tao bangkhaen
Hero Member
   
คะแนน 354
ออฟไลน์
กระทู้: 3452
|
 |
« ตอบ #105 เมื่อ: มีนาคม 03, 2016, 02:28:03 PM » |
|
ไทยไม่ต้องใช้เกราะครับพี่ เน้น ... หนังเหนียว.... เหล็กไหล... สักยันต์ ....เติมอีกหน่อย พระเครื่อง....ตะกรุด....คาถาอาคม....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2016, 02:29:35 PM โดย tao bangkhaen »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #106 เมื่อ: มีนาคม 03, 2016, 08:12:49 PM » |
|
พ.ศ.1650 ยังไม่ใส่ทั้งเสื้อเกราะและเสื้อยันต์ มีแต่โสร่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tao bangkhaen
Hero Member
   
คะแนน 354
ออฟไลน์
กระทู้: 3452
|
 |
« ตอบ #107 เมื่อ: มีนาคม 04, 2016, 12:11:17 PM » |
|
พ.ศ.1650 ยังไม่ใส่ทั้งเสื้อเกราะและเสื้อยันต์ มีแต่โสร่ง
ครับท่านอาจารย์ ภาพนี้ ผมก็เห็น ที่ปราสาทอันเหลือเชื่อนั่น เพียงแต่สงสัยนิดหน่อยว่า อะไร ที่ทำให้นักประวัติศาสตร์ เชื่อว่า ภาพนี้ เป็นกองทัพจากแผ่นดินที่อยู่ทางตะวันตกของ ขอม ครับ อาจารย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tao bangkhaen
Hero Member
   
คะแนน 354
ออฟไลน์
กระทู้: 3452
|
 |
« ตอบ #108 เมื่อ: มีนาคม 04, 2016, 12:25:04 PM » |
|
ดูฝีมือการแกะสลักซิครับ หินนะครับ ไม่ใช่ไม้...สวยงาม ..ละเอียด...มีแม้กระทั่ง กล้ามแขน รอยแขนพับบริเวณข้อศอก ยังมีเลย...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #109 เมื่อ: มีนาคม 04, 2016, 04:59:29 PM » |
|
ข้อมูลจากหลายที่ครับ กลุ่มที่แต่งตัวเรียบร้อย เครื่องทรงเหมือนเขมรจะมาจากละโว้แน่นอน ส่วนเสียมกุก เดิมเชื่อว่าเป็นสุโขทัย แต่ปัจจุบันรู้กันแล้วว่าไม่ใช่ เพียงยังเถียงกันอยู่ว่าเป็นพวกสิงหนวัติจากลุ่มแม่น้ำกก หรือโคตรบูรณ์ (ปัจจุบันคือเวียงจันทร์)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
montri รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน -120
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1056
|
 |
« ตอบ #110 เมื่อ: มีนาคม 04, 2016, 07:17:38 PM » |
|
การไปหาเหล็กมาทำอาวุธ เขาไปหามาจากใหนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
มะขิ่น
Hero Member
   
คะแนน 2453
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 17813
"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"
|
 |
« ตอบ #112 เมื่อ: มีนาคม 05, 2016, 10:12:37 AM » |
|
เข้ามาอ่านหาความรู้เพิ่มเติม ขอบคุณพี่สุพินท์ครับ ที่กรุณาค้นคว้าข้อมูลมาเผยแพร่ แต่ผมฮาอยู่คำเดียวคือ คำนี้ "มั่วเรื่องปืนอย่างเดียวเถอะครับ อย่ามั่วเรื่องประวัติศาสตร์" ฮาจริงๆครับพี่ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าทำหินแตก อย่าแยกแผ่นดิน
|
|
|
TUI 48
Sr. Member
  
คะแนน 332
ออฟไลน์
กระทู้: 927
|
 |
« ตอบ #113 เมื่อ: มีนาคม 07, 2016, 09:42:25 AM » |
|
เข้ามาอ่านหาความรู้เพิ่มเติม ขอบคุณพี่สุพินท์ครับ ที่กรุณาค้นคว้าข้อมูลมาเผยแพร่ แต่ผมฮาอยู่คำเดียวคือ คำนี้ "มั่วเรื่องปืนอย่างเดียวเถอะครับ อย่ามั่วเรื่องประวัติศาสตร์" ฮาจริงๆครับพี่  นึกว่ามีผมคนเดียวที่นั่งหัวเราะกับประโยคนั้นครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
   
คะแนน 366
ออฟไลน์
กระทู้: 6023
|
 |
« ตอบ #114 เมื่อ: มีนาคม 08, 2016, 03:25:49 PM » |
|
เมื่ออ่านรามเกียรติ์..เราเชียร์ฝ่ายพระเอก พระราม พระลักษณ์ หนุมาน ฯลฯ แท้จริงผมเป็นลูกหลานยักษ์(ทมิฬนาดู)..เหมือนคนปักษ์ใต้ทั้งหลาย..(โฮ)
นั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินเชนไน รัฐทมิฬนาฑู (เมืองมัทราส เดิม) เลยครับ เจอญาติประมาณหกสิบล้านคน -ทำไมคนน้อยครับ ประชากรอินเดียตั้งพันล้าน -นี่ไงญาติ ๆ ผม..บรรยากาศเหมือนเมืองไทยเลยนิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #115 เมื่อ: มีนาคม 08, 2016, 04:12:12 PM » |
|
อินเดียมี 29 รัฐ กับ 7 เขตปกครองพิเศษ เช่นเดลี หรือหมู่เกาะนิโคบาร์ใกล้ ๆ ภูเก็ตบ้านเรา ที่สุนทรภู่เรียกว่าเกาะนาควารีนั่นแหละ รัฐที่มีประชากรมากที่สุดคือรัฐอุตตรประเทศ เป็นที่ตั้งของเมืองหลวง กับเมืองเก่าแก่ต่าง ๆ มีประชากรประมาณสองร้อยล้านคน อันดับสองคือรัฐมหาราษฏระ ประมาณร้อยล้าน เป็นถิ่นไฮเทค น้อยที่สุดน่าจะเป็นรัฐกัว ประมาณ 1.4 ล้านคน รัฐนี้เป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกสมาก่อน อินเดียประกาศอิสรภาพไปแล้วสิบกว่าปี โปรตุเกสก็ยังหน้าด้านไม่คืนให้แขกเขา อินเดียต้องส่งกำลังเข้าไปปลดปล่อยรัฐกัวใน ค.ศ.1961 (รวมทั้งเมืองเล็ก ๆ อีก 2 เมืองในรัฐมหาราษฏระกับรัฐคุชราต ที่โปรตุเกสครอบครองอยู่) รัฐกัวมีขนาดเล็กมาก ประมาณ 3,700 ตร.กม.พอ ๆ กับจังหวัดสระบุรี คือเล็กประมาณจังหวัดลำดับห้าสิบกว่า ๆ ของไทย
ตอนต้นปี ผมไปเที่ยวแคชเมียร์ ลงเครื่องที่เมืองศรีนาคา เมืองนี้มีประชากรประมาณ 1 ล้านคน แต่รัฐบาลอินเดียส่งทหารเข้ามาประจำการประมาณสามล้านคน ยิ่งนั่งรถเข้าไปใกล้ชายแดนปากีสถาน ทหารก็ยิ่งหนาแน่นมากขึ้น แต่พอขึ้นไปทางเขาหิมาลัย ใกล้พรมแดนจีน เจอแต่ตำรวจ ไม่มีทหารตามถนนให้เห็นเลย
คนแคชเมียร์ ดูคล้ายกับคนอิหร่าน ต่างจากคนอินเดียทั่วไป และไม่เหมือนปากีสถานหรืออัฟกันด้วย ไม่ใช้ภาษาฮินดี แต่พูดภาษาอูรดู ตามนอกเมืองอาจจะใช้ภาษาพัชตุนบ้าง แต่คนอินเดียแท้ ๆ มาที่นี่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ หมดสิทธิพูดฮินดี ส่วนคนทางใต้แถว ๆ เชนไน จะตัวเล็ก ๆ ผมหยิกเหมือนทางใต้ของไทย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
   
คะแนน 366
ออฟไลน์
กระทู้: 6023
|
 |
« ตอบ #116 เมื่อ: มีนาคม 09, 2016, 11:59:42 AM » |
|
-ขอบพระคุณครับ -ท่านผู้การเชื่อจริงหรือพูดเล่นครับ ที่ว่าคนใต้(หรือผม)มีญาติอยู่อินเดียใต้ (ผมนั้นเชื่อจริงครับ หน้าตาเราเหมือนกันมาก ผิวคล้ำหรือดำ ตัวหนา บางคนมีขนหน้าอกด้วย และนิสัยยังคล้ายกันอีก สมัยโบราณน่าจะมีคนแล่นเรือจากอินเดียใต้มาขึ้นฝั่งที่ปักษ์ใต้ คนศรีลังกาด้วยครับ เหมือนคนใต้มากเลย)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #117 เมื่อ: มีนาคม 09, 2016, 12:45:42 PM » |
|
-ขอบพระคุณครับ -ท่านผู้การเชื่อจริงหรือพูดเล่นครับ ที่ว่าคนใต้(หรือผม)มีญาติอยู่อินเดียใต้ (ผมนั้นเชื่อจริงครับ หน้าตาเราเหมือนกันมาก ผิวคล้ำหรือดำ ตัวหนา บางคนมีขนหน้าอกด้วย และนิสัยยังคล้ายกันอีก สมัยโบราณน่าจะมีคนแล่นเรือจากอินเดียใต้มาขึ้นฝั่งที่ปักษ์ใต้ คนศรีลังกาด้วยครับ เหมือนคนใต้มากเลย)
ใช่ครับ พวกทมิฬมาอยู่ในสุวรรณภูมินานกว่าสี่พันปีมาแล้ว นอกจากนำเอาอารยธรรมมาสอนพวกเรา เอาความรู้ด้านวิศวกรรมรวมทั้งนำเอาตัวอักษรมาเผยแพร่แล้ว ชาวทมิฬน่าจะเป็นพวกแรกที่ริเริ่มค้าโลหะในสุวรรณภูมิด้วย คำว่าตะกั่ว, ทองคำ หรือกะไหล่ ในภาษาไทยมาจากภาษาทมิฬ วรรณคดีชั้นสูงในอินเดียจะเป็นรูปแบบภาษาสันสกฤษมากที่สุด รองลงมาก็เป็นภาษาทมิฬ (อินเดียมีประมาณ 700 ภาษา ภาษากลาง 23 ภาษา ภาษากลางเฉพาะที่รัฐธรรมนูญอินเดียรับรองมี 15 ภาษา รายชื่อ 15 ภาษา จะพิมพ์ไว้ในธนบัตรรูปี) จารึกเก่าแก่ที่ค้นพบทางใต้ของไทยกับอินโดนีเซีย ก่อนยุคทวารวดี เป็นภาษาทมิฬ และผมจำได้ว่าภาษาทมิฬเป็นภาษาราชการภาษาหนึ่งของสิงคโปร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
   
คะแนน 366
ออฟไลน์
กระทู้: 6023
|
 |
« ตอบ #118 เมื่อ: มีนาคม 09, 2016, 01:44:11 PM » |
|
สนับสนุนรูปภาพ..จารึกหุบเขาช่องคอย นคร ฯ ครับ..ท่านว่าเป็นอักษร ปัลลวะ ภาษาสันสกฤต (กลุ่มชนผู้สร้างศิลาจารึกหุบเขาช่องคอยขึ้นนี้ จะต้องเป็นกลุ่มชนที่ใช้ภาษาสันสกฤตนับถือศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวะนิกาย และคงจะได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยในบริเวณนั้น เป็นการชั่วคราว ไม่ใช่กลุ่มชนที่อยู่ประจำถิ่น อีกทั้งยังได้กำหนดสถานที่บริเวณจารึกหุบเขาช่องคอยนั้น เป็นศิวะสถาน เพื่อปฏิบัติศาสนกิจตามจารีตของตน พร้อมๆ กันนั้นก็อบรมสั่งสอนให้ผู้อยู่ในสันนิบาตนั้น สำนึกในความเป็นคนต่างถิ่น พลัดบ้านเมืองมา ซึ่งสมควรประพฤติตนเป็นคนดี จะได้พำนักอาศัยอยู่ร่วมในสังคมที่มีขนบธรรมเนียมแตกต่างกัน ได้อย่างสุขสงบ)
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2016, 01:46:20 PM โดย poethipus »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #119 เมื่อ: มีนาคม 09, 2016, 02:28:58 PM » |
|
ไม่น่าจะเป็นภาษาสันสกฤตนะครับ ปกติอักษรปัลลวะจะใช้เขียนภาษาทมิฬและภาษามาลายาลัม ที่บอกว่าเป็นภาษาสันสกฤต อาจจะมาจากในภาษาทมิฬก็มีคำยืมจากภาษาสันสกฤตเป็นจำนวนมาก แต่จะเปลี่ยนรูปไปบ้างเช่น ชีว เป็นชีวัน นคร เป็นนครัม สุริย เป็นสุริยัน สตรี เป็นอิสตรี เห็นไหมครับว่าในภาษาไทย มีคำยืมจากภาษาทมิฬมากขนาดไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|