เงิบเลย พญานาค 555

[เบิ้ม]

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE1EUTROelV6TlE9PQ%3D%3D&sectionid


ใครไปจุดธูป ดอกไม้พวงมาลัยบูชาบ้าง แสดงตัวหน่อย 

[สหายอ๋อง เซียนปลาซิว]

พญานาค  ก่อเกิด  มาจากการที่  ในสมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปยังสถานที่ต่างๆที่มีพวกชาวป่าที่ยังนับถือภูติผี

พระองค์ท่านก็ทรงเรียกพวกเหล่านั้นว่า  พวกนาค  "เราจักต้องอุปสมบทพวกชาวนาคเหล่านี้ให้หายงมงายจากภูติผี"

จึงเป็นที่มาของคำว่า  "บวชนาค"  ไม่ใช่ที่เข้าใจกันว่าการบวชนาคคือการบวชให้พญานาค  ที่ปลอมตัวมาเพื่อขออุปสมบทกับองค์

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ผมทราบเรื่องนี้ตอนที่อยู่วัดสระเกศ  ไปเจอหนังสือเก่าๆเล่มนึงหยิบมาอ่าน

ทำให้กระจ่าง  เพราะถ้าเราคิดให้ถ่องแท้  พุทธศาสนเราไม่ได้สอนให้เชื่อในสิ่งที่พิสูตไม่ได้

ว่ากันตามจริงแล้วพุทธศาสนเราเป็นวิทยาสาตร์ด้วยซ้ำไป

 

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

5555  ยาย  " หวังเหวิด  " กับสถาบันการศึกษา  ที่ดี อันดับต้นๆ ของเมืองไทย อ่ะ ฮา 

มันยัง  " งมงาย " ไอ้เรื่อง  ทรงเจ้า  เข้าผี  ทฤษฎี  โบราณ  สองพันปี อ่ะ ฮา

555  เดี๋ยวยายตาม  " จานแดง " มาด่า  ไอ้ คณะบดี เฉิ่มๆ  นั่น ดีกว่า อ่ะ ฮา   

[YIMTHANOM]

โธ่ ยาย สังคมไทยก็มีทุกที่แหละ.....

ไม่ว่าที่ไหนก็มีศาล ก็มีการกราบไหว้สิ่งศักด์สิทธิ์ ทั้งนั้น

อยู่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยังไหว้ศาลพระภูมิก่อนเข้าทำงานเลย

งมงายแต่สบายใจ มันห้ามกันไม่ได้หรอกครับ

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

โธ่ ยาย สังคมไทยก็มีทุกที่แหละ.....

ไม่ว่าที่ไหนก็มีศาล ก็มีการกราบไหว้สิ่งศักด์สิทธิ์ ทั้งนั้น

อยู่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ยังไหว้ศาลพระภูมิก่อนเข้าทำงานเลย

งมงายแต่สบายใจ มันห้ามกันไม่ได้หรอกครับ

55555  เอออ  น้ายิ้ม  เรื่องสักการะ  เจ้าที่ เจ้าทาง  ฮา 55555

ยายเห็นด้วย  ทำแล้ว  " สบายใจ "  อ่ะ ฮา

แต่ท่าน  " พญานาค "  สัตว์เลื้อยคลาน  เนี่ยะ  ม่ะไหว อะ ฮา

เมื่อสาม สี่วันก่อน  ยายก็เจอ  " รอยพญานาค "  บนหน้ากระจก รถเครน อ่ะ ฮา
รถคันนี้  ไม่ได้ใช้งาน  จอดเอาไว้เฉย  ตอนจะใช้งาน ยายก็ไปสตาท์ อ่ะ ฮา

รอให้  " ลม "  มันเต็ม หม้อ เบรค  ก่อนอ่ะ ฮา

พอเต็ม  ยายก็กระโดด ขึ้นไปขับ อ่ะ ฮา

อ้าวเฮ้ย  มี  "พญานาค "  บนหน้ากระจก โว้ย ฮา   


คือ  รถยนต์  ถ้าเราจอดในที่โล่ง  กลางคืน มันมีน้ำค้าง เกาะ อ่ะ ฮา

พอตอนเช้า  " แดด จัดๆ "  ละอองน้ำ ที่เกาะ อยู่หน้ากระจก ฮา
มันก็  " ระเหย "  กลายเป็นไอ   ไปในอากาศ อ่ะ ฮา

พอระเหยเสร็จ  มันก็เหลือ หรือ ทิ้งร่องรอย  " คราบ " บนกระจก อ่ะ ฮา

55555  เที่ยวนี้  ยาย  ถูก  "หวย" แน่ อ่ะ ฮา 555555 

[YIMTHANOM]

   ฮ่าๆ...  ตามนั้นครับยาย......
 
  พญานาคนี้ผมก็เชื่อนะ ว่ามีอยู่จริง ไม่อย่างนั้นหลวงปู่คำคะนิง

  คงไม่เอามาบอกลูกศิษย์หรอก.... แต่ถ้ามาโผล่กลางกรุงอย่างนี้ ผมว่า

  ชักจะไปกันใหญ่ครับ..... แต่ยังไม่น่าแปลกเท่ารู้วันตายของตัวเองนะ ผ่าไปนอนรอ

  ในโลง ......... อุตริเกินงานนี้

 

[lek]

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ[แก้]
นายแพทย์มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ผู้ศึกษาเรื่องบั้งไฟพญานาค อธิบายว่า บั้งไฟพญานาค เกิดจากก๊าซร้อนที่มีส่วนผสมของก๊าซมีเทนและก๊าซไนโตรเจน เป็นส่วนผสมสำคัญ ซึ่งก๊าซร้อนชนิดนี้ ก็คือก๊าซชีวภาพที่ระเบิดจากหล่มอินทรียวัตถุใต้ท้องน้ำหรือในดินที่เปียก โดยมีแบคทีเรียกลุ่มมีเทนฟอร์มเมอร์ซึ่งดำรงชีวิตได้ในสภาพไร้ออกซิเจนเท่านั้น ณ ความลึกของแม่น้ำโขงและแหล่งน้ำข้างเคียง เป็นตัวช่วยผลิตก๊าซ แต่ก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะได้ก๊าชมีเทนในปริมาณมากพอที่จะก่อให้เกิดความดันก๊าชในผิวทรายอย่างน้อย 1.45 เท่า ของความดันบรรยากาศ เมื่อไปเจอความกดดันของน้ำ ความกดดันของอากาศในตอนพลบค่ำ หล่มทรายก็จะไม่สามารถรับแรงดันได้ ก๊าซจะหลุดออกมาและพุ่งขึ้นเมื่อโผล่พ้นน้ำ และมีการฟุ้งกระจายไปบางส่วน โดยเหลือแกนในของก๊าซซึ่งลอยตัวขึ้นสูง เมื่อไปกระทบกับอนุภาพออกซิเจนอะตอมที่มีประจุ ที่มีพลังงานสูง ก็จะเกิดการสันดาปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นดวงไฟหลายสี แต่ 95% จะเป็นดวงไฟสีแดงอำพัน พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วก็หายไป และทุกตำแหน่งที่เกิดบั้งไฟพญานาคจะอยู่ในระดับ 5-13 เมตรทั้งสิ้น[6]

นอกจากนี้ยังพบอีกว่าความเป็นกรดและด่างของน้ำในแม่น้ำโขงก็จะสอดคล้องกับระบบนิเวศน์ที่จะเกิดการหมักก๊าซมีเทน ซึ่งตัวเขาได้เคยไปวางทุ่นดักก๊าซในแม่น้ำโขง และค้นพบว่าก๊าซที่ดักได้ในแม่น้ำโขงสามารถนำไปจุดติดไฟ จะเกิดการพุ่งวูบขึ้นมีสีออกเป็นแดงอมชมพู ส่วนคำถามที่ว่าทำไมบั้งไฟพญานาคถึงเกิดขึ้นในคืนวันออกพรรษา เขาบอกว่าในคืนวันนั้นจะมีอ็อกซิเจน ก๊าซที่ช่วยให้ติดไฟสูงสุดในรอบปี ซึ่งก็เกิดจากอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงพลังงานรังสีของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และโลก[6]

นายแพทย์มนัส เชื่อว่าบั้งไฟพญานาคไม่น่าที่จะเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ เพราะคนที่กระทำต้องแข็งแรงมากเพราะกระแสน้ำมันแรงมาก ในขณะที่คนธรรมดากอดเสาอยู่ในน้ำยังทรงตัวไม่อยู่ โดยเขาได้เริ่มศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2522 ก็มีบั้งไฟพญานาคขึ้นมาแล้ว 120 ปี ซึ่งจริง ๆ แล้ว ต้องเกิดขึ้นนานกว่านี้อีก เนื่องจากคนที่ทำคนนี้ต้องมีอายุมากกว่า 104 ปีแล้วต้องทำด้วยตัวเองจึงตัวเองจึงจะคุมความลับได้[7]

 ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้

[นายกระจง]

โธ่ ยาย สังคมไทยก็มีทุกที่แหละ.....

ไม่ว่าที่ไหนก็มีศาล ก็มีการกราบไหว้สิ่งศักด์สิทธิ์ ทั้งนั้น

อยู่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ยังไหว้ศาลพระภูมิก่อนเข้าทำงานเลย

งมงายแต่สบายใจ มันห้ามกันไม่ได้หรอกครับ

55555  เอออ  น้ายิ้ม  เรื่องสักการะ  เจ้าที่ เจ้าทาง  ฮา 55555

ยายเห็นด้วย  ทำแล้ว  " สบายใจ "  อ่ะ ฮา

แต่ท่าน  " พญานาค "  สัตว์เลื้อยคลาน  เนี่ยะ  ม่ะไหว อะ ฮา

เมื่อสาม สี่วันก่อน  ยายก็เจอ  " รอยพญานาค "  บนหน้ากระจก รถเครน อ่ะ ฮา
รถคันนี้  ไม่ได้ใช้งาน  จอดเอาไว้เฉย  ตอนจะใช้งาน ยายก็ไปสตาท์ อ่ะ ฮา

รอให้  " ลม "  มันเต็ม หม้อ เบรค  ก่อนอ่ะ ฮา

พอเต็ม  ยายก็กระโดด ขึ้นไปขับ อ่ะ ฮา

อ้าวเฮ้ย  มี  "พญานาค "  บนหน้ากระจก โว้ย ฮา   


คือ  รถยนต์  ถ้าเราจอดในที่โล่ง  กลางคืน มันมีน้ำค้าง เกาะ อ่ะ ฮา

พอตอนเช้า  " แดด จัดๆ "  ละอองน้ำ ที่เกาะ อยู่หน้ากระจก ฮา
มันก็  " ระเหย "  กลายเป็นไอ   ไปในอากาศ อ่ะ ฮา

พอระเหยเสร็จ  มันก็เหลือ หรือ ทิ้งร่องรอย  " คราบ " บนกระจก อ่ะ ฮา

55555  เที่ยวนี้  ยาย  ถูก  "หวย" แน่ อ่ะ ฮา 555555 

บวกยาย ๑ แต้ม รอเลขเด็ดครับ

[keng2516 รักในหลวง]

ผมก็ไม่เชื่อเรื่องพญานาคตั้งแต่ทีแรก ผมเชื่อ อ เจษฎา  ผมประทับใจแก ตั้งแต่ตอนที่แกออกมาแฉเรื่อง GT 200 

[carrera]

พญานาค  ก่อเกิด  มาจากการที่  ในสมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปยังสถานที่ต่างๆที่มีพวกชาวป่าที่ยังนับถือภูติผี

พระองค์ท่านก็ทรงเรียกพวกเหล่านั้นว่า  พวกนาค  "เราจักต้องอุปสมบทพวกชาวนาคเหล่านี้ให้หายงมงายจากภูติผี"

จึงเป็นที่มาของคำว่า  "บวชนาค"  ไม่ใช่ที่เข้าใจกันว่าการบวชนาคคือการบวชให้พญานาค  ที่ปลอมตัวมาเพื่อขออุปสมบทกับองค์

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ผมทราบเรื่องนี้ตอนที่อยู่วัดสระเกศ  ไปเจอหนังสือเก่าๆเล่มนึงหยิบมาอ่าน

ทำให้กระจ่าง  เพราะถ้าเราคิดให้ถ่องแท้  พุทธศาสนเราไม่ได้สอนให้เชื่อในสิ่งที่พิสูตไม่ได้

ว่ากันตามจริงแล้วพุทธศาสนเราเป็นวิทยาสาตร์ด้วยซ้ำไป

 

ศาสนาพุทธเป็นวิทยาศาสตร์ผมเห็นด้วย  

[สหายอ๋อง เซียนปลาซิว]

พญานาค  ก่อเกิด  มาจากการที่  ในสมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปยังสถานที่ต่างๆที่มีพวกชาวป่าที่ยังนับถือภูติผี

พระองค์ท่านก็ทรงเรียกพวกเหล่านั้นว่า  พวกนาค  "เราจักต้องอุปสมบทพวกชาวนาคเหล่านี้ให้หายงมงายจากภูติผี"

จึงเป็นที่มาของคำว่า  "บวชนาค"  ไม่ใช่ที่เข้าใจกันว่าการบวชนาคคือการบวชให้พญานาค  ที่ปลอมตัวมาเพื่อขออุปสมบทกับองค์

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ผมทราบเรื่องนี้ตอนที่อยู่วัดสระเกศ  ไปเจอหนังสือเก่าๆเล่มนึงหยิบมาอ่าน

ทำให้กระจ่าง  เพราะถ้าเราคิดให้ถ่องแท้  พุทธศาสนเราไม่ได้สอนให้เชื่อในสิ่งที่พิสูตไม่ได้

ว่ากันตามจริงแล้วพุทธศาสนเราเป็นวิทยาสาตร์ด้วยซ้ำไป

 

ศาสนาพุทธเป็นวิทยาศาสตร์ผมเห็นด้วย  

พุทธศาสนา  สอนในเรื่องความเป็นจริง  สอนในเรื่องที่พิสูจได้ 

แต่ในขณะที่ศาสนาอื่น  พอถามว่าพระเจ้าคุณพ่อแม่ชื่ออะไร  แม่งจะต่อยคนถาม 

บอกว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลก  พอถามว่าสร้างด้วยอะไรเหรอ  อิฐ  หิน  ปูน  ทราย  หรือ  ลำไม้ไผ่  แม่งจะต่อยกูอีก 

[PU45™]

5555  ยาย  " หวังเหวิด  " กับสถาบันการศึกษา  ที่ดี อันดับต้นๆ ของเมืองไทย อ่ะ ฮา  

มันยัง  " งมงาย " ไอ้เรื่อง  ทรงเจ้า  เข้าผี  ทฤษฎี  โบราณ  สองพันปี อ่ะ ฮา

555  เดี๋ยวยายตาม  " จานแดง " มาด่า  ไอ้ คณะบดี เฉิ่มๆ  นั่น ดีกว่า อ่ะ ฮา  

                 สนับสนุนครับ ........ งมงายครอบคลุม=ความเขลา

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

55555    ภาพนี้ เป็นรอย  " ลูกพญานาค "  เลื้อยบนกระจก อ่ะ ฮา  55555

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

5555  ยาย  " หวังเหวิด  " กับสถาบันการศึกษา  ที่ดี อันดับต้นๆ ของเมืองไทย อ่ะ ฮา 

มันยัง  " งมงาย " ไอ้เรื่อง  ทรงเจ้า  เข้าผี  ทฤษฎี  โบราณ  สองพันปี อ่ะ ฮา

555  เดี๋ยวยายตาม  " จานแดง " มาด่า  ไอ้ คณะบดี เฉิ่มๆ  นั่น ดีกว่า อ่ะ ฮา   

                  สนับสนุนครับ ........ งมงายครอบคลุม=ความเขลา

5555   เรื่อง  " พระยานาค  "   ถามยาย  อย่าไปถาม ลุงปูว์  อ่ะ ฮา 55555

อายุ  ห้า หกขวบ  ยาย   " จับ  มาเล่น "  แล้ว  อ่ะ ฮา

ไม่เห็นมันจะดุ  จะโหดร้าย อะไรเล้ย   เชื่องมือ อีกต่ะหาก อ่ะ  ฮา


55555  ใครอยากดู  " คลิ๊ก "  ข้างล่าง อ่ะ ฮา 

http://s28.postimg.org/3ulj8o1il/004hmf.jpg

[อรชุน-รักในหลวง]

พญานาค  ก่อเกิด  มาจากการที่  ในสมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปยังสถานที่ต่างๆที่มีพวกชาวป่าที่ยังนับถือภูติผี

พระองค์ท่านก็ทรงเรียกพวกเหล่านั้นว่า  พวกนาค  "เราจักต้องอุปสมบทพวกชาวนาคเหล่านี้ให้หายงมงายจากภูติผี"

จึงเป็นที่มาของคำว่า  "บวชนาค"  ไม่ใช่ที่เข้าใจกันว่าการบวชนาคคือการบวชให้พญานาค  ที่ปลอมตัวมาเพื่อขออุปสมบทกับองค์

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ผมทราบเรื่องนี้ตอนที่อยู่วัดสระเกศ  ไปเจอหนังสือเก่าๆเล่มนึงหยิบมาอ่าน

ทำให้กระจ่าง  เพราะถ้าเราคิดให้ถ่องแท้  พุทธศาสนเราไม่ได้สอนให้เชื่อในสิ่งที่พิสูตไม่ได้

ว่ากันตามจริงแล้วพุทธศาสนเราเป็นวิทยาสาตร์ด้วยซ้ำไป

 

ศาสนาพุทธเป็นวิทยาศาสตร์ผมเห็นด้วย  

สำหรับผมมี3หัวข้อใหญ่ๆครับ

จตุราริยสัจ ,กาลามสูตร และโยนิโสมนสิการ