยการเตรียมเอกสารไปให้ครบ อาทิ หนังสือรับรองการมีอาชีพ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดเงินฝาก ซึ่งต้องมีฐานบัญชีไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และข้าราชการระดับ 6 หรือนายตำรวจยศ พันตำรวจโท หรือนายทหารยศพันโท เป็นผู้ค้ำประกัน เป็นต้น

"อย่างปืนขนาด 9 ม.ม.ออโตเมติก ราคาอย่างต่ำอยู่ที่ประมาณ 6-7 หมื่น ซึ่งถ้ารุ่นที่ดีมีระดับขึ้นมาประมาณ 9 หมื่นถึงแสนนิดๆ ถ้าพี่ซื้อที่นี่ ทางร้านจะจัดการทำเรื่องติดต่อให้เลย แต่ถ้าพี่ไปทำเรื่องเองก็ต้องเสีย 4,000 บาท" คนดูแลร้านปืนคนหนึ่งกล่าว

ในขณะที่บางร้านเปิดเผยว่า หากต้องการมีอาวุธปืน เพียงแค่มีเอกสารครบก็สามารถขอแบบ ป.3 ได้เลย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

"ผมแนะนำให้ไปทำเรื่องติดต่อด้วยตัวเอง ยอมเสียเวลาหน่อย เพราะถ้าฝากหน้าม้าไปอาจจะต้องเสียเงิน ซึ่งจะเสียเท่าไรนั้นไม่ทราบได้ เพราะมีการระบุว่า อยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ตรงนี้อยู่ที่ตกลงกันเอง เป็นเหมือนสินน้ำใจ บางคนไปแล้วพูดจาไม่ถูกหูเจ้าหน้าที่ 6 เดือนยังไม่ได้ก็มี"..

ใบขออนุญาตซื้ออาวุธปืน (แบบ ป.3) กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ถูกผู้ร้องเรียนโวยไม่ได้รับความเป็นธรรม เลือกปฏิบัติ ร้านขายปืนอ่วมจ่ายค่าโควตา 3.5 หมื่นต่อปี ระบบราชการเละแนวโน้มปืนเถื่อนสร้างปัญหา

ขั้นตอนการซื้อปืน มี 4 ขั้นตอน คือ 1.คำร้องทั่วไป (แบบ ป.1) 2.ใบขออนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน (แบบ ป.3) 3.ใบอนุญาตให้มีให้ใช้อาวุธปืน

(แบบ ป.4) และใบขออนุญาตพกพกอาวุธปืน (แบบ ป.12)

อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า ในอดีตการขอใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน (แบบ ป.3) เมื่อครั้งยังอยู่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีขั้นตอนและความโปร่งใสมากกว่าในปัจจุบัน ที่ย้ายมาอยู่ในความรับผิดชอบของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

"ตอนอยู่กับตำรวจ มีความโปร่งใส ไม่จ่ายเงิน หมายความว่าถ้าคุณมีเอกสารครบก็ให้เลย แม้ว่าการขออนุญาตมีปืนกระบอกแรกจะยาก ต้องผ่านการตรวจสอบพอสมควร มีสายตรวจไปถามคนละแวกบ้านผู้ที่ขอ กระบอกแรกจะยากแต่กระบอกต่อไปเมื่อคุณไม่มีประวัติด่างพร้อยก็สามารถขอได้ง่าย โดยไม่ต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ แต่เมื่อย้ายมาอยู่ที่กรมการปกครองประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่า การขออนุญาตกระบอกแรกนั้นง่ายมาก ถ้าคุณไม่เคยมีปืนมาก่อน ทางกรมการปกครองจะออกให้เลย แต่พอมีแล้วกระบอกต่อไปจะเป็นเรื่องยากมาก และที่สำคัญคือเรื่องเงินใต้โต๊ะ" แหล่งข่าวในวงการปืนกล่าว

แหล่งข่าวจากวงการปืนรายหนึ่งยืนยันว่า

ทุกวันนี้ในการที่จะขอมีใบอนุญาตซื้ออาวุธปืน (แบบ ป.3) หรือใบอนุญาตให้มีให้ใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4) นั้น มีวิธีอยู่หลายวิธี โดยมีวิธีที่ง่ายคือการจ่ายค่าเสียเวลาให้ร้านที่จำหน่ายปืนไปจัดการตามขั้นตอนให้ ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 7,000 บาท

ส่วนอาวุธปืนประเภทต่างๆ ก็มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป เช่น ไรเฟิล เสียค่าใช้จ่ายประมาณกระบอกละ 12,000 บาท ในขณะที่ .45 ตกประมาณ 7,000-10,000 บาท หรือ ขนาด 9 ม.ม. เสียประมาณ 5,000 บาท เป็นต้น

จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า ร้านจำหน่ายอาวุธปืน ยังต้องจ่ายให้กับกรมการปกครองปีละ 35,000 บาท โดยแต่ละร้านจะได้โควตาการสั่งปืนเข้ามาจำหน่าย โดย 1 โควตาจะสามารถสั่งปืนสั้นได้ปีละ 30 กระบอก ปืนยาว 50 กระบอก

ซึ่งรวมทั้งหมดมี 200 กว่าโควตา

โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า โควตาสวัสดิการของกระทรวงมหาดไทย ปรากฏว่ามีจำนวนอาวุธปืนมากกว่าร้านปืนทุกร้านในประเทศไทยรวมกัน

แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวว่า เมื่อการขออนุญาตซื้ออาวุธปืน เปลี่ยนมาอยู่ภายใต้การดูแลของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยแล้ว กลับมีความไม่โปร่งใสขึ้น

"แม้ว่ามีหลักฐานครบ แต่ก็จะเสียเวลามากกว่าจะได้ใบอนุญาตให้ซื้อ แต่ถ้ายอมจ่ายเงินเป็นค่าเสียเวลาก็จะทำให้เรื่องเร็วขึ้น ซึ่งเราเป็นเพียงคนธรรมดาที่มีเอกสารครบทุกอย่าง ไม่รู้จะต้องไปเสียเงิน 4-5 พันบาททำไม ซึ่งตรงนี้ถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม นอกจากนี้ถ้าคุณเกี่ยวพันกับผู้มีอำนาจ หรือยอมจ่ายเงิน มันจะเป็นเรื่องง่ายและเร็ว" แหล่งข่าวกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดือนมีนาคม มีผู้พบเห็นลูกนักการเมืองใหญ่ กำลังเลือกอาวุธปืน และสอบถามเจ้าของร้านถึงใบอนุญาต พร้อมทั้งกรอกรายละเอียดหมายเลขปืนที่เลือกซื้อ ซึ่งภายใน 2-3 วัน พบอีกว่า ทายาทนักการเมืองได้มอบอำนาจให้ร้านค้าอาวุธปืนยื่นคำขออนุญาตซื้ออาวุธปืน เป็นจำนวน 5 กระบอก และได้รับใบอนุญาตทั้งหมดภายในระยะเวลาเพียง 1-2 สัปดาห์

"ถามว่าเป็นสิทธิของทายาทบิ๊กนักการเมืองที่จะมีปืนหรือเปล่า ก็เป็นสิทธิที่ถูก เพียงแต่ประเด็นคือ นายทะเบียนไม่มีสิทธิที่จะเลือกปฏิบัติต่อผู้ที่ยื่นคำขอแตกต่างกัน เหมือนไม่มีมาตรฐาน เป็นความผิดของนายทะเบียนอาวุธปืน ไม่ใช่ความผิดของลูกบิ๊ก" แหล่งข่าวกล่าว

จากการตรวจสอบตามวันและเวลาที่ลูกนักการเมืองใหญ่ ไปซื้อปืนนั้น ปรากฏว่า เป็นอาวุธปืนไรเฟิลแรงสูง ยี่ห้อสไตเออร์ โมเดล SSG ที่ออกแบบมาสำหรับการลอบสังหารด้วยการซุ่มยิง สีเขียวทหาร ติดศูนย์กล้องกำลังแรงสูง ซึ่งตามปกตินายทะเบียนอาวุธปืนกรุงเทพมหานครจะไม่ออกใบอนุญาตให้กับประชาชนทั่วไป

เรื่องแบบนี้ นายอารีย์ควรรีบไปตรวจสอบ

หน้า 39
อ้างถึง ประชาชาติธุรกิจ หน้า39
บันทึกการเข้า

ฅนแผ่นดิน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4
ออฟไลน์

กระทู้: 1454

ช่างบั้งไฟและไกปืน


« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2006, 08:19:44 AM »

เป็นความเป็นจริงที่ผมเองประสปมาด้วยตัวเองครั้งหนึ่ง มันน่าแค้นใจที่สุด สำหรับการกระทำแบบนี้ ตรวจสอบเราก็ให้ตรวจสอบทุกอย่าง คุณสมบัติก็พร้อมทุกอย่าง ยังจะมาเอาอะไรกันอีก ทำงานอย่างนี้มันไม่เหมาะเลย เบื่อ มากแล้วครับทุกวันนี้
บันทึกการเข้า
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2006, 08:59:22 AM »

ขอบคุณครับ.........
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
mp16
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 36


« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2006, 09:10:43 AM »

จากการตรวจสอบตามวันและเวลาที่ลูกนักการเมืองใหญ่ ไปซื้อปืนนั้น ปรากฏว่า เป็นอาวุธปืนไรเฟิลแรงสูง ยี่ห้อสไตเออร์ โมเดล SSG ที่ออกแบบมาสำหรับการลอบสังหารด้วยการซุ่มยิง สีเขียวทหาร ติดศูนย์กล้องกำลังแรงสูง ซึ่งตามปกตินายทะเบียนอาวุธปืนกรุงเทพมหานครจะไม่ออกใบอนุญาตให้กับประชาชนทั่วไป
........................

ถ้าเป็นตามข่าวจริง  ร้านเค้าจะบอกเหรอ ว่าเค้าขายปืนผิดกฏหมาย ผมว่าคนเขียนข่าว ยังไม่รู้เรื่องปืนมากเพียงพอนะครับ เห็นตั้งแต่ข่าวแรกๆแล้ว บิดเบือนไปมา เขียนแบบไม่รู้จริง พอวันไหนเกิดรัฐบ้าจี้เอาจริงๆคนรับกรรม ไม่ใช่ลูกนักการเมืองหรอก แต่เป็นคนเล่นปืนแบบเราๆนี่แหละ
บันทึกการเข้า
นายฉาบฉวย
หนูจะเอา Baer
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 72
ออฟไลน์

กระทู้: 1148



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2006, 09:12:11 AM »

ผมถือคติ....ถ้าขอแล้วต้องได้
ผมเคยได้มาแล้ว กระบอกต่อไปย่อมต้องได้
เพราะถือว่าผ่านการรับรองมาจากกระบอกแรกแล้ว
บันทึกการเข้า

Kwan -รักในหลวง-
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 11
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 260


BU14 (9โมง)


« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2006, 07:16:30 PM »

ผมข้องใจขอทีเดียว 5 กระบอกได้หรือเปล่า ถ้าทีละ 1 กระบอก 2 กระบอกก็พอทน Huh :Smiley
บันทึกการเข้า

คูณ 3 superแก๊งค์
Sr. Member
****

คะแนน 40
ออฟไลน์

กระทู้: 790



« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2006, 07:28:44 PM »

ครับ ปฏิเสธคงไม่ได้
เพราะสังคมไทย มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
หวังว่าในอนาคตมันคงจะดีขึ้นกว่านี้สักหน่อย


บันทึกการเข้า

***....จงมีและใช้ธรรมะ    เป็นเครื่องมือ เป็นอาวุธ ....***
Desperado - รักในหลวง
แก่ ขี้บ่น อ้วน นิสัยไม่ดี งี่เง่า ปทุมธานี
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 156
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2434



« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2006, 08:07:19 PM »


อ้างอิง :   http://en.wikipedia.org/wiki/Steyr_SSG_69
บันทึกการเข้า

เหม็นขี้หน้า นักการเมือง และสุนัขรับใช้นักการเมือง
jamin
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 9
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1356


« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2006, 02:51:45 AM »

เห็นด้วยครับ

ครับ ปฏิเสธคงไม่ได้
เพราะสังคมไทย มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
หวังว่าในอนาคตมันคงจะดีขึ้นกว่านี้สักหน่อย



บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2006, 04:14:49 PM »

จากการตรวจสอบตามวันและเวลาที่ลูกนักการเมืองใหญ่ ไปซื้อปืนนั้น ปรากฏว่า เป็นอาวุธปืนไรเฟิลแรงสูง ยี่ห้อสไตเออร์ โมเดล SSG ที่ออกแบบมาสำหรับการลอบสังหารด้วยการซุ่มยิง สีเขียวทหาร ติดศูนย์กล้องกำลังแรงสูง ซึ่งตามปกตินายทะเบียนอาวุธปืนกรุงเทพมหานครจะไม่ออกใบอนุญาตให้กับประชาชนทั่วไป
........................

ถ้าเป็นตามข่าวจริง  ร้านเค้าจะบอกเหรอ ว่าเค้าขายปืนผิดกฏหมาย ผมว่าคนเขียนข่าว ยังไม่รู้เรื่องปืนมากเพียงพอนะครับ เห็นตั้งแต่ข่าวแรกๆแล้ว บิดเบือนไปมา เขียนแบบไม่รู้จริง พอวันไหนเกิดรัฐบ้าจี้เอาจริงๆคนรับกรรม ไม่ใช่ลูกนักการเมืองหรอก แต่เป็นคนเล่นปืนแบบเราๆนี่แหละ

น่าจะเป็นเรื่ืองจริงครับ
ข้อความนี้นักข่าวลอกมาจากรายงานการประชุมของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร สำนักงานข้อมูลข่าวสารของราชการ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.074 วินาที กับ 21 คำสั่ง