สระว่ายน้ำขนาดนี้ล้านกว่าบาทแล้วนะครับ แล้วยังต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือนอีกประมาณ 5000 บาท เป็นค่าไฟปั๊มน้ำ(ต้องกรองน้ำอย่างน้อยวันละ 8 ชม.) ค่าสารเคมีเติม(เช่นคลอรีน/เกลือ) ค่าแรงคนดูดตะกอน/ช้อนใบไม้ทุกวัน... สวนต้นไม้แยะขนาดนี้ก็ต้องเสียค่าจ้างคนดูแลสวนเป็นระยะ(หากไม่จ้างคนสวน) ไม่งั้นมันรกหมดครับ...
ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ สระว่ายน้ำขนาดเล็ก อย่างเช่น 50 ลบ.ม.จะเสียค่าไฟกรองน้ำไม่เกินสองพันบาท/เดือน
คลอรีน/เกลือ เติมครั้งแรกครั้งเดียว หลังจากนั้นเครื่องจะผลิตคลอรีนจากเกลือในน้ำให้เอง ไม่ต้องเติมอีก ยกเว้นหน้าฝน ที่อาจจะต้องเติมเกลือบ้าง เพราะน้ำในสระล้นออกไป แต่ต้องคอยหมั่นตรวจน้ำ ไม่ให้คลอรีนต่ำเกินไป เพราะตะไคร่จะขึ้น
สระรุ่นใหม่ ที่เป็นระบบสูบจากน้ำล้น ไม่ต้องตักใบไม้ เพราะใบไม้จะไปติดที่กรอง เก็บออกอาทิตย์ละครั้ง ส่วนตะกอนขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ถ้าอากาศดี ดูดเดือนละครั้งก็ยังได้ ใช้ Robot ไม่ต้องจ้างใครมาทำ หรือเสียดายค่า Robot ตัวละห้าหกหมื่น จะต่อสายดูดเข้ากับเครื่องกรองน้ำก็ได้ ดูดเองเหมือนดูดฝุ่นพื้นบ้าน ตะกอนจะไปติดในเครื่องกรอง
ขอบพระคุณครับ...

เรื่องค่าไฟฟ้าก็ตามนั้นครับ... ของท่านผู้การฯบริหารจัดการดูแลสระและเรื่องสารเคมีเอง แต่ถ้าหากจ้างคนอื่นให้จัดการให้ก็จะมีค่าใช้จ่ายตกประมาณ 3,000.- บาท/เดือนซึ่งแล้วแต่การต่อรองด้วยครับ...
ของนายสมชายก็จัดการด้วยตัวเองเช่นกันเป็นงานบ้านชนิดหนึ่งครับ เพราะนายสมชายไม่มีคนรับใช้, บางช่วงไม่ได้ใช้สระว่ายน้ำก็อาจปล่อยให้น้ำขุ่น/เขียวไปก่อน และเมื่อไหร่จะใช้งาน(เช่นพ้นหน้าฝน) ก็จะเริ่มต้นกรองน้ำกันใหม่ ใช้เวลากรองวันละ 8 ชม.เกือบเดือน น้ำจึงใสพอว่ายได้ครับ... สำหรับนายสมชายต้องช้อนใบไม้ทุกวันเพราะมีต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบสระ ต้องลงแปรงพื้นสระ+เอาไส้กรองขึ้นมาฉีดน้ำล้างวันละ 1 รอบทุกวัน ส่วนดูดตะกอนก็แล้วแต่เมื่อไหร่เห็นตะกอนแยะครับ... แฮ่ๆ...