เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 09, 2025, 04:43:35 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องขำๆวันยึดอำนาจ ทหารบ้านนอกหลงกรุง จากคมชัดลึก  (อ่าน 1120 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13942


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« เมื่อ: ตุลาคม 21, 2006, 11:41:48 AM »

 

 

ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในการปฏวัติ รัฐประหารทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา นอกจากความเป็น "เอกภาพ" ของการบังคับบัญชาสั่งการในกองทัพแล้ว...ปฏิบัติการ "ยึดทีวี" กระบอกเสียงของฝ่ายรัฐบาล ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มิอาจละเลย และจำเป็นต้องกระทำภายในเวลาอันรวดเร็วที่สุด

 ทั้งนี้ ก็เพื่อ "ปิดช่องทาง" ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามใช้สื่อสาร และสร้างความสับสนแก่ประชาชน!!!

 แต่ "หลังฉาก" ของการรัฐประหารครั้งนี้ ก็มีอะไร "ขำๆ" เกี่ยวกับปฏิบัติการยึดทีวีมาให้เล่ากันหลายช็อต เพราะกำลังพลส่วนใหญ่ที่ได้รับมอบหมายภารกิจนี้ ล้วนมาจาก "ต่างจังหวัด" ทั้งสิ้น

 เมื่อทหารป่าอาสามา "ยึดเมือง" เรื่องราวจึงชุลมุนชุลเกน่าดูชม...

 ว่ากันว่า การยึดอำนาจครั้งนี้ใช้เวลาเคลื่อนกำลงพลเข้า "บล็อกจุดยุทธศาสตร์" โดยใช้เวลาแค่ 20 นาทีก็จบ แต่เรื่องที่ทำท่าจะจบง่ายๆ แต่กลับบานปลายเพราะมี "แถลงการณ์ดิ้นสู้" จากอดีตผู้นำ

 จากเนื้อหาที่ต้องการ "ส่งสาร" ไปบอกชาวบ้านว่า "ขณะนี้ผู้บัญชาการทั้งสามเหล่าทัพ ได้ควบคุมสถานการณ์ไว้หมดแล้ว" ก็เลยกลับกลายเป็นแถลงการณ์ "ปลด ผบ.ทบ" ไปเสียฉิบ!?

 เรื่องของเรื่องก็คือ ทหารที่ไปยึดช่อง 9 นั้น มาจาก กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน.1 รอ.)

 แต่ด้วยความที่มาจากต่างจังหวัด จึงต้องเสียเวลาร่วม 10 นาที เพื่อที่จะหา "เป้าหมาย" คือ อาคาร อสมท

 เมื่อมาถึง ทหารพร้อมอาวุธครบมือนับสิบนาย ต่างวิ่งกรูเข้าไปในตึก อสมท อย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมาย "ตัดสัญญาณทีวี" ให้เร็วที่สุด

 เมื่อเห็นทหารยกโขยงกันมามากขนาดนั้น รปภ.ประจำตึกก็แตกตื่นกันยกใหญ่ แต่ก็ยังกล้าพอที่จะเข้าไปยืนขวาง สอบถามจนได้ความแล้ว ก็ชี้ไม้ชี้มือไปอีกทาง พร้อมกับบอกว่า "ตึก อสมท อยู่โน่นพี่...นี่มันตึกทิพยประกันภัย..."

 หลังจาก "หน้าแหก...หมอไม่รับเย็บ" ทหารชุดเดิมก็วิ่งกรูเข้าไปที่ตึก อสมท อย่างรวดเร็วปานพายุ แต่ก็หน้าแหกอีกรอบ เพราะตึกที่วิ่งเข้าไปยึดนั้น ดันเป็น..."ตึกธุรการ"

 ผิดครั้งที่สอง นี่ทหารบ้านนอกเริ่มนึกก่นในใจ ทำไมไม่ให้คนที่รู้จักมาด้วย (วะ)

 กว่าจะหา "ห้องส่ง" เจอ...อดีตผู้นำก็อ่าน "แถลงการณ์ข้ามทวีป" ไปแล้วหลายนาที...เล่นเอาผู้บังคับบัญชาถึงกับหัวเสีย ส่วนชาวบ้านชาวช่องก็ "สับสน" กันไปทั้งเมือง!!!

 แต่ที่ "หลงซ้ำ หลงซ้อน" แบบน่าเวียนหัวแทน ก็คือ ปฏิบัติการ "ยึดช่อง 3"

 เพราะช่อง 3 ย้ายออกจาก "อาคารวานิช" ไปตั้งชาตินึงแล้ว แต่ก็ยังมี "แฟนรุ่นเก่า" ซึ่งอยู่ในกรมกองจำบ้านหลังเดิมได้แม่น จึงสั่งให้ลูกน้องรุดไปยึดอาคารวานิช ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ทันที

 "เร็วๆ...ขึ้นไปเลยที่ห้องส่ง...ต้องไปให้ทันนะโว้ย...เดี๋ยวไม่ทันโดนด่าตายนะมึง" หัวหน้าหน่วย สั่งการลูกน้องอย่างมาดมั่น

 สิ้นเสียงสั่งการ...กำลังพล 2-3 นาย ก็ซอยเท้าฉับๆ วิ่งหน้าตั้งขึ้นตึก แต่งานนี้ก็ รปภ.อีกแหละ ที่บอกว่า "ช่อง 3...เขาย้ายไปตั้งนานแล้วพี่"

 อ่า...งานนี้ลูกพี่เสียหน้า ส่วนลูกน้องทั้งเสียหน้า ทั้งเคืองคำสั่ง ลูกพี่เลยขอตำแหน่งที่ชัดเจนของที่ตั้งสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ใหม่

 พอต้นสังกัดได้ยินว่า ลูกน้องไปทำเฟอะฟะ เป็นบ้านนอกเข้ากรุง ก็กรอกเสียงสวนกลับไปชนิดคนฟังต้องเอาหูออกห่างจากวิทยุ

 "...ช่อง 3 เขาอยู่ตึกเอ็มโพเรี่ยม แถวๆ สุขุมวิทโว้ย..."

 สิ้นเสียงสั่งการจากต้นสังกัด กำลังพลชุดเดิมก็โดดขึ้นรถตู้ที่โชเฟอร์ติดเครื่องรอ ห้อแรดไป "ยึดตึกเอ็มโพเรี่ยม" ทันที

 มาถึงก็ลงกันพรึ่บพรั่บ รปภ.ห้างดิ เอ็มโพเรี่ยม ก็เข้ามาทำหน้าที่เจรจาประสาเจ้าของบ้าน

 "พี่ๆ ห้องส่งช่อง 3 อยู่ไหนครับ"

 รปภ.ประจำตึกมองหน้าทหารที่มาถามด้วยความรู้สึกยากบรรยาย แต่ก็เห็นใจเพราะก่อนหน้าที่มาเมืองหลวงแรกๆ สภาพทุลักทุเลไม่แตกต่างกัน

 เลยบอกไปว่า "ช่อง 3 เขาย้ายไปอยู่ถนนพระราม 4 แล้ว"

 ไม่มีเสียงฮา มีแต่เสียงฮึ่ม เพราะงานนี้ไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องที่ผิด ทุกคนนึกถึงหน้าคนด่า คนสั่งให้มา ดิ เอ็มโพเรี่ยม ได้เพียงคนเดียว

 แต่ด้วยภาระหน้าที่ต่างก็โดดขึ้นรถตู้ วิ่งอ้าวมาบ้านใหม่ช่อง 3 ย่านถนนพระราม 4 ด้วยใจระทึก เพราะเลยเวลาที่กำหนดไว้ไปนานแล้ว

 แต่พอมาถึงช่อง 3 ที่ตึกตั้งตระหง่านอยู่ริมถนนพระราม 4 ปัญหาใหม่ก็มีขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน

 เพราะหาทางเข้าไม่เจอ!!

 ร้อนถึง รปภ.ประจำตึกอีกนั่นแหละที่รับอาสาวิ่งนำหน้าพาไปจนถึงห้องส่ง...จบภารกิจด้วยความทุลักทุเล!!!

..............

"รัฐประหาร"ซ้อน"รัฐประหาร"

สกัดเหตุ...เลือดนองแผ่นดิน!?


มีรายงานข่าว "ทางลับ" ที่เชื่อได้ว่า แม้จะไม่มีเหตุการณ์ "รัฐประหาร" ในค่ำคืนวันที่ 19 กันยายน แต่ประเทศนี้ก็ยากที่จะหลีกพ้นวงจร "รัฐประหาร" ไปได้

 อย่างเร็วที่สุดวันที่ 20 กันยายน ซึ่งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดรวมพลชุมนุมใหญ่ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า

 ข่าวยังแจ้งด้วยว่า มีนักการเมือง 2 คนในซีกรัฐบาลได้ระดมกำลังประมาณ 200 คน มีจักรยานยนต์รับจ้าง  รปภ.  นักเลงหัวไม้ และลูกจ้างส่วนราชการแห่งหนึ่ง เพื่อมา  "ป่วน" การชุมนุมใหญ่

 ความรุนแรงถึงขั้นมุ่งทำร้ายเอาชีวิตแกนนำพันธมิตร โดยที่ไม่คำนึงถึงว่าใครในกลุ่มผู้ชุมนุมจะบาดเจ็บล้มตายไปด้วย

 ทั้งนี้ก็เพื่อเปิดทางรองรับ ประกาศภาวะฉุกเฉิน ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

 เพราะถึงขั้นนั้น ตำรวจไม่สามารถควบคุมฝูงชนเอาไว้ได้ จำเป็นต้องใช้ทหารเข้าสลายการชุมนุม เพื่อควบคุมให้สถานการณ์อยู่ในความสงบ

 นั่นคือการประเมินสถานการณ์ ทั้งจากกองทัพบก และจากกองบัญชาการทหารสูงสุด

 การประเมินดังกล่าวดูเผินๆ อาจจะเกินเลยจากความเป็นจริง แต่เมื่อได้เห็นการอ่านประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อค่ำวันที่ 19 กันยายน แล้วก็ทำให้การประเมินมีน้ำหนักมากขึ้น

 ตามรายงานข่าวของผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย ซึ่งติดตามไปทำข่าวการปฏิบัติราชการต่างประเทศ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ข่าวรัฐประหารในเวลาประมาณ 07.00 น. (ตามเวลาสหรัฐ) ซึ่งจะตรงกับเวลาในประเทศไทย ประมาณ 19.00 น. จึงเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง และเรียกผู้สื่อข่าวโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) เข้าพบเพื่อขอให้ประสานสัญญาณประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

 แต่ทีวีพูล "ปฏิเสธให้เชื่อมสัญญาณ" ทำให้นายกฯ ถึงกับแสดงอารมณ์หงุดหงิด

 จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ทีมงานประสานไปยังสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์  สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์และไอทีวี เบื้องต้นได้รับการยอมรับที่จะลิงค์สัญญาณจากสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ แต่เกิดเหตุขัดข้องไม่สามารถออกอากาศได้

 ดังนั้น แถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงออกอากาศได้ทางโมเดิร์นไนน์เพียงช่องเดียว ในเวลาประมาณ 21.15 น. หลังจาก "รู้ข่าว" ประมาณ 2 ชั่วโมง

 นั่นจึงเป็นที่มาของ "แถลงการณ์ข้ามทวีป" ที่โผล่มาถึงเมืองไทยแค่ช่วงสั้นๆ และถูก "ตัดสัญญาณ" จากทหารฝ่ายยึดอำนาจในเวลาต่อมา

 แถลงการณ์ฉบับที่ 1 (ตัดทอนบางตอน)

 "...ในภาวะความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างร้ายแรง...อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5, 6, 11 วรรค 1 แห่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548...นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 เวลา 21.15 น...."

 แถลงการณ์ฉบับที่ 2 (ตัดทอนบางตอน)

 "...เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างฉุกเฉินและทันท่วงที...จึงให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และให้รายงานตัวต่อ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการนายกรัฐมนตรี..."

 นอกจากนี้ ว่ากันว่า ในแถลงการณ์ฉบับที่ 3 พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้แต่งตั้งให้ พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. (ในขณะนั้น) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ขึ้นรักษาการ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แทน พล.อ.สนธิ ซึ่งถูกสั่งปลดในวันเดียวกันอีกด้วย

 ข้อสังเกตเกี่ยวกับแถลงการณ์อันยาวเหยียดทั้ง 3 ฉบับก็คือ เหตุใดถ้อยคำในแถลงการณ์ทั้งหมดจึงดูสละสลวย และเต็มไปด้วย "ภาษากฎหมาย" ล้วนๆ ทั้งที่ไม่มี "เนติบริกร" ติดสอยห้อยตามไปด้วย

 จึงนำมาสู่ข้อสงสัยว่า...หรือแถลงการณ์ดังกล่าวจะไม่ได้ถูกร่างขึ้นในช่วงเวลาอันฉุกละหุก แต่ "ถูกร่างขึ้นมาก่อน" จน "เสร็จสมบูรณ์" และพร้อมจะหยิบมาใช้ได้ทุกเมื่อ !?!?

 หากข้อสงสัยเป็นจริงก็มีความเป็นไปได้สูงว่า ก่อนหน้านั้นอาจจะมีแผน "รัฐประหารตัวเอง" เกิดขึ้น โดยอาศัย "กองกำลัง" สองส่วนหลักๆ ก็คือ

 - กองกำลัง "จัดตั้ง" ของขุนพลในฟากรัฐบาล

 - กองกำลังทางทหารที่ภักดีต่อ "ระบอบทักษิณ"

 แต่แผนการที่วางไว้เป็นอย่างดี กลับถูกกองกำลัง "ฝ่ายตรงข้าม" ที่เฝ้าจับตามองมาตลอด และ "อ่านเกม" ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ชิงลงมือตัดหน้า

 ก่อนที่เลือดจะนองแผ่นดิน!!!

 19 กันยายน 2549 จึงมิใช่รัฐประหารธรรมดา เพราะหากเรื่องราวดำเนินมาเช่นนี้ ต้องเรียกว่า "รัฐประหาร...ซ้อน...รัฐประหาร"
 
 
 
   
 
   
 
 
 
 
   
 

 
 
   
   
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
   
 
 
 
 
 
 
   
  สงวนลิขสิทธิ์ ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 
 
 
 
 
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2006, 11:50:36 AM »

แย่จัง ทำไมไม่ฉลาดเหมือนตาสีตาสา ยายมียายมา ที่ชอบนั่งประท้วงข้างทำเนียบนะ แก่แล้วยังไม่หลงเลย
บันทึกการเข้า

                
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2006, 12:22:26 PM »

งานนี้...อ่านแล้วขอ...อมยิ้มครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2006, 01:03:17 PM »

กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ
มีที่ตั้งอยู่ที่ ฝั่งตรงข้าม ม.หอการค้า ถ.วิภาฯ (ขาออก กทม.) ครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2006, 01:06:20 PM โดย 51 » บันทึกการเข้า
y_kato
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 648



« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2006, 01:44:11 PM »

 Wink Wink Wink
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.05 วินาที กับ 21 คำสั่ง