เว็บไซต์หนังสือพิมพ์อังกฤษ เดอะ อินดีเพนเด็นซ์ รายงานจากประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ว่า นายเดวิด ดูเลย์ ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่สอบสวนเผยในการสอบสวนคดีในศาลเมืองกลอสเตอร์ของอังกฤษว่า กรณีเครื่องบินพาณิชย์ขนาดเล็กเที่ยวบินที่ แอล-410 ซึ่งประสบอุบัติเหตุโหม่งโลกที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2553 จนทำให้นายแดนนี ฟิเลมอทท์ กัปตันชาวเบลเยี่ยม นายคริส วิลสัน ผู้ช่วยนักบินชาวอังกฤษวัย 39 ปี และผู้โดยสารบนเครื่องอีก 18 ราย เสียชีวิตนั้น เป็นเพราะมีจระเข้ขนาดราว 1 เมตร หลุดออกจากที่กักขังมาอาละวาดขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางอากาศ ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือพากันแตกตื่นตกใจจนเป็นเหตุให้เครื่องบินเสียการทรงตัวและโหม่งโลกในที่สุด
คดีดังกล่าวถูกไต่สวนในชั้นศาลมานานตั้งแต่เกิดเหตุ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า สิ่งใดเป็นเหตุให้เครื่องบินดิ่งพสุธาจนมีผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ เครื่องบินลำดังกล่าวเดินทางจากกรุงกินชาซาของคองโกมุ่งหน้ามายังท่าอากาศยานบันดุนดู ในเมืองบันดุนดู อย่างไรก็ตาม ผู้รอดชีวิตซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อได้เปิดเผยว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เครื่องบินตกเป็นเพราะว่า จระเข้ที่ผู้โดยสารรายหนึ่งนำขึ้นเครื่องมาด้วย เกิดหลุกออกจากที่กักขัง ออกมาอาละวาดกลางห้องโดยสาร ทำให้ลูกเรือและผู้โดยสารแตกตื่นพากันวิ่งกรูไปที่ห้องนักบิน จนเครื่องบินเสียการทรงตัวอย่างแรงกลางอากาศและทิ้งดิ่งตัวเองลงสู่พื้นโลกด้วยความเร็วสูง
นายร็อบ วิลสัน บิดาของนายนายคริส วิลสัน ผู้ช่วยนักบิน ได้เขียนในอีเมลส่งถึงเจ้าหน้าที่สืบสวนว่า การนำสัตว์เลี้ยง เช่น ไก่ หรือสัตว์อื่นขึ้นเครื่องบินเป็นเรื่องปกติ โดยทางลูกเรือจะไม่ทราบมาก่อนว่า ผู้โดยสารจะนำสัวต์ใดขึ้นเครื่องมาบ้าง เนื่องจากเครื่องบินลำดังกล่าวเปิดให้บริการเส้นทางการบินภายในประเทศของภูมิภาคแอฟริกา
นายทิโมธี แอทคินสัน เจ้าหน้าที่สืบสวนอุบัติเหตุอากาศยานกล่าวว่า จากเอกสารหลักฐานที่เขาได้รวบรวมมาจากรัฐบาลคองโก ทราบเพียงว่า เครื่องบินมีการเสียการทรงตัวอย่างแรงจนประสบอุบัติเหตุ และจากข้อมูลของกล่องดำก็ไม่ได้ระบุว่า เครื่องยนต์เกิดขัดข้องแต่อย่างใด ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นบางรายเผยว่า ผู้โดยสารที่นำจระเข้ขึ้นเครื่องมาด้วย พยายามจะขายจระเข้ตัวดังกล่าวบนเครื่องบิน นอกจากนี้ ยังปรากฎหลักฐานจากหย่วยกู้ภัยที่รุดไปช่วยเหลือหลังจากที่อากาศยานโหม่งโลกว่า มีจระเข้ออกมาจากห้องโดยสารจริงและพวกเขาก็ได้ฆ่ามันไปแล้วที่จุดเกิดเหตุ
http://www.dailynews.co.th/Content/foreign/251816/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3