เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 09, 2025, 01:50:13 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปี49 คนไทยล้มละลาย กว่าแสนล้าน  (อ่าน 2131 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« เมื่อ: ตุลาคม 16, 2006, 11:46:11 PM »

ฟ้องล้มละลายลูกหนี้1.3แสนล. 
 
แบงก์พาณิชย์เครื่องร้อนเร่งปิดบัญชีหนี้ ไล่ฟ้องล้มละลายทั้งบุคคลธรรมดาจนถึงนิติบุคคล หลังติดตามหนี้ตามกระบวนการทางแพ่งถึงที่สุดแล้วแต่ไร้ผล ศาลล้มละลายกลางเผยตัวเลขช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนคดีฟ้องล้มละลายเพิ่มจาก 8,021 คดี เป็น 9,881 คดี ทุนทรัพย์ 1.3 แสนล้านบาท ด้านนายแบงก์ยอมรับต้องงัดมาตรการขั้นเด็ดขาดเร่งรีดหนี้ส่วนที่เหลือเพื่อปิดบัญชีเอ็นพีแอลและสนองนโยบายแบงก์ชาติลดหนี้เหลือ 2%ในปี 2550

ศาลล้มละลายกลางรายงานตัวเลขการดำเนินคดีในระยะ 9เดือนแรกของปี 2549 (ตั้งแต่มกราคม จนถึง 10ตุลาคม 2549) พบสถิติคดีล้มละลาย
เข้าสู่กระบวนการสูงถึง 9,881 เรื่อง ทุนทรัพย์ 1.3 แสนล้านบาท เทียบกับสิ้นปี 2548 ที่มีจำนวนคดี 8,021 คดี ทุนทรัพย์ 4.08 แสนล้านบาท ส่วนคดีฟื้นฟูกิจการมีจำนวน 33คดีทุนทรัพย์ 5.3หมื่นล้านบาท จากสิ้นปี 2548 ที่มีปริมาณคดี 38คดี ทุนทรัพย์ 3.07หมื่นล้านบาท และคดีสาขาอีกจำนวน 140คดีไม่ระบุทุนทรัพย์

นายสงคราม สกุลพราหมณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกฎหมาย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ธนาคารจำเป็นต้องฟ้องคดีล้มละลายลูกหนี้รายย่อยเพิ่มขึ้น ทั้งรายบุคคลที่มีหนี้เหลือเกิน 1ล้านบาทและนิติบุคคลที่มีมูลหนี้เหลือเกิน 2ล้านบาทตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งหนี้เหล่านี้เป็นหนี้ที่ธนาคารได้ติดตามจนถึงที่สุดแล้วตามกระบวนการทางแพ่ง โดยธนาคารได้รวบรวมทรัพย์ออกขายทอดตลาดจนไม่สามารถสืบทรัพย์ ดังนั้นการฟ้องคดีล้มละลายจึงเป็นการฟ้องคดีเก่าที่ตามลูกหนี้ไม่ได้แล้วเพื่อจะจำหน่ายหนี้สูญ ซึ่งเป็นผลดีต่อระบบบัญชีธนาคารและเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ได้เริ่มต้นใหม่ เพราะหลังจากที่ศาลมีคำสั่งให้ล้มละลายกรณีบุคคลธรรมดานั้นก็จะได้ปลดสภาพจากเป็นบุคคลล้มละลายภายใน 3ปี ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ถูกฟ้องล้มละลายนั้น ธนาคารยังเปิดโอกาสให้เจรจาประนีประนอมและชำระหนี้ส่วนที่เหลือ

คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ยังมีมูลหนี้ที่อยู่ระหว่างการขายทอดตลาดกรมบังคับคดีประมาณ 2-3หมื่นล้านบาท กรณีการฟ้องล้มละลาย เป็นวัฎจักรของการดำเนินการทางกฎหมายและเป็นขั้นตอนของการตัดหนี้สูญ ภายหลังจากที่ธนาคารได้พยายามทุกวิถีทางในการเรียกเก็บหนี้คืนจากบรรดาลูกหนี้แล้ว
ดร.สุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารพยายามแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอล โดยที่เอ็นพีแอลส่วนใหญ่ของธนาคารประมาณ 80-90% นั้น ได้ดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งไปแล้ว ทั้งนี้หากมีการสืบทรัพย์หรือดูฐานะลูกหนี้รวมทั้งผู้ค้ำประกันแล้วยังมีทรัพย์ส่วนที่เหลือทางธนาคารจะดำเนินการฟ้องล้มละลายต่อไป วิธีการดังกล่าวนอกจากเป็นความพยายามในการที่จะเรียกเก็บหนี้ส่วนที่เหลือจากลูกหนี้แล้ว ยังเป็นการเร่งกระบวนการจัดการเอ็นพีแอลให้คงเหลืออยู่ในระดับ 2%ภายในปี 2550 ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้กำหนดไว้

ที่ผ่านมา ธนาคารได้ดำเนินการฟ้องคดีลูกหนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่ไม่สามารถระบุตัวเลขได้ ส่วนใหญ่เป็นการดำเนินการต่อเนื่องหลังจากที่ธนาคารได้ยื่นฟ้องทางแพ่งกับลูกหนี้ไปแล้ว ซึ่งภายในสิ้นปี 2549 นี้ ธนาคารมีเป้าหมายที่จะลดหนี้เอ็นพีแอลให้อยู่ที่ 7-8%จากปัจจุบันอยู่ที่ 11.88% มูลหนี้จำนวน 6.7หมื่นล้านบาท

ขณะที่นายวิสิทธิ วงศ์รวมลาภ เจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาสินทรัพย์ กล่าวว่า ปีนี้การฟ้องคดีล้มละลายมีจำนวนรายมากขึ้น แต่ทุนทรัพย์จะไม่สูง เพราะส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้รายย่อยซึ่งธนาคารจำต้องดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้ปิดบัญชีได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากยื่นฟ้องคดีส่วนใหญ่ลูกหนี้จะติดต่อธนาคารเพื่อเจรจา ซึ่งทางธนาคารเองพร้อมจะหาทางผ่อนปรนให้ลูกหนี้ชำระหนี้ตามสถานะของแต่ละรายอยู่แล้ว คือ ก่อนก่อนหน้าที่จะฟ้องล้มละลายนั้น ลูกหนี้บางรายไม่สนใจที่จะติดต่อธนาคารเลย เมื่อธนาคารไม่มีทางเลือกอื่นก็จำต้องฟ้อง เพราะจริงๆธนาคารก็อยากให้ลูกหนี้ที่ถูกฟ้องคดีติดต่อเข้ามาเพื่อหาทางชำระหนี้เช่นกัน ทั้งนี้โอกาสที่จะเรียกหนี้คืนส่วนที่เหลือนั้น ธนาคารก็หวังว่าจะได้รับชำระประมาณ 20-30%

แหล่งข่าวจากธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า 9เดือนที่ผ่านมา ธนาคารยื่นฟ้องคดีล้มละลายลูกหนี้ไปแล้วประมาณ 1,800เรื่องทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่ไม่มีหลักประกันจำนองหลังจากธนาคารได้ฟ้องทางแพ่งไปแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคดีที่ใกล้ครบอายุความ 10ปี ดังนั้นในปีนี้ธนาคารจึงมีนโยบายให้ฟ้องคดีทั้งหมดกว่า 2,000คดี โดยเปอร์เซ็นต์การเรียกคืนหนี้ส่วนที่เหลือนั้นมีเพียง 1-2%ของเงินต้นและดอกเบี้ยตามคำพิพากษาของศาล เพราะส่วนใหญ่ธนาคารจะลดหนี้ให้ลูกหนี้ค่อนข้างมาก

" คดีที่เกิดขึ้นในปี 2539หรือปี 40นั้นศาลแพ่งจะมีคำพิพากษาในปี 48ระหว่างนี้ก็รอออกคำบังคับให้ลูกหนี้ทราบ 45วัน จากนั้นออกหมายบังคับและตรวจกรรมสิทธิ์ถือครอง และถ้าไม่มีหลักทรัพย์ก็ฟ้องล้มละลายปลายปี2549 ซึ่งหนี้ที่ฟ้องล้มฯโอกาสที่จะได้หนี้คืนมีเพียง 1-2%เท่านั้น"แหล่งข่าวกล่าว

นายณัฐวิทย์ บุณยะวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า การฟ้องคดีล้มละลายปีนี้แตกต่างจากปีที่เกิดวิกฤติ โดยปีนี้ธนาคารดำเนินการฟ้องลูกหนี้มากขึ้น แต่เป็นการฟ้องแบบมีเงื่อนไขคือ ฟ้องเฉพาะรายที่มีมูลหนี้เหลือเกินกว่า 1ล้านบาทขึ้นไปสำหรับบุคคลธรรมดา
โดยทั้งปีธนาคารน่าจะมีการฟ้องเป็นหลักพันคดี เพราะลูกหนี้เหล่านี้เป็นรายย่อยที่เพิ่งจะบังคับขายทอดตลาดแล้ว โดยคาดหวังจะเรียกเก็บหนี้ส่วนที่เหลือให้ได้ประมาณ 20-30% 

คนไทยเป็นหนี้ถึงขั้นล้มละลายกันเยอะมากครับ ช่วงปีนี้ที่ฟ้องส่วนมากเป็นรายย่อยเสียด้วยครับ

http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=T0121572&issue=2157
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2006, 11:52:05 PM »

 Grin Grin Grin  เศรษฐกิจพอเพียง   Grin Grin Grin

สาตุให้มีชื่อพวกที่เคยดูถูกผมอยู่ในลิสด้วยเตอะ   เยาะเย้ย เยาะเย้ย เยาะเย้ย

ขอบคุณครับที่เอามาโฟส
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2006, 12:42:51 AM »

Grin Grin Grin เศรษฐกิจพอเพียง Grin Grin Grin

สาตุให้มีชื่อพวกที่เคยดูถูกผมอยู่ในลิสด้วยเตอะ เยาะเย้ย เยาะเย้ย เยาะเย้ย

ขอบคุณครับที่เอามาโฟส

อย่าสมน้ำหน้าพวกเขาเลยครับ เพราะภาระสุดท้ายตกเป็นของแผ่นดินครับ เพราะรํฐบาลไทยรับประกันเงินฝากร้อยเปอร์เซนต์ หากแบงค์ล้ม เงินภาษีเราต้องถูกนำมาชดใช้ครับ
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
jamin
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 9
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1356


« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2006, 01:53:06 AM »

แย่จัง โดนชก ตกใจ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.043 วินาที กับ 21 คำสั่ง