หลายปีก่อน... ที่โรงเรียนมีเรื่องทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันบ่อยๆ พอถามเด็กว่า... พวกเธอไม่กลัวความผิดเหรอ... เด็กบางคนตอบหน้าตาเฉยว่า... "พวกผมยังเป็นเด็กอยู่... ยังไม่มีสิทธิ์ติดคุกหรอกครับ" เป็นงั้นไป... ผมเลยต้องอบรมให้ความรู้... รวมถึงเพิ่มมาตรการลงโทษของทางโรงเรียนให้เข้มข้นมากขึ้น... ใครที่เหลือรับก็จะ "โอนลอย" คือไม่ได้ไล่ออกนะครับ... แต่ทำหนังสือย้ายให้... แต่ให้ไปหาโรงเรียนอื่นเรียนเอง... ซึ่งส่วนใหญ่จะหาที่ย้ายไม่ได้... พวกรุ่นน้องที่เหลือเลยกลัว... ไม่ค่อยมีเหตุอีก...
...ทั้งนี้ทั้งนั้น... เกิดจากผู้ปกครองและเด็กพากันเข้าใจผิดๆ ว่า... เป็นเด็กไม่ต้องติดคุก... หลายคนก็เลยหมดอนาคตไปครับ...
***********
พัฒนาการเร็วขึ้นเรื่อยๆ ....... ต่อไปประถมก็ก่อเหตุอุกฉกรรจ์แล้ว

ลุงปูคงแทบไม่เชื่อว่า... หลายปีก่อนเด็กนักเรียน "ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕" ในโรงเรียนที่ผมสอน... ริเอากาว KKK ซึ่งเป็นกาวปะยางรถจักรยานที่คนดมแล้วติดมาขายในโรงเรียน... ด้วยเทคนิคการตลาดอันล้ำเลิศ... กระป๋องนึงลงทุน ๒๕ บาท... แต่ทำรายได้ให้คนขายเป็นร้อยๆ คือโดยทั่วไปกาวชนิดนี้เขาจะไม่ขายให้เด็กอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี... แต่มันมีร้านเห็นแก่ได้อยู่อีกอำเภอหนึ่ง... ขายให้เด็กโดยที่รู้ว่าเด็กเอาไปดม... วิธีการตลาดคือ... เอามาให้เพื่อนลองดมดูก่อน... พอเพื่อนติดก็ให้ซื้อ... เอานิ้วจุ่ม ราคาจุ่มละสิบบาท... ถ้าทำนิ้วงอๆ ให้ได้มากขึ้นก็ยี่สิบบาท... จนพวกผมต้องใช้เวลาปราบหลายปี... ถึงหมดยุคของกาว KKK
...เด็กคนนั้น... พอขึ้นมัธยมก็เรียนได้แค่ ม.๑ แล้วออกไปขับรถกวนบ้านกวนเมืองเล่น... ปีที่แล้วนี่เอง... ไปไล่ทำร้ายวัยรุ่นต่างถิ่น... พอเขาหนีก็ขับแมงกะไซค์ไล่ตาม... จนรถแหกโค้งตายสยอง...
...แผ่นดินสูงขึ้นเยอะครับ...
